ความจริงฉันเพียงแต่อยากใช้จอบสับดอกหญ้า-เอาเสียงเป็นจังหวะกำหนดจิตเท่านั้น

คราวไปร่วมเดินธรรมยาตรา พระท่านบอกว่า-ให้เอาเสียงกลองเป็นนิมิต

เมื่อฉันถาม  ท่านขยายความให้ฟังว่า ความจริงใช้จังหวะลมหายใจเข้าออกก็ง่าย แต่อาจละเอียดอ่อนเกินไปสำหรับเด็กๆ หรือนักภาวนาหัดใหม่ ก็ให้เอาเสียงอะไรที่มันชัดๆ อย่างเสียงกลองที่ตีนำขบวนอยู่นั่นล่ะเป็นที่หมายใจ

ท่านบอกด้วยว่า นิมิต ในที่นี้ก็ไม่ใช่การนั่งหลับตาเห็นแสงสีหรืออะไรที่มันเหนือจริง  แต่แปลตรงตัวว่า ที่หมาย

ใช้จอบสับดอกหญ้าบนลานดินหน้าบ้านไป เอาเสียงจอบจิกดินเป็นที่หมายใจ  แต่สักพักสายตาก็หันไปเห็นหลุมบ่อขนาดเท่าจานข้าวเท่าชามกระจายกันอยู่ตรงนั้นตรงนี้อยู่เป็นหย่อมๆ

ก็คิดว่าถ้าได้ขุดย้ายดินไปถมให้เรียบสวยทั้งลาน ก็น่าจะดีกว่าแค่ดายดอกหญ้า

เลยเปลี่ยนมาใช้จอบจวกหน้าดินขนไปทีละหน้าจอบ ทยอยถมกลบหลุมพวกนั้น

ผู้เฒ่าบ้านข้างเคียงรู้ว่าฉันกลับมาบ้านก็ถ่อสังขารมาเยี่ยม เดินโยกเยกกะโผลกกะเผลกโดยมีพร้าเล่มหนึ่งยันพื้นต่างไม้เท้า  กว่าจะพ้นเนินควนขึ้นมาถึงหน้าบ้านเราก็เล่นเอาแกเหนื่อยหอบหน้าซีด แต่ยังมีอารมณ์ขันพูดเล่นชวนหัวตามสไตล์ของแกว่า-ที่มานี่จะมาดูว่าหลุมบ่อบนถนนหน้าบ้านนั่นน่ะ มันลึกพอจะเอาผู้ใหญ่บ้านกับกำนันตำบลเรามาฝังได้รึยัง–โทษฐานที่ไม่สนใจปรับปรุงถนนหนทางบ้างเลย

ถนนเส้นที่ผ่านหน้าบ้านเกิดของฉันที่กระบี่ไม่ได้รับการซ่อมแซมมานาน จนเป็นร่องหลุมหล่มบ่ออยู่ทั่ว  ช่วงทางลงควนตรงหน้าบ้านฉันเป็นหลุมลึกขนาดถังน้ำมัน ๒๐๐ ลิตร ที่ผู้เฒ่าว่าน่าเอาตัวผู้ใหญ่บ้านกับกำนันมาถมหลุมนั่น

และแกเปรยด้วยว่า-ถ้ายังบายๆ เหมือนเมื่อก่อน แกกับพ่อของฉันคงชวนกันขุดดินมาถมกลบเสียตั้งนานแล้ว อย่างที่เคยทำกันมาตลอดเมื่อยังอยู่ในวัยทำงาน

แต่ความชราได้ขโมยศักยภาพพวกนั้นจากแกไปหลายปีแล้ว

พ่อก็แก่เกินจะขุดดินถมถนนได้อีก

จากถมหลุมบนลานหน้าบ้าน ก็คิดว่าน่าจะดีหากออกไปถมหลุมบ่อบนถนนด้วย นั่นมันก็หน้าบ้านเราเหมือนกันนี่นา

ผู้เฒ่ากลับไปแล้วแต่คำพูดแกยังก้องอยู่ในหูฉัน  เมื่อเดินออกไปริมถนนเห็นต้นไม้ต้นหญ้ารกๆ ริมทางถูกหวดราบไปเป็นหย่อมๆ คงด้วยคมพร้าผู้เฒ่าระหว่างเดินลงควนกลับไปนั่นเอง

ฉันแหวกหญ้าหาหินก้อนใหญ่ๆ มารองก้นหลุม  ที่ยกคนเดียวไม่ไหวก็เรียกคนข้างกายมาช่วยหาม เป็นกระแสจิตอาสาที่เกิดความต่อเนื่องขึ้นอย่างง่าย  อีกทั้งการเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ทำสิ่งดีๆ ยังถือเป็นวิธี “ฉลาดทำบุญ” แบบหนึ่งด้วย

พอเธอบอก-จะรีบๆ ทำให้เสร็จ จะได้ไปทำอย่างอื่นต่อ  ก็ได้ทีชี้ธรรมเธอไปด้วย ว่านี่เป็นโอกาสในการภาวนานะ (ฮา)

ใช้หินรองก้นหลุมจนแน่นหนาพอแล้ว ก็เอาจอบมาขุดดินข้างทางโยนลงถมทับ  งานหนักเหนื่อยกว่าตอนสับดอกหญ้าหน้าบันไดบ้าน  เหงื่อชุ่มโชกกาย

ระหว่างนั้นมีคนขับรถผ่านทางมาเห็นอยู่เป็นระยะ  ก็ได้เฝ้าดูใจที่ฟูของตัวเองไปด้วย-ยามที่คนขับรถเหล่านั้นมองเราด้วยสายตาชื่นชม

แม้ว่าจะเป็นงานจิตอาสาเพื่อสาธารณะโดยแท้  แต่ก็ก่อผลกระทบมิใช่น้อย

พอรื้อหินบางก้อนขึ้นมาก็พบว่าข้างใต้นั้นเป็นรังที่อาศัยของฝูงมด  บางทีทุ่มก้อนหินลงโคลนไปแล้วถึงได้เห็นมดน้อยใหญ่พยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากโคลนหนืดข้นคลัก

พอเอาจอบขุดดินโยนลงกลบหลุมก็ได้เห็นว่ามีพวกไส้เดือนติดมาด้วย มันถูกพรากจากรวงรัง ออกมาเกลือกกลิ้งอยู่บนถนน ซึ่งอีกไม่นานล้อรถก็จะมาบดทับแบน

นี่แค่การปิดปากหลุมเล็กๆ บนผิวถนน ยังเบียดเบียนสร้างผลกระทบต่อสรรพชีวิตมากถึงเพียงนี้

ลองนึกต่อไปถึงภาพขยาย–อย่างการปิดช่องเขาหรือสายน้ำสร้างเขื่อนใหญ่ๆ  ก็นึกหวั่นไหวใจหายจนแทบไม่กล้าคิดต่อ ว่ามันย่อมต้องก่อผลกระทบอย่างมหาศาลเพียงใด!

วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง

ผู้เขียน: วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง

เกิดในครอบครัวชาวสวนยางจังหวัดกระบี่ ทำงานเขียนสารคดีมา ๒๐ กว่าปี มีผลงานกว่า ๓๐ เล่ม เคยได้รับรางวัลชนะเลิศ "ลูกโลกสีเขียว" (ปี ๒๕๕๑) รางวัลชนะเลิศ "เซเว่นบุ๊ค อวอร์ด" (ปี ๒๕๔๙ และ ๒๕๕๔) ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสาร "สารคดี" โดยยังคงเขียนสารคดีอยู่เป็นประจำ