รำลึกหลวงพ่อคำเขียน: ความเมตตาไม่มีประมาณ

ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ 31 สิงหาคม 2014

ช่วงเช้าของวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ข่าวการละสังขารของหลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณก็เข้ามาถึงพวกเราขณะกำลังเริ่มกระบวนการงานอบรม หลวงพ่อเป็นครูบาอาจารย์ผู้เป็นที่เคารพรักของเหล่าลูกศิษย์ลูกหา ตลอดจนผู้คนจำนวนมากที่ได้มีโอกาสพบปะและรู้จักท่าน  ข่าวนี้ไม่ได้สร้างความประหลาดใจนัก ในช่วงบั้นปลาย หลวงพ่อถูกโรคภัยเบียดเบียนแต่ก็เพียงด้านร่างกายเท่านั้น  ข่าวนี้ทำให้พวกเรารู้สึกสั่นสะเทือนในจิตใจ รู้สึกและเข้าใจได้ถึงความรู้สึกอาลัยรัก พร้อมกับบางวูบของความรู้สึกกำพร้าก็เข้ามา  พวกเราพร้อมใจกันนั่งภาวนาให้กับหลวงพ่อ

ตลอดช่วงการล้มป่วยด้วยมะเร็งในคราวนี้ หลวงพ่อเตรียมพร้อมรับความตายมาตลอด และยังใช้โอกาสนี้เป็นโอกาสสอนธรรมแก่พวกเรา “ขอสั่งลาทุกๆ ท่าน ธาตุขันธ์คงอยู่อีกได้ไม่นาน แต่ความเป็นกัลยาณมิตรยังอยู่ตลอดไป”  “สั่งลามิตรสหายทุกท่าน ธาตุขันธ์ไม่มีวันที่จะอยู่ได้นาน  ขอให้เน้น สติ ปัญญา แทน เป็นปากเป็นเสียงแทน ตามที่หลวงพ่อเทียนสอน  พวกเราถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้จริง  เวลานี้มีแต่ปล่อยวาง ไม่เป็นอะไรกับอะไร”

หลวงพ่อมีลูกศิษย์ รวมถึงผู้ที่เคารพรักท่านมากมาย แน่นอนว่าความเคารพรักนี้ แต่ละคนก็มีมุมมองและการแสดงออกที่แตกต่างกันทั้งความคิดและการกระทำ  ประสบการณ์ธรรมะและชีวิตทำให้หลวงพ่อเลือกที่จะสั่งเสียและกำชับให้การจัดงานศพของหลวงพ่อเป็นไปอย่างเรียบง่ายที่สุด

“ในงานศพให้จัดแบบพระที่จน อย่าฟุ่มเฟือย” “เผาที่เมรุวัดภูเขาทอง ห้ามตั้งเมรุลอย ให้พระเป็นเจ้าภาพ  เผาเสร็จแล้วเก็บขี้เถ้าไปฝังตรงใต้ต้นจาน หน้าศาลาน้ำใสก่อนจะสว่าง อย่าทันให้โยมเห็น  ถ้าจะเป็นการสวดศพก็ให้เป็นการแสดงธรรมแทนการสวดอภิธรรม โดยมีพระไพศาลเป็นประธาน  แต่จะขอตายที่ สุคะโต  นำไปเผาที่ภูเขาทอง ก็ได้ใช้ชีวิตที่มีคุณค่าแล้ว  ไม่ได้ทำบาปกรรมอะไร ชั่วไม่ทำเด็ดขาด ดีทำไปใจบริสุทธิ์  ความดีที่ทำขอให้เป็นของป่าไม้ แม่น้ำ แผ่นดิน อากาศ  อย่าทำบุญ ขอให้ทุกคนทำบุญเอง  ไม่มีแรงเขียนหนังสือ ขอจบไว้ก่อน มีแรงก็จะขอเขียนต่ออีก”

ภาพถ่ายหลวงพ่อคำเขียน สุวณโณ และพระไพศาล วิสาโล ที่วัดป่ามหาวัน

จริยาวัตรของหลวงพ่อที่หลายคนทราบดี คือ ความเรียบง่าย ความใส่ใจ เกรงใจและเมตตาต่อผู้อื่น  หลวงพ่อมีเมตตาและเกรงใจผู้อื่นเสมอ  และหลวงพ่อคงทราบดีกระมังว่าหากหลวงพ่อไม่สั่งเสียอะไร การจัดงานศพคงเป็นประเด็นใหญ่โต ถกเถียงมากมายว่าจะจัดอย่างไร  และสิ่งสำคัญคือ จริยาวัตรที่ไม่อยากให้คนอื่นลำบากเพราะตน

ความรัก ความเมตตาของหลวงพ่อเป็นสิ่งที่อยู่ในเนื้อตัวและการดำเนินชีวิตของท่านมาโดยตลอด  ผู้เขียนสมัยเป็นพระที่จำพรรษากับหลวงพ่อ กิจกรรมที่ดำเนินมาตลอดจนทุกวันนี้คือ การปลูกป่า นอกเหนือจากการสอนธรรมะ เจริญสติ  แม้ผู้เขียนจะลาสิกขาและรวมถึงหลายคนที่ได้ไปเยี่ยมเยือน พลังความรัก ความเมตตาของหลวงพ่อก็ไม่เคยแปรเปลี่ยน ราวกับธารน้ำที่ช่วยเติมเต็มพลังชีวิตให้กับทุกคนที่ได้มีโอกาสพบปะ สนทนา ฟังธรรม และกราบเคารพท่าน

