พรปีใหม่

พระไพศาล วิสาโล 28 ธันวาคม 2005

(พระไพศาล วิสาโล แสดงธรรมเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ที่มูลนิธิโกมลคีมทอง เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2548  เรียบเรียงโดย วีระศักดิ์  จันทร์ส่งแสง)

เทศกาลปีใหม่มีความหมายกับคนสมัยนี้มาก เพราะมันเป็นเทศกาลแห่งความหวัง

คนเราเมื่อปีใหม่ใกล้เข้ามาก็มีความหวังว่าเราจะได้พบสิ่งใหม่ๆ ทำให้ชีวิตนี้ดีขึ้นหรือเจริญก้าวหน้ามากขึ้น เราชอบความแปลกใหม่  ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้เรามองออกไปข้างหน้า เพราะคนเราบางทีอดหวนคิดอาลัยหรือหมกมุ่นกับสิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่ได้  เมื่อจะต้องก้าวไปข้างหน้าแล้ว เราก็ควรก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย ละทิ้งสิ่งที่เป็นเครื่องขุ่นข้องหรือกังวลใจหรือเป็นภาระไว้ข้างหลัง  อันนี้เป็นความหมายของเทศกาลปีใหม่ที่มีผลต่อผู้คนจำนวนมาก

คนทั่วไปก็หวังว่าจะให้สิ่งที่ดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของตัวเอง

สิ่งดีๆ ที่เป็นยอดปรารถนาของคนปัจจุบันคือทรัพย์สินเงินทองความมั่งคั่งมั่งมี อาจจะรวมไปถึงชื่อเสียงเกียรติยศ ตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือรองลงมาก็อาจจะหมายถึงสุขภาพพลานามัย รวมไปถึงความสัมพันธ์ที่ราบรื่นกับคนรักหรือกับเพื่อนร่วมงาน

แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปแล้ว การที่มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ไม่ใช่หลักประกันเสมอไปว่าเราจะมีความสุขหรือมีชีวิตที่ดี  เพราะคนจำนวนไม่น้อยเมื่อประสบความสำเร็จ มีเงินมีทองไหลมาเทมา มีชื่อเสียงเกียรติยศเพิ่มขึ้น เขาก็ไม่ได้มีความสุขมากขึ้นเลย และบ่อยครั้งชีวิตของเขาก็ไม่ดีขึ้นด้วย

มีเงินมากขึ้นแต่ว่าความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวล้มเหลว มีชื่อเสียงเกียรติยศมากขึ้นแต่ว่ามีความเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างในชีวิต  ฉะนั้นการที่เราจะหวังแค่ให้มีสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา มันคงไม่พอ และคงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ

ถ้าเราหวัง ก็น่าจะหวังให้มีความเปลี่ยนแปลงที่ดีๆ ในจิตใจของเรา

มันต่างกันระหว่างการมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในชีวิต กับการเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีในจิตใจ อย่างหลังนี้อาจเกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของเราก็ได้

การที่เรามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตของเรา ไม่ทำให้เรามีความสุข หรืออาจสุขได้เพียงชั่วคราว  แต่ถ้าเราเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีในจิตใจแล้ว มันเป็นหลักประกันว่าจะทำให้เรามีชีวิตที่ผาสุขได้  แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราจะเป็นไปในทางลบ ประสบความล้มเหลว มีโรคภัยไข้เจ็บ งานการไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร หรือว่าเงินทองก็ร่อยหรอฝืดเคือง

ถ้ามีความเปลี่ยนแปลงที่ดีเกิดขึ้นในจิตใจของเราแล้ว ความผันผวนหรือความเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ก็ทำอะไรเราไม่ได้

คนเราไม่สามารถไปควบคุมสิ่งแวดล้อมว่าจะต้องมีแต่สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต แต่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้คือการปรับเปลี่ยน หรือการสร้างเสริมคุณภาพภายในของเราเพื่อที่จะทำให้เราเผชิญกับมัน  ความเจ็บป่วยไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคอย่างเดียว ปัจจัยสำคัญคือร่างกายของเรา โดยเฉพาะภูมิคุ้มกันว่ามันมีความเข้มแข็งหรือเปล่า

ความทุกข์ในจิตใจของเราก็เหมือนกัน บ่อยครั้งมันเกิดจากการที่เราแสดงออกตอบโต้ที่เกินจริง หรือที่ภาษาฝรั่งเรียกว่า overreact  จิตใจของเรามี overreact  เรื่องเล็กๆ น้อย แต่เราไปทำให้เป็นเรื่องใหญ่  คำตำหนิติเตียน ความพลั้งพลาดพลั้งเผลอ ของหาย เพื่อนไม่มองหน้า เพื่อนไม่ยิ้มให้ บางคนก็เป็นทุกข์ เป็นวัน เป็นอาทิตย์ เป็นเดือน หรือเป็นปี  ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่จิตของเรามันมีแนวโน้มที่จะไป overreact กับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ที่กระทบกับชีวิตของเรา

ถ้าเราพยายามฝึกจิตของเราไว้ให้ดี ให้มีสติ ให้มีปัญญา ให้รู้จักปล่อยรู้จักวาง ความผันผวนปรวนแปรในชีวิตก็เข้ามาทำลายเราไม่ได้ เงินหายก็ไม่ทุกข์ เพราะมองว่าดีที่หายแค่ร้อยไม่หายเป็นพัน ถึงหายเป็นพันก็ยังดีที่ไม่หายเป็นหมื่น

วันปีใหม่หรือชีวิตใหม่ของเราก็ขอให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในใจจิตใจเรา ส่วนจะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตของเราหรือไม่ ให้ถือเป็นเรื่องรอง  ถ้ามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นก็ดีไปหรือถือว่าเป็นโชค แต่ถึงแม้ว่ามันจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีกับชีวิตก็มั่นใจได้ว่าเราจะไม่ทุกข์ เพราะเราได้สร้างคุณภาพใหม่ให้แก่จิตของเราอยู่แล้ว

ถ้ามีความเปลี่ยนแปลงที่ดีเกิดขึ้นในจิตใจ ความผันผวนหรือความเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ก็ทำอะไรเราไม่ได้

ในชาดกเรื่องหนึ่งเล่าว่า ในสมัยที่พระพุทธเจ้าเกิดมาเป็นดาบสซึ่งปฏิบัติธรรมจนกระทั้งพระอินทร์นับถือและเสด็จมาจะให้พร 4 ประการ ขออะไรก็ได้  ดาบสขอไปเสร็จก็มานั่งคิดดู ท่านบอกว่าไม่เอาดีกว่า ขอข้อเดียวพอ คือขออย่าให้ท่านมายุ่งกับเราเลย เพราะถ้าท่านมาเราก็คอยพึ่งท่าน ทำให้เราไม่พึ่งตนเอง ก็เลยไม่ขออะไรทั้งสิ้น  นี่ก็เป็นท่าทีชาวพุทธ คือถึงที่สุดแล้วเราต้องพึ่งตนเอง ซึ่งก็แปลกนะที่มันไปตรงกับคติของคนญี่ปุ่น ที่เขาจะไม่อวยพรว่าให้ “โชคดี” เขาบอกว่า “ขอให้สู้ต่อไป”

พรในวันขึ้นปีใหม่ก็ขอให้ “เราสู้ต่อไป” ขอให้เราพยายามได้สร้างเสริมคุณภาพใหม่ให้กับจิตใจของเรา ให้มีสติ ให้มีปัญญา รู้จักมองโลกในแง่บวก

คนทุกวันนี้ เงินหายร้อยบาทก็เป็นทุกข์ ทั้งที่ตนเองมีเงินในกระเป๋าเป็นหมื่น มีเงินอยู่ในธนาคารเป็นแสน  เงินที่เป็นแสนไม่ทำให้เราเป็นสุข เพราะเราไปจดจ่อกับเงินร้อยเงินพันที่หาย

เรามักให้ความสนใจกับสิ่งที่เราไม่มี มากกว่าสิ่งที่เรามี ทั้งที่สิ่งที่เรามีเยอะแยะ สิ่งที่เราไม่มีอาจจะมีไม่กี่อย่าง แต่ว่าเราก็ทุกข์กับสิ่งที่เรามีเยอะแยะไปหมด  ปีที่ผ่านมา หรือปีนี้ที่กำลังจะผ่านไป หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นปีที่ไม่ดีเท่าไหร่  แต่ว่าลองมองกลับไปใหม่ อาจจะพบว่าที่เรารู้สึกไม่พอใจอาจเป็นเพราะว่าเราสนใจแต่จุดเล็กๆ เราไม่ได้เห็นส่วนดีๆ ที่ชีวิตของเราได้ผ่านมา  พอเราหันกลับไปมอง สิ่งที่ไม่ดีถ้าเราสรุปเป็นบทเรียน อาตมาเชื่อว่าเราจะได้ประโยชน์ ได้บทเรียนชีวิตที่มีคุณค่าและถือว่าเป็นของขวัญที่ดีสำหรับชีวิตของเราในปีต่อไปด้วย

ขอให้เรามีความมั่นใจ มีความหวัง หวังว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นแก่จิตใจของเรา เพื่อที่จะเผชิญกับทุกอย่างข้างหน้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม


ภาพประกอบ

พระไพศาล วิสาโล

ผู้เขียน: พระไพศาล วิสาโล

เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต และประธานมูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา