ระบบที่ไม่สามารถ undo

มะลิ ณ อุษา 2 กุมภาพันธ์ 2014

วันพรุ่ง คือ หมุดหมายสมมติที่อาจจะมาถึงหรือไม่ก็ได้ ในขณะที่วันวาน ก็เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว ไม่อาจทวนย้อนกลับมาใหม่ได้ นั่นหมายความว่า เราไม่อาจทำอะไรกับวันพรุ่งหรือวันวานได้ เราจึงมีเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น คือ วันนี้

ในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางชนิดจะมีโปรแกรมปฏิบัติการต่างๆ อาทิ โปรแกรมพิมพ์เอกสาร โปรแกรมตกแต่งภาพ หรือโปรแกรมตัดต่อวีดีทัศน์ บรรจุเอาไว้เพื่อให้การทำงานของเราสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยโปรแกรมเหล่านี้จะมีตัวช่วยเสริมที่เราคุ้นเคยกันดี เรียกว่า undo

หน้าที่หลักของเจ้า undo ตัวนี้ คือ การยกเลิกคำสั่งที่ผู้ใช้ทำไปก่อนหน้านั้น อย่างเช่น ถ้าหากเราพิมพ์ข้อความหนึ่งลงไปแล้วพบว่าสะกดคำผิด หรือเผลอไปกดปุ่มผิดทำให้ข้อความนั้นหายไป ก็สามารถ undo ยกเลิกสิ่งที่ทำไปได้ โดยคำที่เขียนผิดก็จะหายไป หรือข้อความที่หายไปก็จะกลับคืนมา ง่ายเพียงการกดปุ่มครั้งเดียว

เมื่อยี่สิบปีก่อน ก่อนที่เครื่องคอมพิวเตอร์จะกลายมาเป็นเครื่องมือจัดการเอกสารประจำบ้าน เครื่องพิมพ์ดีดเคยทำหน้าที่นี้มาก่อน เมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนผูกคอซอง การมีเครื่องพิมพ์ดีดไว้ในครอบครองถือว่าเป็นเรื่องที่โก้สุดๆ เพราะเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ยังต้องใช้วิธีเขียนรายงานด้วยมือ

เครื่องพิมพ์ดีดมีเสน่ห์อย่างหนึ่ง คือ การทำงานด้วยระบบที่เป็นกลไก ใช้แรงคนในการกดแป้นตัวอักษรให้คานเหล็กที่เกี่ยวกับคานอีกตัวกระดกขึ้น เพื่อให้ตัวอักษรเหล็กนูนกดผ้าหมึกสีดำลงบนกระดาษ ดังนั้น คนพิมพ์จึงต้องรู้น้ำหนักในการกดหรือเคาะแป้นพิมพ์เพื่อให้ตัวอักษรกดลงบนผ้าหมึกด้วยความเข้มที่พอดีๆ ถ้าแรงเกินไป หมึกจะกระจายขอบตัวอักษรจะไม่คม ถ้าเคาะเบาเกินไปสีหมึกก็จาง

และด้วยระบบกลไกเช่นนี้เอง เมื่อพิมพ์ผิดจึงไม่สามารถถอยหลังมายกเลิกหรือ undo ได้ และไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ลบคำผิดยี่ห้อใดๆ ก็ตาม ก็ยังคงทิ้งร่องรอยไว้บนกระดาษอยู่ดี ดังนั้น เวลาพิมพ์สัญญาหรือเอกสารสำคัญๆ คนพิมพ์จึงมักเกร็งหรือเครียดกันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ในความไม่สะดวกสบายนี้กลับทำให้เราพบว่า เราถูกฝึกให้มีสมาธิและใส่ใจกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ หากวอกแวกเมื่อไร ร่องรอยขูดขีดบนกระดาษก็จะประจานเราเมื่อนั้น

มีเรื่องที่พระไพศาล  วิสาโล กล่าวถึงท่านพุทธทาสกับการพิมพ์ดีดไว้ใน เรื่องเล่าวันพระ รู้ธรรมจากความประหยัด ว่า ต้นฉบับพิมพ์ดีดจำนวนหลายพันหน้าที่ออกจากสวนโมกข์สมัยที่ท่านพุทธทาสยังมีชีวิตอยู่นั้น ไม่เคยสัมผัสกับยางลบหมึกเลย เพราะเมื่อเวลาที่ลูกศิษย์พิมพ์ผิด ท่านจะแนะให้ลูกศิษย์ใช้เข็มซ่อนปลายค่อยๆ เขี่ยจนหมดรอยหมึก ด้วยเหตุนี้ ลูกศิษย์จึงต้องพิมพ์ดีดอย่างระมัดระวัง