บทเรียนเรื่องความรัก ความเมตตาที่ผู้เขียนมีโอกาสได้ประสบและเรียนรู้จากหลวงพ่อ จากความเป็นหลวงพ่อและยังเป็นสติข้อเตือนใจให้ผู้เขียนรู้ตื่นในเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อ ๒ ปีที่ผ่านมา  จำได้ว่าวันสุดท้ายของการเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมที่วัดป่ามหาวัน ในวันสุดท้าย เครือข่ายพุทธิกามีโอกาสได้ฟังธรรม และช่วงการกราบลาก็ได้มีโอกาสถ่ายรูปหมู่  ผู้เขียนได้รับโอกาสที่ดีโดยได้มีโอกาสนั่งใกล้ๆ หลวงพ่อ สิ่งที่ประสบและสร้างความประทับซาบซึ้งใจก็คือ หลวงพ่อลูบแผ่นหลังของผู้เขียนไปมา  การได้มีโอกาสได้รับสัมผัสความรักจากครูบาอาจารย์ครั้งนี้  สำหรับผู้เขียนถือเป็นของขวัญความรัก ความเมตตาอย่างสุดวิเศษ  สิ่งสำคัญคือ การได้พลิกเปลี่ยนมุมมองต่อความรักแบบไม่มีเงื่อนไขชนิดกลับหลังหัน

วันสุดท้ายของการเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมที่วัดป่ามหาวัน ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับ

หลายคนมีความเข้าใจว่า ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข คือ ความรักที่ฝ่ายหนึ่ง อาจมาจากพ่อแม่ คนรัก หรือครูอาจารย์ มีความรักอย่างเต็มที่ เสียสละเพื่อลูก เพื่อคนรัก เพื่อลูกศิษย์อย่างเต็มที่ และไร้เงื่อนไข โดยไม่ใส่ใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรหรืออย่างไร  หลายคนจึงมักรอคอยและคาดหวังความรักชนิดนี้จากพ่อแม่ คนรัก หรือครูอาจารย์ด้วยการเรียกร้อง  แต่เหตุการณ์ที่ผู้เขียนได้รับสัมผัสจากหลวงพ่อ ทำให้ผู้เขียนเกิดความตระหนักรู้ใหม่ขึ้นมาว่า

ความรัก ความเมตตาแบบไม่มีเงื่อนไขนั้น แท้จริงมีอยู่และดำรงอยู่แล้ว และความรักชนิดนี้ก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเลือกให้กับใคร มากน้อย หรืออย่างไร  เราเป็นแค่ชีวิต ส่วนเสี้ยวของระบบความสัมพันธ์ที่ดำรงอยู่ ผ่านมาและก็ผ่านไป  ผู้เขียนพบว่าความรัก ความเมตตาจากหลวงพ่อที่ส่งผ่านสัมผัสแผ่นหลังขณะนั้น แท้จริงหลวงพ่อก็มีความรัก ความเมตตาให้กับทุกคน  หาก ณ จังหวะเวลาขณะนั้น คนอื่นมาอยู่ก็จะได้รับสัมผัสความรักนั้นจากหลวงพ่อเช่นกัน

ประสบการณ์นี้ทำให้ผู้เขียนพบว่า ความรักแบบไม่มีเงื่อนไขแท้จริงมีอยู่และดำรงอยู่  ต้นกำเนิดอาจไม่ได้มาจากบุคคล แต่มาจากคุณความดีที่ดำรงอยู่ในตัวบุคคล ในระบบความสัมพันธ์ ในธรรมชาติ  และไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ว่าผู้รับจะเป็นใคร หรืออะไร อย่างไร แต่เป็นเรื่องของระบบความสัมพันธ์ ธรรมจัดสรรที่เป็นไปตามเหตุ และปัจจัยโดยไม่มีการบังคับกฎเกณท์  บทเรียนล้ำค่าทำให้ผู้เขียนได้เข้าใจถ่องแท้ถึงธรรมชาติจริยาวัตรของหลวงพ่อที่สำคัญอีกประการด้วย คือ คุณงามความดีที่เรียกว่า “ความอ่อนน้อมถ่อมตน”  เราแต่ละคนเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเล็กๆ เท่านั้นในระบบความสัมพันธ์

กราบระลึกถึงหลวงพ่อ ผ่านบทเรียนชีวิต คำสอน แบบอย่างคุณงามความดีของการดำเนินชีวิตของ หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ  และการมีความรู้สึกตัว เป็นเครื่องดำรงและอยู่รอดของชีวิต

ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ

ผู้เขียน: ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ

นอกเหนือจากบทบาทนักเขียนประจำคอลัมน์ งานสำคัญ คือ กระบวนกร นักจิตปรึกษา, enneagram coach สนใจและรักที่จะทำงานด้านการทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงกับโลกภายในผ่านทักษะ ประสบการณ์เรียนรู้ทั้งงานอบรม การทำจิตปรึกษา และงานเขียน