สอบไล่กับชีวิต (๑)

ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ 10 ตุลาคม 2010

ภาพยนตร์เรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย” เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของตัวละครที่ตัดสินใจและเลือกกระทำการบางอย่างที่ส่งผลให้เกิดการพลิกผันชะตาชีวิต  ภายใต้แรงผลักจากความปรารถนาภายใน ความเชื่อ ทัศนคติบางอย่าง จะโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยความโง่เขลา หรือโดยความมืดบอดก็ตาม คำพิพากษาจากชะตากรรมก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจต่อรอง  ผลกรรมที่เกิดขึ้นก็คือผลสอบที่เกิดกับชีวิต  สอบตกหรือสอบได้ คือบททดสอบแบบเรียนชีวิตทั้งหมดที่มีมา  ผลสอบเป็นเช่นใด ขึ้นกับว่าแบบเรียนชีวิตที่ผ่านมาถูกออกแบบและดำเนินการมาอย่างไร

ส่างหม่อง คือ ตัวละครที่สะท้อนพลังของความคิด เหตุผล  ชายหนุ่มอนาคตไกลผ่านการศึกษาระดับอุดมศึกษา เติบโตมาภายใต้ความรักและการทะนุถนอม  แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูไร้ความหมาย เมื่อส่างหม่องต้องมาพบกับบททดสอบระหว่างเส้นแบ่งของศีลธรรม จริยธรรม ภายใต้การกำกับของเหตุผล ความรู้ผิดชอบชั่วดี  กับความรัก ความใคร่ภายใต้การชักนำของพลังอารมณ์ ความรู้สึก ที่มีแรงผลักของความปรารถนา  และเมื่อส่างหม่องยอมแพ้กับพลังของความปรารถนา เหตุผลสำนึกผิดชอบชั่วดีก็มลายหายไป  ผลของการทดสอบคือ ชะตากรรมของส่างหม่องที่กลับกลายเป็นคนวิกลจริต ถูกลงโทษด้วยความรู้สึกผิด ความขมขื่น เศร้าเสียใจกับความผิดพลาดที่กระทำไป

ยุพดี คือ ตัวละครที่สะท้อนพลังของความปรารถนา ขับเคลื่อนชีวิตด้วยความรู้สึก อารมณ์  เธอผ่านการศึกษาระดับสูง แต่สำนึกของเหตุผล ความถูกต้อง เหมาะสมก็อ่อนล้า ชะตาชีวิตจึงกลายเป็นทาสของอารมณ์ที่นำพาชีวิตจากสภาพที่น่าจะสุขสบายกับสภาพรอบตัว การมีสามีที่ร่ำรวย ใส่ใจ ทรัพย์สินเงินทอง ปัจจัยสี่ที่พร้อมสรรพ  แต่เพราะแรงผลักจากความรัก ความใคร่ที่ล้นเกินและข้ามเส้นศีลธรรมจรรยา ชะตาชีวิตจึงต้องพบกับบทลงโทษที่หนักหน่วงและสาหัสเหมือนตายทั้งเป็น

พะโป้ ตัวละครที่สะท้อนพลังของสัญชาตญาณ ดิบ เถื่อน ตรงไปตรงมา  ชายวัยกลางคนที่ดูสุขุม หนักแน่น เป็นเจ้าชีวิตที่ปกครองชีวิตและวิถีความเป็นไป  ด้านหนึ่งพะโป้ดูเป็นคนเคร่งศีลธรรม ไหว้พระสวดมนต์ แต่อีกด้านพะโป้ก็ดำเนินชีวิตราวกับจ่าฝูงที่มุ่งครอบครองหญิงสาวทุกนางในอาณาจักรของตน  ชีวิตของพะโป้ด้านหนึ่งเปรียบได้กับพ่อพระ แต่อีกด้านก็คือ ชีวิตที่โลดแล่นด้วยโลกีย์ แค้นต้องชำระและตอบแทนให้สาสม  พะโป้ถูกทรยศหักหลังจากคนที่รักและไว้ใจ ถูกโกหกและหลอกลวง ความทุกข์ทรมานเช่นนี้ถูกเพิ่มพูนด้วยความแค้นและการไม่ให้อภัย ขณะที่อีกด้านก็เต็มไปด้วยความสงสาร เวทนา  ชีวิตของพะโป้จึงไม่อาจพบความสุขสงบในใจ

เราทุกคนต่างพานพบเรื่องราวของการต่อสู้ แย่งชิง ฟาดฟัน  ด้านหนึ่งเพื่อเต็มเติมสิ่งที่ขาดหาย เราวิ่งหาความรัก ความสัมพันธ์ที่ปรารถนาจากบุคคลภายนอกซึ่งเราคาดหมายว่าบุคคลนี้ทำให้เรามีความสุข หรือสิ่งที่วิ่งหาอาจเป็นทรัพย์สิน เงินทอง สถานภาพ ชื่อเสียง การยอมรับ  อีกด้านการดำเนินชีวิตของเราก็เพื่อระบายสิ่งที่ล้นเกิน เต็มแน่นให้จางคลายไป เช่น ความโกรธเกลียด แค้นเคือง โดยมีจุดเริ่มต้นคือ ความรู้สึกถึงตัวตนที่ถูกทำให้อับอาย เสื่อมเสีย  ความอับอายสร้างความรู้สึกโกรธเกลียด เจ็บแค้น ที่เผาผลาญให้เราตอบโต้ ระบายออกกับบุคคลที่เรากล่าวหาในฐานะต้นเหตุ

แบบเรียนตลอดชีวิตของเราถือความสำคัญในเรื่องของศักดิ์ศรี ความเคารพตนเอง รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับชื่อเสียง การยอมรับของสังคม สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องปกป้อง ต่อสู้ เพื่อรักษาไว้  แต่ในแง่ของจิตวิญญาณ ความแค้นเคืองคือจุดเริ่มต้นและจุดเดินทางของของกงล้อแห่งกรรม  พะโป้ลงโทษและจองจำผู้ทรยศด้วยการล่ามโซ่ให้ผูกติดกันตลอดชีวิต การลงโทษสร้างความสาสมในจิตใจของพะโป้ แต่ก็สร้างพันธะผูกล่ามพะโป้ให้อยู่กับความแค้นเคืองและความอับอาย  ในส่วนของส่างหม่องและยุพดี เมื่อความปรารถนาครอบงำสำนึกผิดชอบชั่วดี ตัณหาครอบงำเหตุผล พลังของอารมณ์ความรู้สึกก็ลากจูงไปในทางตอบสนองความเห็นแก่ตัว ประสานกับโลกทัศน์อวิชชาที่ครอบงำผ่านแบบเรียนชีวิตให้เชื่อว่า “ฉันมีความสุขแน่นอน หากฉันสมหวังในรักกับคนที่ใช่” “ความสุขอยู่ที่ภายนอก รอการแสวงหา” “กามารมณ์คือ ความสุขที่เป็นสุดยอดปรารถนา”

จะโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยความโง่เขลา หรือโดยความมืดบอดก็ตาม คำพิพากษาจากชะตากรรมก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจต่อรอง

โชคร้ายที่แบบเรียนชีวิตที่เราสั่งสมมาอาจนำเราไปผิดทาง ยามที่เราต้องเผชิญกับแบบทดสอบชีวิตอันหนักหน่วงเหมือนการสอบไล่ที่ผลลัพธ์มีเพียง ได้ กับ ตก  ขณะที่ผลสอบของชีวิต คือ สุขหรือทุกข์ เติบโตหรือตกต่ำ  แบบเรียนชีวิตสำคัญคือ การเรียนรู้ว่าสุข ทุกข์ที่แท้ อยู่ที่การรู้จักและเข้าใจตนเอง และการเรียนรู้เรื่องนี้เป็นกระบวนการทั้งชีวิต  รู้จักและเข้าใจตนเองถึงธรรมชาติของร่างกาย และจิต ใจ  โดยเฉพาะจิตใจ ซึ่งมีความซับซ้อน มีทั้งพลังขับเคลื่อนและฉุดรั้ง มีทั้งความเป็นนายและความเป็นทาสรับใช้ ความโง่และความฉลาด ขณะเดียวกันจิตใจก็มีความน่ากลัวหลอกลวงแม้กระทั่งเจ้าของ

หากเราไม่อยากสอบตกกับชีวิต แบบเรียนชีวิตเรื่องการเรียนรู้กายและใจ เรียนรู้เรื่องของการยึดมั่นถือมั่นผิดๆ กับอวิชชาที่สั่งสมจึงเป็นบทเรียนสำคัญ ไม่เช่นนั้นเราอาจต้องตกจมกับความทุกข์เศร้าชั่วฟ้าดินสลาย

ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ

ผู้เขียน: ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ

นอกเหนือจากบทบาทนักเขียนประจำคอลัมน์ งานสำคัญ คือ กระบวนกร นักจิตปรึกษา, enneagram coach สนใจและรักที่จะทำงานด้านการทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงกับโลกภายในผ่านทักษะ ประสบการณ์เรียนรู้ทั้งงานอบรม การทำจิตปรึกษา และงานเขียน