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ทุกวันนี้วิทยาการด้านเทคโนโลยีได้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพื่ออำนวยสะดวกให้กับมนุษย์มากกว่ายุคสมัยใดๆ ในประวัติศาสตร์ เราสะดวกสบายกว่าแต่ก่อนมาก มากจนแทบไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเอง เราแทบจะไม่ต้องออกแรง แทบจะไม่ต้องรอคอย และแทบจะไม่ต้องคิดตัดสินใจอะไรเอง เพียงแค่เอื้อมมือไปกดปุ่ม หยอดเหรียญ หรือใช้ปลายนิ้วสไลด์เบาๆ สิ่งที่เราต้องการก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าในบัดดล

แต่ตราบเท่าที่จักรวาลยังคงกุมความลับบางอย่างเอาไว้ นักวิทยาศาสตร์ก็จะยังไม่สามารถประดิษฐ์เครื่องมือที่ใช้ undo ชีวิตมนุษย์ได้ และด้วยความที่เราต่างถือกำเนิดขึ้นมาในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง สวนทางกับการเติบโตของจิตวิญญาณที่ถดถอยลงทุกขณะ โมงยามนี้จึงเป็นช่วงเวลาแห่งความสับสนและโกลาหลอย่างยิ่งยวด

เราแยกไม่ออกว่าความสุขสบายทางกายกับความสุขสบายทางใจแตกต่างกันอย่างไร เราถูกค่านิยมที่บิดเบี้ยวบดบังทำให้มองไม่เห็นว่า ลึกๆ แล้วคุณค่าของเราอยู่ที่ไหน เราจึงทำได้เพียงหยิบฉวยเอาความสุขสบายทางกาย และเครื่องประดับภายนอก มาเติมลงไปในจิตใจที่ว่างเปล่า และไม่เคยตั้งคำถามหรือฉุกคิดเลยว่าทำไมมันถึงเติมไม่เต็มเสียที

ทุกครั้งที่เรารู้สึกผิด รู้สึกอับอาย หรือรู้สึกเสียดาย ต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไปแล้ว เราไม่สามารถเรียกคืนหรือยกเลิกสิ่งที่ทำลงไปได้ นี่คือ จุดสำคัญที่อยากชี้ชวนให้คุณมาพิจารณา มันไม่ใช่ความไม่สะดวก ไม่ใช่แม้กระทั่งอุปสรรคหรือปัญหาของชีวิต ตรงกันข้าม นี่เป็นเสน่ห์ของชีวิต

สังคมจะวุ่นวายขนาดไหนถ้าเราสักแต่ทำๆ โดยไม่คิดถึงสิ่งที่จะตามมา เพราะคิดว่า อย่างไรก็สามารถเรียกคืน หรือลบล้างความผิดพลาดได้อย่างหมดจด ภรรยาใช้ไม้หน้าสามตีศีรษะสามีที่กลับดึกและมีกลิ่นเหล้าฟุ้ง ตามด้วยคำผรุสวาทอีก 1 ชุดใหญ่ ก่อนจะลูบหลังเบาๆ แล้วบอกว่า ที่ผ่านมาเมื่อกี้นั้นขอ undo นะคะ

แม้ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายคนฟัง แต่ทันทีที่คำพูดหลุดออกจากปากของเราก็อาจทำให้คนฟังเสียใจไปแล้ว ทั้งที่ลึกๆ แล้ว เราอาจพูดออกไปด้วยความรู้สึกผิดหวังหรือน้อยใจก็ตาม จึงไม่แปลกที่มีเพื่อนที่ตัดสัมพันธ์อันยาวนานด้วยคำพูดไม่กี่คำ มีลูกที่คิดฆ่าตัวตายเพราะคำพูดเพียงประโยคเดียวของพ่อแม่ มีคนแปลกหน้าที่เอาปืนยิงกันเพราะคำพูดสองสามคำ ฯลฯ

ด้วยเหตุนี้ บุคคลที่ทำงานด้านการเยียวยาแขนงต่างๆ จึงมีความสำคัญและจำเป็นต่อคนในสังคมอยู่เสมอ โดยเฉพาะยุคปัจจุบัน ซึ่งไล่มาตั้งแต่สาขาวิทยาศาสตร์จนกระทั่งถึงไสยศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์ นักจิตบำบัด นักศิลปะบำบัด พระ บาทหลวง หมอดู หมอผี คนทรงเจ้า รวมไปถึงก้อนหิน ต้นไม้ วัตถุธาตุที่อยู่ตามป่าเขาด้วย ทั้งนี้ เป็นเพราะเราไม่อาจสลัดความทรงจำได้ด้วยตัวเอง (โดยเฉพาะด้านลบ) เราจึงต้องอาศัยพลังและความสามารถจากคนภายนอก

เราถูกค่านิยมทางสังคมบดบังจนมองไม่เห็นว่า ลึกๆ แล้วคุณค่าของเราอยู่ที่ไหน เราจึงทำได้เพียงหยิบฉวยความสุขจากวัตถุภายนอกมาเติมลงไปในจิตใจที่ว่างเปล่า ซึ่งไม่เคยเต็มเสียที

เรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นน้อยมาก หากเราเปิดโอกาสตัวเองให้เผชิญกับความยากลำบาก ความไม่สะดวกกาย ไม่สบายใจ เพื่อฝึกฝนตนเอง สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนกระแสน้ำเชี่ยวที่คอยขัดเกลาเรา การม้วนตลบ การกระทบกระทั่งที่เกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่ขัดเกลาเอาเปลือกของความหยิ่งยโส ความเห็นแก่ตัว ความต่างๆ ที่รวมๆ เป็นตัวกูของกูให้เบาบางลง

ทำไมต้องทำตัวเองให้ลำบากหรือเจ็บตัว สู้อยู่สบายๆ ไม่ดีกว่าหรือ?

คุณถาม พร้อมกับปล่อยตัวเองให้ลอยไปตามกระแสน้ำ คุณอาจร้องเพลงด้วยความสบายอกสบายใจ รื่นรมย์กับฝูงปลาและแสงแดดอุ่น จนวันหนึ่งคุณอาจจะพบว่า ตัวตนอันขรุขระและเทอะทะไปติดค้างอยู่ตามรากไม้ และจ่อมจมอยู่ตรงนั้นเนิ่นนานจนตะไคร่ขึ้นหนา ถึงตอนนั้นก็อาจสายเกินไปที่จะพาตัวเองออกมาจากโคลนตมที่ทับถมจนหนาเตอะ

เราไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันนั้น แล้วจึงค่อยหาทางออก เราสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ตอนนี้ ด้วยการชะลอชีวิตให้ช้าลง ใส่ใจกับสิ่งที่กำลังทำมากขึ้น เลือกวิธีการที่จะได้ใช้ความคิดและออกแรงให้มากขึ้น ถอดปลั๊กระบบปฏิบัติการอัตโนมัติเสียบ้าง และใช้ชีวิตแบบทำเองกับมือ (Manual) เสียบ้าง ลองใช้ชีวิตแต่ละขณะให้เหมือนกับกำลังกดน้ำหนักลงบนแป้นพิมพ์ ด้วยความใส่ใจและระมัดระวัง แม้ยามที่เผลอไผลผิดพลาดไป ก็ขอให้คิดว่า ร่องรอยของการขูดขีดจะช่วยย้ำเตือนให้เรายิ่งใส่ใจและระมัดระวังมากขึ้น แล้วจะพบว่า จำนวนความรู้สึกผิด ความอับอาย และความเสียดายจะลดลง


เครดิต

มะลิ ณ อุษา

ผู้เขียน: มะลิ ณ อุษา

คือ...ผู้หญิงธรรมดา รักการเดินทางพอๆ กับการอยู่บ้าน แต่ที่รักมากกว่า คือ การเรียนรู้ชีวิต วันดีคืนดี คุณอาจเห็นเธอนั่งวาดภาพอยู่ข้างถนน อ่านบทกวีอยู่ในกระโจมกลางป่า สอนหนังสือเด็กๆ ในชนบท ปลูกต้นไม้ในสวนเล็กๆ หรือนวดแป้งอยู่หน้าเตาดิน ไม่ต้องแปลกใจ เธอทั้งหมดคือคนๆ เดียวกัน