รับมือกับอารมณ์ด้านลบ

ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ 8 เมษายน 2018

แทบทุกวันหยุดโดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว สมชายมักจะมีกิจกรรมท่องเที่ยวออกต่างจังหวัด ไปต่างประเทศตามแต่วาระโอกาส หรือหากช่วงวันหยุดที่สมชายไม่ได้ไปไหน กิจกรรมที่สมชายโปรดปรานมากก็คือ ดูภาพยนตร์ เดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า  ขณะที่สมชัยมักใช้เวลากับการอ่านหนังสือ ดูซีรีย์ เล่นเกมส์ หรือมีกิจกรรมสังสรรค์กับเพื่อน การอยู่กับเพื่อน มีกิจกรรมสังคมกลายเป็นเรื่องปกติ

คนจำนวนมากมีสภาพไม่ต่างจากสมชายและสมชัย คือ การเสพติดกิจกรรมเพื่อพาตัวเองหนีไปจากอารมณ์ความรู้สึกบางอย่าง คือความเหงาและความเบื่อหน่าย

ทั้งสมชายและสมชัยยอมรับว่า ตนเองมักรู้สึกเบื่อหน่าย และนั่นเป็นสาเหตุให้พวกตนต้องมีกิจกรรมวุ่นวายกับภายนอก เพื่อเติมเต็มความรู้สึกสนุกสนานตื่นเต้นอยู่เสมอ โชคดีที่ทั้งสองมีประสบการณ์เลวร้ายกับการเสียพนันบอล ทำให้เข็ดขยาด แต่ก็ยังพอใจกับการเล่นหวยพอให้สนุกและตื่นเต้น

สิ่งที่น่าสนใจคือ ทั้งสองไม่ยอมรับว่าตนรู้สึกเหงา ราวกับว่าการยอมรับความรู้สึกนี้เป็นเรื่องน่ากลัว และทำให้ความรู้สึกเหงาจะมีอิทธิพลกับพวกเขาจริงๆ พวกเขาเชื่อว่าการไม่ยอมรับช่วยให้เขาเป็นอิสระ ไม่ถูกความเหงาจองจำ

ความรู้สึกว่า ไร้คุณค่า เป็นอีกความรู้สึกที่มักคุกคามสมชายและสมชัย แต่ทั้งสองก็ไม่รู้ว่าตนเองถูกความรู้สึกนี้คุกคาม กิจกรรมท่องเที่ยว เดินเล่น ดูภาพยนตร์ ก็ช่วยให้ทั้งสองผ่านเวลาที่ทอดยาวพอไปได้

ทั้งสองเกษียณออกจากงานตั้งแต่อายุเพียง 55 การงานที่เป็นเสมือนบ้านพักพิงขาดหายไป ทั้งสองยอมรับว่า ความสุขที่คาดฝันว่าจะได้รับความเพลิดเพลินเต็มที่ จากการได้ท่องเที่ยวตามใจตนเองหลังเกษียณ จบสิ้นลงในเวลาไม่ถึง 2 ปี  ความรู้สึกว่าชีวิตของตนดูเปล่าประโยชน์ กลายเป็นความรู้สึกที่ประสานมือกับความเบื่อหน่าย ความเหงาคอยทิ่มแทงจิตใจพวกเขา

ความรู้สึกเบื่อหน่าย ความเหงา ความรู้สึกไร้ค่า คือโรคระบาดที่คุกคามชีวิตผู้คนมากมายในสังคมบริโภคนิยม  ในวัยหนุ่มสาว วัยกลางคน สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงทำให้พวกเขามีโอกาสสู้รบตบมือกับโรคร้ายเหล่านี้ได้ไม่ยากลำบากนัก  แต่ในวัยชราและหากมีอาการเจ็บป่วย การต้องเผชิญกับโรคร้ายทั้งสามถือเป็นภัยคุกคาม  คนสูงวัยจำนวนมากยึดติด กังวล หมกมุ่นเรื่องราว ใส่ใจบางเรื่อง เพื่อหนีห่างโรคร้าย แต่โรคร้ายนี้เกาะกุมรุมเร้าคนสูงวัยอย่างรุนแรง

วันหนึ่งราวกับโชคชะตามาช่วยเหลือ ด้วยเหตุบังเอิญสมชายได้ลูกแมว ขณะที่สมชัยได้ลูกหมามาไว้ในความดูแลโดยมิได้ตั้งใจ การได้ดูแลสัตว์เลี้ยงทำให้ทั้งสองได้หันเหความใส่ใจ ที่มักหมกมุ่นแต่กิจกรรมหาความเพลิดเพลินให้ตนเอง ได้มาใส่ใจสัตว์เลี้ยง

การต้องคอยทำความสะอาด ดูแลยามป่วยไข้ ซึ่งทั้งสองเคยรังเกียจ แต่เมื่อได้ทดลองทำ ทั้งสองได้พบความรัก ความผูกพัน  สิ่งที่น่าสนใจคือ การได้พบว่าสัตว์เลี้ยงรักตน ทำให้ทั้งสองพบว่าชีวิตของตนมีความหมาย

สมชายและสมชัยพบว่าก่อนหน้านั้น พวกเขาคาดหวังว่าตนเองจะได้พบเรื่องราวสนุกสนาน หนีห่างจากความเหงา ความเบื่อ และไร้ค่าได้ แต่การได้ดูแลและทำประโยชน์ให้กับสัตว์เลี้ยง มันช่วยเติมเต็มความหมายให้กับชีวิตของพวกเขา  ความคาดหวังที่เคยวาดหวังกลายเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้น เพราะแท้จริง สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ การมีความหมาย การมีคุณค่าในชีวิต

การเติมเต็มความสนุกสนาน ตื่นเต้นให้กับชีวิต อาจทำให้เราได้ความมีชีวิตชีวา แต่ความต้องการสำคัญของทุกคนคือ การได้และรับความรัก การมีคุณค่า ความหมาย

ความรู้สึกเชิงบวกเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ขณะที่ความรู้สึกเชิงลบเป็นสิ่งที่ทุกคนผลักไส  แต่อะไรก็ตามที่เราผลักไส สิ่งนั้นก็กลายเป็นสิ่งบงการชีวิตที่คอยควบคุมให้เราต้องผลักไสขับไล่มันตลอดเวลา ซึ่งหมายถึงชีวิตของเราถูกควบคุมด้วยสิ่งไม่ชอบใจให้ต้องคอยผลักไส และถูกบังคับด้วยสิ่งชอบใจให้เราต้องคอยเข้าหา ยึดกุม

การเรียนรู้และยอมรับความรู้สึก อารมณ์ ทั้งเชิงบวกและลบช่วยให้เรามีอิสระ เพราะความรู้สึกมาแล้วก็ไป ไม่ได้อยู่ตลอดไป ความเบื่อหน่าย เหงา เศร้า เจ็บปวด สุขสันต์ ดีใจ ฯลฯ ในที่สุดก็จะผ่านไป

แท้จริงสิ่งที่พวกเขาต้องการคือ การมีคุณค่าความหมายในชีวิต

ชีวิตของสมชายและสมชัย ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเพียงข้ามคืน หรือเพียงเพราะได้มาดูแลสัตว์เลี้ยง หลายครั้งพวกเขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับภาระ ถึงกับคิดว่าจะนำสัตว์ไปปล่อยวัด  แต่สิ่งที่สำคัญคือ พวกเขาหันมาใส่ใจกับการเรียนรู้ถึงชีวิตด้านในมากขึ้น และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มให้ทั้งสองเรียนรู้ตนเอง

สัมพันธภาพและบริบทชีวิตที่ต่างจากความคุ้นเคยเดิมๆ ของพวกเขา การเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นจุดเริ่มที่สร้างผลกระทบต่อสัมพันธภาพ และภายใต้บริบทหนึ่งก็สร้างเงื่อนไขต่อความเป็นตัวเรา และสัมพันธภาพต่างๆ กันไป

ทุกชีวิตต่างต้องเผชิญโรคร้าย: เบื่อหน่าย เหงา ไร้ค่า และอารมณ์เหล่านี้คือ สิ่งบอกเหตุถึงความมีคุณค่าและคู่ควรที่ตัวเราจะได้สิ่งที่สมควร

นั่นคือ การได้เรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตต่างจากเดิม เป็นชีวิตที่มีความหมาย มีคุณค่ากับผู้อื่น กับตนเอง และเราต้องเรียนรู้


ภาพประกอบ

ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ

ผู้เขียน: ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ

นอกเหนือจากบทบาทนักเขียนประจำคอลัมน์ งานสำคัญ คือ กระบวนกร นักจิตปรึกษา, enneagram coach สนใจและรักที่จะทำงานด้านการทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงกับโลกภายในผ่านทักษะ ประสบการณ์เรียนรู้ทั้งงานอบรม การทำจิตปรึกษา และงานเขียน