Error message

  • Deprecated function: Methods with the same name as their class will not be constructors in a future version of PHP; views_display has a deprecated constructor in require_once() (line 3066 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/bootstrap.inc).
  • Deprecated function: The each() function is deprecated. This message will be suppressed on further calls in menu_set_active_trail() (line 2385 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/menu.inc).

มนต์ขลังอิติปิโส

-A +A

          อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ. 

          ชาวพุทธคงจะคุ้นเคยกับบทสวดดังกล่าวดี เพราะได้ยินพระสงฆ์สวดบ่อยๆ ไม่ว่าจะในงานบุญวันเกิด ทำบุญบ้านใหม่ ไปจนถึงงานศพ สมัยเป็นนักเรียนหลายคนคงได้ยินบ่อยมาก คุ้นชินจนลืมใส่ใจความหมาย ผู้เขียนเองก็เพิ่งประจักษ์เมื่อไม่กี่วันมานี้เองว่า มนต์ขลังของบทสวดดังกล่าว ทำให้คนที่ยึดมั่นแต่อุดมการณ์ทางสังคม ไม่สนใจศาสนา เป็นชาวพุทธแค่ในนามเกิดความสงบได้

          วันนั้น ผู้เขียนไปเยี่ยมเพื่อนเก่า อดีตแกนนำนักศึกษาหญิงแกร่งดาวไฮปาร์คคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นด้านการแพทย์ เห็นสภาพของเพื่อนแล้ว ไม่เหลือภาพตัวตนคนเก่งที่เคยมีเลย สภาพของเพื่อนอ้างว้าง โดดเดี่ยวอย่างน่าเห็นใจ เพื่อนอีกคนที่มาเยี่ยมด้วยกันถึงกับสะท้อนใจ เพื่อนเอามือลูบไล้หน้าผาก ใบหน้า และศีรษะของเธออย่างอ่อนโยน เรียกชื่อเธอและพูดข้างหูว่าวันนี้พวกเรามาเยี่ยม พวกเราจะสวดอิติปิโสให้ฟัง เพื่อนจะได้สบาย หายเจ็บ พักให้สบายนะ 

          เมื่อผู้เขียนเริ่มสวดมนต์ อิติปิโส ภะคะวา... ไปได้สักพัก เพื่อนที่ไปด้วยกันก็ทักขึ้นว่า ขอให้สวดช้าลงหน่อย สวดให้เพราะๆ แล้วเพื่อนก็ร่วมสวดด้วย ทำให้ผู้เขียนรู้ว่า เพื่อนที่คิดว่าสนใจแต่การเมืองสวดมนต์เป็นด้วย เพราะเธอเคยสวดมาตั้งแต่เด็กแล้ว พอพวกเราพากันสวดไปหลายรอบ และอธิบายความหมายของบทสวดให้ผู้ป่วยฟังเมื่อสวดจบ ผู้ป่วยมีอาการสงบลง การหายใจดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยหายใจหอบ และใบหน้าไม่เคร่งเครียดดังเช่นหลายวันที่ผ่านมา 

          ย้อนกลับไปหลายวันก่อนหน้า ผู้ป่วยมีความเครียดมากเมื่อได้รับการบอกกล่าวว่าต้องมารักษาตัวที่โรงพยาบาล เพราะร่างกายเธอเสื่อมถอยลงมาก จนไม่สามารถหายใจเองได้ ส่วนหนึ่งมาจากการรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัดตั้งแต่เมื่อ ๒๐ ปีก่อน แม้จะรักษาจนหาย แต่อวัยวะบางส่วนได้ถูกทำลายไปด้วย หูเสื่อมไม่ค่อยได้ยิน หงุดหงิดง่าย หาความสุขได้ยาก เธอต้องใช้ชีวิตโดดเดี่ยว อ้างว้างจนบางครั้งอยากจะจากโลกนี้ไปเร็วๆ แต่บางครั้งกลับฮึดสู้ เป็นอยู่อย่างนี้มานาน ชีวิตเธอต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นส่วนใหญ่ เดินไม่ได้ ท่ามกลางสายระโยงระยาง ทอดชีวิตเหมือนคนสิ้นหวัง 

          ยิ่งระยะ ๒ ปีหลัง เธอต้องนอนอยู่ที่บ้านด้วยอาการของโรคเรื้อรัง แทบไม่มีคนมาเยี่ยมเลย เธอจะพาลโกรธ หงุดหงิด เพราะไม่สามารถสื่อสารในสิ่งที่ตนเองต้องการได้ เป็นความทุกข์ทรมานมาก คนที่มาเยี่ยมก็ไม่เข้าใจ ไม่เห็นประโยชน์ของการมาเยี่ยม สุดท้ายเธอมีอาการทรุดลงจนต้องมาอยู่ที่โรงพยาบาล และไม่ตอบสนองการรักษา เพียงไม่กี่วันต่อมา หมอได้แจ้งแก่คนในครอบครัวของเธอว่า เธอจะอยู่ได้ไม่เกิน ๒๔ ชั่วโมง ญาติจึงรีบติดต่อพระมาสวดให้พร ทำสังฆทาน และโทรศัพท์บอกเพื่อนสนิทของเธอให้มาเยี่ยม 

          วันแรกที่ผู้เขียนไปเยี่ยม ได้แต่ภาวนาในใจ แผ่เมตตาให้เธอ ดูเหมือนเธอจะไม่ตอบสนองใดๆ แต่พอเพื่อนสนิทอีกคนที่ไปด้วยกันร้องเพลงเพื่อชีวิตให้ฟัง เธอกลับแสดงความอัศจรรย์ กระพริบตาได้ตามคำขอของเพื่อน ส่วนผู้เขียนคิดเพียงแค่ว่าเมื่อกำลังใจของเธอกลับมา เริ่มมีความหวัง น่าจะถือโอกาสให้เธอได้สัมผัสความสงบเพื่อจะได้เตรียมใจไว้เมื่อวันสุดท้ายมาถึงจริงๆ เธอจะได้ระลึกถึงและทำเองได้ แต่ไม่รู้จะหาบทสวดมนต์อะไรที่เหมาะสม จึงโทรศัพท์ไปขอคำปรึกษาพระไพศาล วิสาโล ได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์ว่า ใช้บทอิติปิโส 

          วันรุ่งขึ้น ผู้เขียนจึงได้ชวนเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เคยร่วมทำกิจกรรมนักศึกษากับเธอเช่นกันไปเยี่ยมด้วย น่าจะเป็นเพราะมีเพื่อนเก่าร้องเพลงเพื่อชีวิตให้ฟังเมื่อวันก่อน มาเยี่ยมให้กำลังใจ จึงทำให้เธอเกิดพลัง เกิดความหวังว่าจะได้เจอเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้มาเยี่ยมอีก แต่ผู้เขียนเป็นห่วงว่า เธอยังไม่ได้เตรียมตัวทางด้านจิตวิญญาณในการจะจากไปอย่างสงบเลย ในช่วงเวลาที่เหลือน้อยสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะร่างกายเสื่อม การสวดมนต์ภาวนาอย่างง่ายๆ ยิ่งคุ้นเคยได้ยิ่งดี ผู้เขียนพบว่าบทสวดอิติปิโสที่ได้สวดไปพร้อมกับเพื่อนในวันนั้น ทำให้ผู้ป่วยสงบลงอย่างเห็นได้ชัด 

          พลังที่ได้จากบทสวดเป็นเหมือนมนต์ขลัง...พาใจให้สงบ...และจะเป็นสะพานให้เขาก้าวจากไปอย่างสงบได้

          การเยี่ยมอาจไม่ส่งผลอะไรต่อผู้ป่วยนัก ถ้าเพียงสักแต่ว่าได้ไปเยี่ยม แต่การเยี่ยมที่ทำให้เกิดกำลังใจมีความสุขต่างหากเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการ และจะเป็นประโยชน์ยิ่งขึ้นถ้าสามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีวิธีการน้อมนำใจสู่ความสงบไปถึงวาระสุดท้ายของชีวิต อันขึ้นอยู่กับฐานความเชื่อความศรัทธาของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อทางศาสนาหรือความศรัทธาอื่นๆ ของผู้ป่วย 

          แม้จะดูเป็นเรื่องง่ายๆ สามัญ แต่หากเลือกใช้ได้อย่างถูกที่ ถูกเวลา และเหมาะกับตัวบุคคล บทสวดอิติปิโสย่อมสามารถเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำได้...เป็นพลังมนต์ขลังจากการน้อมนำพุทธคุณเพื่อพาใจไปสู่ความสงบสันติ เป็นจิตที่ประเสริฐได้จริง แม้ในยุคสมัยปัจจุบัน

          ดังความหมายของบทสวดอิติปิโส เพื่อสรรเสริญพระพุทธคุณ ว่า 

          อิติปิ โส ภะคะวา - เพราะเหตุอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น 

          อะระหัง - เป็นผู้ไกลจากกิเลส

          สัมมาสัมพุทโธ - เป็นผู้ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง 

          วิชชาจะระณะสัมปันโน - เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ 

          สุคะโต - เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี 

          โลกะวิทู - เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง 

          อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ - เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า 

          สัตถา เทวะมนุสสานัง - เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย 

          พุทโธ - เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม 

          ภะคะวาติ. - เป็นผู้มีความจำเริญจำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ ดังนี้ 

          โดยอาจจะสวดหลายรอบ เรื่อยไปจนจิตเป็นสมาธิ และเข้าถึงความสงบได้ในที่สุด

คอลัมน์: