ว่าด้วยรัก: แด่รักในตัวเรา

ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ 18 พฤษภาคม 2014

สมศรี คุณแม่วัยชราเห็นลูกชายทำงานหนักกลับบ้านดึกดื่น  ด้วยความรักความเป็นห่วง เช้าวันหนึ่งของวันอาทิตย์ขณะที่ลูกชายกำลังเตรียมตัวออกจากบ้าน เธอจึงเตือนลูกชายให้ระวังสุขภาพ อย่าทำงานหักโหม พร้อมลงท้ายด้วยประโยคทำนองว่า “รักตัวเองบ้างนะลูก”  สมชายตอบเธอว่า “แม่ หลายงานที่เข้ามา รายได้ก้อนใหญ่เลย ผมตอบปฏิเสธไปหลายงาน เสียรายได้ไปเยอะ เพราะรักตัวเองนี่แหละ ที่ทำอยู่แบบนี้ก็เพราะรักตัวเองนี่แหละ คุณแม่ไม่ต้องห่วงหรอก คุณแม่ดูแลตัวเองก็พอแล้ว”  เธอพยักหน้ารับรู้ ไม่พูดอะไรอีก พร้อมกับความครุ่นคิดในใจว่าเธอคงพูดอะไรผิด ทำให้ลูกชายเธอตอบด้วยท่าทีหมางเมินและผลักไส  ลึกๆ เธอรู้สึกผิดหวังที่ถูกปฏิเสธความปรารถนาดี ถูกกีดกันไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเขา

พร้อมกันนี้เธอชักสงสัยว่าเอาเข้าจริงแล้ว “รักตัวเอง” ที่เธอสื่อสาร หมายความว่าอย่างไรกันแน่ และที่เธอบอกลูกชายเช่นนั้น เธอต้องการอะไร  สมศรีคงอยากให้ลูกชายใส่ใจสุขภาพร่างกาย ระมัดระวังไม่ทำงานหนัก พร้อมกับความต้องการที่อยากสื่อสาร แสดงความรัก ความปรารถนาดีในฐานะแม่ลูก  ความผิดหวังทำให้วันอาทิตย์ของเธอจึงไม่ค่อยมีความสุขนัก

การรักตัวเองเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์  ในแง่ของศาสตร์ การรักตัวเองเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยองค์ความรู้  ในมิติทางกาย การรักตัวเองต้องอาศัยความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ ทั้งด้านอาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อน การจัดวางกิจกรรมชีวิต  ในมิติทางจิตใจ ต้องอาศัยความรู้ด้านธรรมะ จิตวิญญาณ รวมถึงด้านจิตวิทยา  โดยสรุปหัวใจสำคัญของการรักตัวเอง คือ การเรียนรู้ตนเองเพื่อรู้จัก เข้าใจ ยอมรับ และพัฒนาตนเอง

ในความเป็นตัวเราที่แสดงออกผ่านท่าทีการดำเนินชีวิต ผ่านบทบาทหน้าที่ ผ่านระบบโลกภายใน ความเชื่อ ค่านิยม แรงจูงใจ  สิ่งเหล่านี้ดำเนินไปจนกลายเป็นอุปนิสัยความคุ้นเคย กระทั่งเจ้าของชีวิตไม่เคยได้ตรวจสอบเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของตน  สิ่งที่เราจับต้องได้คือ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

หากว่าการดำเนินชีวิต คือข้อสอบชีวิตที่เราต้องเผชิญ  ผลสอบที่ได้คือ การมีความสุข ความทุกข์จากชีวิตที่เป็นอยู่ จากความสัมพันธ์ต่างๆ ที่มีรอบตัว และจากการงาน  ผลสอบในรูปของสุข ทุกข์ โดยเฉพาะความทุกข์ ทำให้เราหันมาตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น มีความผิดพลาดตรงไหน อย่างไร ที่ทำให้สุข ทุกข์ รุมเร้ากัดกินชีวิตเช่นนี้

