วิวาทะ (ล่าสุด) เรื่องการุณยฆาต
เด็กหญิงแคนาดาวัย ๔ ขวบ
วิงวอนให้กษัตริย์เบลเยียมทรงขัดขวางกฎหมายการุณยฆาตเด็ก
ขณะที่เบลเยียมกำลังจะกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่มีการออกกฎหมายอนุญาตให้การุณยฆาตเด็กได้นั้น เด็กหญิงเจสสิกา ซาบา วัย ๔ ขวบ จากเมืองลาชีน รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา ได้ร้องขอให้กษัตริย์แห่งเบลเยียมอย่าทรงลงพระปรมาภิไธยบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ในวิดีโอซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ เด็กหญิงเจสสิกาวิงวอนว่า “ได้โปรดทรงเห็นแก่เด็กๆ ขอพระองค์อย่าทรงลงพระปรมาภิไธย”
เจสสิกาเกิดที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๒ พร้อมกับความผิดปกติของหัวใจขั้นรุนแรง โดยมีอาการลิ้นหัวใจตีบตันและหัวใจห้องล่างพัฒนาไม่เต็มที่ เธอน่าจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันเท่านั้น หากไม่ได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลเด็กมอนทรีออล ในระยะเวลาเพียง ๖ วัน ลิ้นหัวใจของเธอเปิด-ปิดได้ และหัวใจห้องล่างก็เริ่มพัฒนาขึ้นทีละน้อย ทั้งนี้ หากเจสสิกาเกิดในประเทศที่อนุญาตให้ทำการุณยฆาตเด็กได้ เธอก็อาจกลายเป็นหนึ่งในนั้น และเรื่องราวของเธอคงแตกต่างไปจากที่เห็นในวีดีโอมาก
http://www.youtube.com/channel/UC4di7uSDkRYsHx8UL38LHvA
ในแต่ละปีมีเด็กหลายล้านคนที่เกิดมาพร้อมกับความพิการแต่กำเนิดชนิดรุนแรง เช่นเดียวกับเจสสิกา เด็กหลายคนในจำนวนนี้อาจถูกกระทำการุณยฆาต และหากการุณยฆาตเด็กเป็นสิ่งถูกกฎหมายในเบลเยียม สิ่งนี้ก็อาจกลายเป็นแบบอย่างไปทั่วโลกซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่อันตราย สำหรับในควิเบก ปัจจุบันรัฐบาลกำลังพยายามที่จะผ่านกฎหมายการุณยฆาต ซึ่งคล้ายกันมากกับกฎหมายที่ผ่านการลงมติในเบลเยียมเมื่อประมาณ ๑๐ ปีก่อน ขณะที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนควิเบกก็กำลังเสนอแนะให้การทำการุณยฆาตครอบคลุมถึงเด็กด้วย
ดร.พอล ซาบา ซึ่งเป็นแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวในเมืองลาชีน รัฐควิเบก และเป็นบิดาของเจสสิกา ได้ร้องขอกษัตริย์เบลเยียมด้วยตนเองเช่นกันเพื่อไม่ให้พระองค์ทรงลงพระปรมาภิไธยในกฎหมายการุณยฆาตที่จะมีผลครอบคลุมถึงเด็กๆ ชาวเบลเยียม เขาระบุว่าการทำการุณยฆาตได้เริ่มต้นขึ้นในเบลเยียมเพื่อให้ผู้ที่มีความเจ็บป่วยทางกายพ้นทุกข์ และปัจจุบันการุณยฆาตได้ขยายครอบคลุมไปถึงผู้ป่วยทางจิต การทำการุณฆาตเริ่มต้นกับผู้ใหญ่ และขณะนี้กำลังจะถูกขยายให้ครอบคลุมถึงเด็กๆ ด้วย
เขายังได้ให้เหตุผลด้วยว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลรักษาทางการแพทย์อย่างดีเยี่ยมนั้นแทบจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานเลย และสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงบั้นปลายชีวิต การดูแลแบบประคับประคองอาการเป็นอย่างดีจะช่วยยับยั้งความเจ็บปวดทางกายทั้งหมด ส่วนผู้ที่อ้างว่าสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานในช่วงบั้นปลายของชีวิตนั้น เป็นเพราะผู้ป่วยไม่ได้รับการดูแลแบบประคับประคองที่ดีพอ
