ญาติผู้ป่วยไม่ยอมให้ผู้ป่วยตายอย่างธรรมชาติ เราจะมีวิธีจัดการอย่างไร
คำถาม: การที่ญาติของผู้ป่วยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับในการเตรียมตัวตายอย่างสงบ โดยไม่ยอมให้ผู้ป่วยตายอย่างธรรมชาติ แต่จะพยายามให้แพทย์ทำทุกวิธีเพื่อให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่อย่างถึงที่สุด เราจะมีวิธีจัดการอย่างไรที่จะทำให้ญาติเหล่านั้นเชื่อในเรื่องการเผชิญความ ตายอย่างสงบที่เราเตรียมไว้ให้ผู้ป่วย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สำคัญสุดท้ายของชีวิตจะมีคำพูดอย่างไรกับญาติๆ ให้ปฏิบัติตามเรา
พระไพศาล วิสาโล: ก่อนอื่น ควรคุยกับญาติผู้ป่วยก่อน ว่าเขามีเหตุผลอะไรถึงพยายามยื้อชีวิตผู้ป่วยไว้ เขาอาจคิดว่า เขาอยากตอบแทนบุญคุณผู้ป่วยอย่างถึงที่สุด หรือเป็นเพราะยังทำใจรับการตายของเขาไม่ได้ หรือเพราะรู้สึกผิดที่ละเลยผู้ป่วยจึงอยากจะทำอะไรเต็มที่ให้กับเขาในวาระสุดท้าย เมื่อเข้าใจเหตุผลของญาติผู้ป่วยแล้ว เราจึงจะสามารถชี้แจงให้เขาเข้าใจได้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ หากเขาต้องการตอบแทนบุญคุณผู้ป่วย ก็น่าจะชี้ให้เขาเห็นว่า มีวิธีตอบแทนบุญคุณที่ดีกว่าการยื้อผู้ป่วย นั่นคือช่วยดูแลจิตใจให้เขาจากไปอย่างสงบ การทำเช่นนี้ยังช่วยบรรเทาความรู้สึกผิดที่ได้ละเลยผู้ป่วยมาโดยตลอด
แต่หากเขายังทำใจรับการตายของผู้ป่วยไม่ได้ ก็ควรแนะให้เขาลองนึกถึงมุมของผู้ป่วยดูบ้าง ว่าหากยื้อเขาไว้นานๆ เขาจะทุกข์ทรมานเพียงใด ญาติผู้ป่วยไม่ควรนึกถึงมุมของตนเองอย่างเดียว หรือไม่ก็ถามเขาว่าหากตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับผู้ป่วย เขาจะเลือกการยื้อชีวิตอย่างเจ็บปวดหรือเลือกที่จะจากไปอย่างสงบ
การชี้แจงให้ญาติผู้ป่วยเข้าใจถึงผลเสียที่จะเกิดแก่ผู้ป่วยหากยื้ออย่างถึงที่สุดก็เป็นสิ่งสำคัญ บางครั้งญาติเองก็ไม่รู้ว่าการทำเช่นนั้น นอกจากจะเพิ่มความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยแล้ว ยังอาจทำให้เขาตายไม่สงบด้วย มีหลายคนทีู่รู้สึกเสียใจที่พยายามยื้อชีวิตคนรักแล้วเห็นเขาตายอย่างทุกข์ทรมาน การชี้แจงให้เขาเห็นข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้นทั้งข้อดีและข้อเสียของการยื้อชีวิตผู้ป่วยจะช่วยให้เขาไตร่ตรองและตัดสินใจดีขึ้น แทนที่จะใช้แต่ความอยากของตนเป็นเกณฑ์ หลายคนไม่รู้ว่าการยื้อด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งจะก่อผลอะไรตามมา เช่น ทำให้ต้องใช้วิธีอื่นที่เจ็บปวดมากขึ้น จนแม้แต่ญาติผู้ป่วยก็ทำใจไม่ได้ที่เห็นคนรักของตนมีสายระโยงระยางทั่วทั้งตัว ถึงตอนนั้นจะยุติการยื้อ เช่น ถอดท่อ ปิดเครื่อง ก็ทำไม่ได้เสียแล้ว สุดท้ายก็ต้องเห็นเขาดิ้นรนอย่างทุรนทุรายก่อนสิ้นลม