Error message

  • Deprecated function: Methods with the same name as their class will not be constructors in a future version of PHP; views_display has a deprecated constructor in require_once() (line 3066 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/bootstrap.inc).
  • Deprecated function: The each() function is deprecated. This message will be suppressed on further calls in menu_set_active_trail() (line 2385 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/menu.inc).

คุณยายคำ

-A +A

          มะลิวรรณ แสงจันทร์ (ห้อง) ประธาน อสม. หมู่ ๗ ท่าแซะ และประธานจิตอาสา รพ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เล่าให้ฟังว่า การดูแลผู้สูงอายุในชุมชน และดูแลผู้ด้อยโอกาสเป็นเรื่องยากแต่ก็ดูแล และเธอก็รักงานด้านนี้มาก เพราะถือว่าทำแล้วได้บุญ มีความสุขทั้งผู้รับและผู้ให้ เธอมีเรื่องเล่าอยู่หลายเรื่อง แต่ยกมาเรื่องหนึ่งที่เธอดูแลยายสองคนพี่น้องถึง ๑๐ ปี จนถึงวาระสุดท้าย 

          ยายคำอายุ ๘๘ ปี และยายสำลีอายุ ๖๕ ปี สองพี่น้องไม่มีใครดูแล น่าสงสาร ยายเป็นคนที่แข็งแรง และไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลย ห้องดูแลอาหารการกิน อาบน้ำ ตัดผม เสื้อผ้า เวลาว่างก็จะนวดแขนขาและนวดยาให้ ดูแลทั้งสองคนพี่น้อง คนน้องต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะเป็นความดันเบาหวาน 

          เรื่องตัดผมยายคำไม่ให้ใครตัด ห้องจะตัดให้เอง เสื้อผ้าห้องจะเอาไปให้ทุกวันที่ ๑ มกราคม และ ๑๓ เมษายนของทุกปี อาหารบางมื้อห้องจะตักไปให้กิน และแนะนำเรื่องการกินอาหารให้ทั้งสองคนพี่น้อง

          ยายคำเป็นคนคุยเก่งเล่าเรื่องสมัยก่อนเก่งมาก ยายเป็นคนหัวโบราณ ไม่ชอบไปไหนอยู่แต่ในบ้าน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกิดพายุซิต้า น้ำท่วมใหญ่ในอำเภอท่าแซะ บ้านยายคำอยู่ริมคลองและอยู่ในที่ลุ่ม น้ำท่วมบ้านถึงหลังคาชั้นสอง ยายขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน ห้องให้น้องอาสาไปช่วยยาย เชื่อหรือไม่ว่ายายไม่ไปไหน บอกกับน้องอาสาว่ายายจะไปกับบ้าน 

          ห้องก็ตัดสินใจว่าจะไปอยู่กับยายคำจะได้เป็นเพื่อนกัน ลุง ป้า และเพื่อนบอกว่าอย่าไปเลย อาสาก็บอกว่าบ้านยายสั่นและสะเทือนมาก ห้องบอกว่าถ้าไม่ถึงที่ตายก็ไม่ตาย ห้องขอเรืออาสา แต่เขาบอกว่าต้องไปช่วยบ้านอื่น ห้องจึงตัดต้นกล้วยทำแพแล้วเขาไปหายาย พอเข้าไปเห็นยายคำอยู่บนหลังคาบ้าน ห้องสงสารยายคำและก็ร้องไห้กับยาย แล้วบอกว่าทำไมไม่ออกไป ยายบอกว่าเมื่อ ๖๐ ปี ที่แล้ว ท่วมมากกว่านี้ ยายก็อยู่แบบนี้ไม่เห็นตายเลย ห้องอยู่กับยาย ๒ วัน วันที่สาม เทศบาลก็เข้าไปดูแล

          มีอยู่ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ยายคำเดินไม่ได้ ชวนไปโรงพยาบาลยายก็ไม่ไป ห้องต้องดูแล เวลากลางคืนก็ไปนอนเป็นเพื่อน และนวดให้อยู่ประมาณ ๓ เดือน ยายก็เดินได้ ปลูกผักกินเองได้ ตอนเช้าก็ไปดูแลการออกกำลังเล็กน้อย 

          คืนวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ น้องสาวของยายมาตามห้อง พอไปถึงยายบอกว่าคืนพรุ่งนี้อย่าไปไหนนะ ยายจะตาย จะได้เอายายไปวัด และบอกว่าให้ทำบุญศพที่วัดยางฆ้อ ห้องบอกยายว่าจะตายได้อย่างไรเพราะว่ายังปกติ หรือว่ายายไม่สบายหรือเปล่า ถ้าไม่สบายห้องจะไปส่ง ยายบอกว่าสบายดี ไม่ไปโรงพยาบาล ยายจะตายจริงมาตัดผมให้ด้วย และขอผ้าถุงและเสื้อใหม่ให้ยาย ๑ ชุด ถ้าตายก็ให้นอนเป็นเพื่อนที่วัดกับยายด้วย และให้ห้องออกค่าดอกไม้หน้าศพ และให้ถ่ายรูปมาให้เลือก ๑ รูปจะได้ตั้งไว้หน้าโลง ห้องรับปากเพราะคิดว่ายายพูดเล่น 

          พอวันที่ ๘ ตอนเย็นเวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. ยายบอกว่าเจ็บพุง ห้องก็เอาเครื่องวัดความดันมาวัดให้ ความดัน ๑๖๐/๙๐ ห้องบอกว่าความดันยายคำสูงนะ ห้องบอกว่าไปธุระและจะไปเอายามาให้กิน ห้องไปธุระประมาณครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นยายเข้าห้องน้ำและมีอาการหน้ามืด น้องสาวและเพื่อนบ้านก็โทรให้รถโรงพยาบาลมาส่งที่โรงพยาบาลท่าแซะ ห้องกลับมาจากธุระก็รีบตามไปทันที พอไปถึงโรงพยาบาล หมอบอกว่าต้องส่งต่อโรงพยาบาลชุมพรฯ เพราะเส้นเลือดในสมองแตก 

          ห้องตกใจมากไม่คิดว่ายายพูดเรื่องจริง เวลาสองนาฬิกาของคืนวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ยายก็จากไปอย่างสงบ ห้องเฝ้ายายคำจนถึงวาระสุดท้าย แล้วเอายายมาทำศพที่วัดยางฆ้ออย่างที่ยายต้องการ และทำให้ทุกอย่าง จัดดอกไม้ให้อย่างสวยงาม นอนเป็นเพื่อนหน้าศพยายพร้อมญาติหลายคน และรูปหน้าศพเป็นฝีมือของห้องที่ทำให้ยายโดยที่น้องสาวไม่ต้องออกเงิน ห้องออกเงินให้ทั้งหมดและเป็นเจ้าภาพ ๑ คืน 

          ห้องขอให้ยายคำจงไปอยู่ที่ภพดีๆ ตอนนี้ห้องก็รีบดูแลน้องสาวยายคำที่ชื่อว่ายายสำลีต่อไป ห้องขอจบเรื่องเพียงเท่านี้

 

เรียบเรียงโดย กองสาราณียกร

 

คอลัมน์: