ระหว่างทางสองสาย
ไถ่ถามถึงแง่งามแห่งจิตวิญญาณ
สืบสายจากบรรพกาลถึงปัจจุบันสมัย
เป็นทางคดโค้งเคี้ยวไกลแสนไกล
ความจริงมันสถิตนิ่งภายในตลอดมา
เป็นทางสองสายทอทอดอยู่เคียงข้าง
ก้าวเดินบนหนึ่งทาง ว่าแสวงหา
ปล่อยอีกทางรกร้างทรุดโทรม
กาลเวลา ยิ่งกัดกร่อนคุณค่าลบลืมเลือน
อาจไม่ใช่ปราศจากซึ่งศรัทธา
แต่อวิชชากล้าแกร่งเข้าขับเคลื่อน
ปิดสายตาเสียจากตะวันและดาวเดือน
เหลือแสงไฟส่องทุ่งเถื่อนอันเลือนราง
กาละเทสะ คุรุ ปัญญาประสาน
กับใจที่พ้องพบพานพร้อมสานสร้าง
พอให้ได้หันกลับมาสู่อีกหนทาง
ที่ทอดทิ้งไว้เรื้อร้างลึกภายใน
นั่นคืออาณาจักรอันแสนวิเศษ
เพียงก้าวหนึ่งต่อเหตุก่อก้าวใหม่
ทางรกพลันปรากฏแสงอันอำไพ
เป็นทางอันสดใสสว่างงาม
กลับเป็นทางสองสายทอดยาวเคียงข้าง
ไปมาได้ระหว่างเพียงปรารถนา-ข้าม
เมื่อปัญญาญาณกล้าแกร่งก็ต่อตาม
หลอมรวมทางไร้นามเป็นทางเดียว
นั่นอาจกลายเป็นอริยมรรควิถี
สานสายใยร้อยพันมีเข้าเกาะเกี่ยว
เรียนโลกเรียนธรรมม้วนกลืนเกลียว
ที่เหลือก็ขับเคี่ยวไปตามควร
นี่ก็คือโลกอันงามพร้อมความหมาย
มิได้มีใดหล่นหายสักบางส่วน
เมื่อทั้งหมดเติมเต็มเคลื่อนกระบวน
คนเป็นคนได้ครบถ้วนอยู่ในทาง