เรารักตัวเองได้ ต่อเมื่อเราได้เรียนรู้และเข้าใจตนเองว่า มีอะไรบางอย่างในตัวเราที่เป็นต้นเหตุของการเบียดเบียน ทำร้ายตัวเรา  หากเราทุกท่านสำรวจตนเองดีๆ ก็จะพบว่าอุปนิสัยคุ้นเคยบางอย่างเป็นสาเหตุของการเบียดเบียนทำร้ายชีวิตของเราเอง  เช่น การมักหลงลืมการมีชีวิตกับภาวะปัจจุบัน ที่นี่และดี่ยวนี้ และมักพาตัวเองจมจ่อมกับเรื่องราวในอดีตซึ่งผ่านไปแล้ว หรือกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง  การคุ้นเคยกับการคิดลบ มุ่งปกป้อง และหลีกเลี่ยงอันตราย กระทั่งตัดโอกาสการเรียนรู้ ประสบการณ์ใหม่ๆ ของการเติบโต  การยึดติดกับการยอมรับ ใส่ใจผู้อื่นจนสูญเสียอิสระและความเป็นตัวของตัวเอง เหน็ดเหนื่อย และต้องใช้พลังงานกับความกังวลนี้  การยึดติดกับหลักการ ระบบคุณค่าบางอย่าง กระทั่งละเลยเรื่องสำคัญอื่นๆ เช่น ความสำเร็จ ความถูกต้อง ภาพลักษณ์ อัตลักษณ์ ฯลฯ กระทั่งละเลย มองข้าม หลงลืมเรื่องสำคัญอื่นๆ จนชีวิตขาดความสมดุล

หัวใจสำคัญของการรักตัวเอง คือ การเรียนรู้ตนเองเพื่อรู้จัก เข้าใจ ยอมรับ และพัฒนาตนเอง

ความรักตนเอง ความหมายจึงหลอมรวมการกระทำทั้งในมิติของการกระทำที่มุ่งหรือหวังผลลัพธ์บางอย่าง และมิติของการลด ละ เลิก หรืองดเว้นการกระทำเพื่อมุ่งผลลัพธ์บางอย่างเช่นกัน เช่น การลด ละ เลิกพฤติกรรมที่ทำร้ายตนเอง การกระทำเช่นนี้ก็ช่วยก่อเกิดสิ่งที่ดีมีคุณค่าให้กับเจ้าของชีวิต เช่น การปล่อยวาง ยืดหยุ่นสิ่งที่ยึดติด เปิดกว้างกับชีวิต ลดทอนความเครียด ความกดดันชีวิต  พร้อมกับช่วยเราให้หันมาใส่ใจกับเรื่องที่หลงลืมละเลยไป เช่น การดูแลใส่ใจเรื่องสัมพันธภาพ การทำกิจกรรมเพื่อเติมเต็มบางมิติ ของชีวิตที่อาจถูกผัดผ่อน เช่น การออกกำลังกาย การพัฒนาฝึกฝนด้านจิตวิญญาณ การทำงานด้านการช่วยเหลือสังคม

และสิ่งที่ยากของการรักตนเอง คือ การต้องเอาชนะอุปนิสัยคุ้นเคยของตนเอง  อุปนิสัยคุ้นเคยเป็นเหมือนความถนัดประจำตัวที่ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น เรามักใช้งานสิ่งที่เราถนัดคุ้นเคยเข้าตอบโต้ตอบสนองทันที โดยไม่แยกแยะตรึกตรองว่าสถานการณ์ไหน ควรหรือไม่ควร  กระนั้นการตอบโต้ต่อสถานการณ์ต่างๆ ด้วยอุปนิสัยที่เราคุ้นเคย ก็มีช่องว่างที่เราสามารถเท่าทันและให้ตนเองมีทางเลือกในการตอบสนองต่างจากแบบแผนเดิมๆ ได้  ช่องว่างนี้คือ โอกาสของการใช้สติ ความมีปัญญา ความมีความระลึกรู้เพื่อเท่าทัน เพื่อชะลอความวู่วาม ความใจเร็ว ใจร้อน ให้เราสามารถตรึกตรองและตอบสนองสิ่งที่ต่างออกไป

การรักตนเองจึงเป็นเรื่องของการเรียนรู้ ฝึกฝน  บทเรียนนี้เริ่มต้นได้ต่อเมื่อเราได้ผ่านบทเรียนการเรียนรู้ เข้าใจตนเอง ว่ามีอะไรในตัวเรา อุปนิสัยคุ้นเคยอะไรที่เป็นต้นเหตุของการเบียดเบียนทำร้ายตัวเรา  การฝึกฝนเรื่องของสติ การพัฒนาด้านปัญญา สัมปชัญญะ พร้อมกับรางวัลของการรักตนเอง คือ การมีชีวิตที่ไม่กัดเจ้าของ  ชีวิตที่เรียนรู้ เข้าใจ และเท่าทันตนเอง


ภาพประกอบ

ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ

ผู้เขียน: ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ

นอกเหนือจากบทบาทนักเขียนประจำคอลัมน์ งานสำคัญ คือ กระบวนกร นักจิตปรึกษา, enneagram coach สนใจและรักที่จะทำงานด้านการทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงกับโลกภายในผ่านทักษะ ประสบการณ์เรียนรู้ทั้งงานอบรม การทำจิตปรึกษา และงานเขียน