ด้านนางมาริสาผู้เป็นมารดา ได้ร่วมแบ่งปันเรื่องราวการต่อสู้กับความเจ็บป่วยและความสุขของเจสสิกา พร้อมเตือนว่ากฎหมายการุณยฆาตเด็กอาจส่งผลให้บรรดาผู้ปกครองของเด็กที่ป่วยหรือพิการ “ถอดใจเร็วเกินไป” โดยสิ่งที่ผู้ปกครองและเด็กๆ ต้องการคือความรักและกำลังใจ ไม่ใช่การุณยฆาต
ที่มา: Thai PR ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
http://www.thaipr.net/health/526815
___________________________________________________________________
เบลเยียมผ่านกฎหมาย “การุณยฆาต”
เด็กที่ป่วยหนักไม่จำกัดอายุเป็นชาติแรกในโลก
เอเอฟพี – เบลเยียมกลายเป็นชาติแรกในโลกที่อนุญาตให้มีการทำการุณยฆาตแก่เด็กป่วยหนักโดยไม่จำกัดช่วงอายุ วันนี้ (๑๔) ภายหลังผ่านพ้นการอภิปรายอย่างดุเดือดซึ่งนักวิจารณ์พากันตั้งคำถามว่า เด็กสมควรได้รับสิทธิ์ “ตัดสินใจ” เลือกจบชีวิตตนเองได้หรือไม่
แม้จะมีเสียงคัดค้านจากกุมารแพทย์บางคน รวมถึงคริสตจักรที่ตำหนิว่ากฎหมายเช่นนี้ “เลยเถิดเกินไป” แต่รัฐสภาเบลเยียมก็ลงมติรับรองกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวานนี้ (๑๓) ด้วยคะแนนเสียง ๘๖ ต่อ ๔๔ และงดออกเสียง ๑๒ คน
เบลเยียมเป็นประเทศที่ ๒ ถัดจากเนเธอร์แลนด์ที่ออกกฎหมายการุณยฆาตแก่เด็กที่ป่วยหนักจนหมดทางรักษา ทว่าถือเป็นชาติแรกในโลกที่บังคับใช้กฎหมาย “โดยไม่จำกัดช่วงอายุ”
ขณะที่เนเธอร์แลนด์อนุญาตให้แพทย์ทำการุณยฆาตแก่เด็กป่วยที่อายุ ๑๒ ปีขึ้นไปเท่านั้น ทว่ากฎหมายใหม่ของเบลเยียมอนุญาตให้เด็กป่วยหนัก “ทุกช่วงวัย” บอกให้แพทย์ช่วยจบชีวิตตนเองได้ ตราบใดที่ยังมี “สติสัมปชัญญะและความสามารถในการไตร่ตรอง”
กฎหมายฉบับนี้เปิดโอกาสให้แพทย์ทำการุณยฆาตแก่ “เด็กที่ป่วยหนักจนแพทย์หมดทางรักษา และต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไม่อาจบรรเทาได้ จนอาจถึงแก่ความตายในไม่ช้า” ทั้งนี้จะต้องขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาเสียก่อน รวมถึงได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองด้วย
กลุ่มที่ต่อต้านการให้สิทธิการุณยฆาตในเด็ก ระบุว่า “ไม่มีระบบที่แน่นอนที่จะพิสูจน์ได้ว่า เด็กที่ป่วยหนักและกำลังตัดสินใจใช้วิธีการุณยฆาตนั้นมีความสามารถเพียงพอในการเข้าใจสิ่งที่ตนเองเลือกได้อย่างแท้จริง”
ในช่วง ๒-๓ วันที่ผ่านมา คริสตจักรคาทอลิกได้จัดกิจกรรมอดอาหารและสวดมนต์เพื่อประท้วงร่างกฎหมายนี้ ขณะที่กุมารแพทย์ราว ๑๖๐ คน ก็ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐสภาเลื่อนการโหวตกฎหมายออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าไม่มีการตระเตรียมที่ดีพอและไม่ใช่กฎหมายที่จำเป็นในเวลานี้
เบลเยียมเป็น ๑ ใน ๓ ประเทศยุโรปที่จะอนุญาตการทำการุณยฆาตในผู้ใหญ่ และจากผลสำรวจเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วก็พบว่า ชาวเบลเยียมร้อยละ ๗๓ เห็นด้วยกับการให้สิทธิแก่เด็กป่วยในการตัดสินใจยุติความทุกข์ทรมานของตนเอง
ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