อากง จะบอกอย่างไรดี
ประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี ๒๕๕๖ มีคุณหมอผู้หญิงท่านหนึ่งปรึกษาทางโทรศัพท์ว่า
“การบอกความจริงให้อากง (ปู่ของตนเอง) ทราบว่าเป็นมะเร็งท่อน้ำดี จะบอกอย่างไรดี เพราะกลัวอากงรับไม่ได้ และลูกๆ อากงก็ไม่ต้องการให้ท่านทราบว่าป่วยเป็นอะไร”
เนื่องจากคุณหมอทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนอากงและครอบครัวอยู่หาดใหญ่ จะลงมาเฉพาะเวลาอากงมาตรวจที่โรงพยาบาล ฉันจึงนัดคุณหมอและลูกๆ อากงมาพบกันที่ห้องประคองใจ หน่วยรังสีรักษา
พยาบาล: “สวัสดีค่ะ พยาบาลชื่อ กานดาวศรี เป็นพยาบาลรังสีรักษา”
คุณหมอโอปอ (นามสมมติ): “สวัสดีค่ะ หมอชื่อโอปอ เป็นหลานอากง” และแนะนำคุณอาหญิง คุณพ่อและคุณแม่
คุณหมอโอปอ: “วันนี้พวกเราพาอากงมาพบหมออายุรกรรม หมอบอกว่า อากงป่วยเป็นมะเร็งท่อน้ำดี ลูกๆ อากงไม่ต้องการให้หมอบอกอากงว่าป่วยเป็นอะไร แต่ทุกคนก็ทุกข์ใจมาก ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร”
คุณหมอพูดด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอเป้า
พยาบาล: “ไม่ทราบว่าเพราะอะไร ถึงไม่บอกความจริงกับอากง”
คุณหมวย (นามสมมติ ลูกสาวอากง) พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด: “อากงเป็นคนคิดมาก เครียดง่ายและรับไม่ได้”
คุณชัย (นามสมมติ ลูกชายคนโตของอากง ซึ่งเป็นพ่อคุณหมอ) พูดด้วยเสียงสั่นเครือ:
“อากงเคยพูดว่า ‘ถ้าเป็นมะเร็งก็ไม่ต้องรักษา’ เพราะจะเป็นภาระให้ลูกหลาน และเงินที่หามาก็จะหมด”
คุณหลิน (นามสมมติ ลูกสาวอากง): “แต่มีประเด็นอื่นๆ ที่ไม่สามารถคุยกับอากงได้ เช่น เมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อนอากงป่วย อากงพูดถึงฮวงซุ้ยว่า ต้องการที่ใหม่ ไม่ชอบที่เก่า และมีประเด็นอื่นๆ อีกหลายประเด็นที่ยังค้างคาอยู่ เพราะถ้าพูดในช่วงนี้ อากงต้องสงสัยว่าตนเองป่วยหนัก”
คุณหมอโอปอ: "นี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกคนลงมติว่า ต้องบอก แต่จะบอกอย่างไรไม่ให้อากงกลัว ท้อแท้ เครียด โดยให้หมอ (หลานสาวคนโตที่อากงรัก และไว้วางใจมาก) เป็นคนบอก โดยวางแผนจะบอกปลายเดือนธันวาคม เพราะเป็นช่วงที่หมอย้ายมา ทำงานโรงพยาบาลใกล้บ้าน ถ้ามีอะไรจะได้ช่วยเหลือทันที”
พยาบาล: "มะเร็งท่อน้ำดี คงมีเวลาไม่มากนัก เพราะตัวโรคมีแนวโน้มไม่ดี ถึงตอนนั้นจะเสียโอกาสที่จะทำสิ่งดีๆ ให้กับอากง ฉะนั้นต้องเตรียมวางแผนร่วมกันในญาติพี่น้อง ส่วนคุณหมออาจเริ่มเกริ่นกับอากงว่า มีก้อนที่ท่อน้ำดี เนื่องจากอากงอายุ ๘๐ ปีกว่า การรักษาค่อนข้างยากหน่อยแต่ก็รักษาให้บรรเทาอาการได้ แต่อย่างไร ก็ควรบอกเพราะจะมีประเด็นต่อไปคือ การตัดสินใจในการรักษาแบบประคับประคอง โดยให้อากงมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ”
คุณชัย: “เรื่องอื่นๆ ล่ะจะช่วยอย่างไร ผมเข้าหน้าพ่อไม่ติด ไปเยี่ยมก็ทะเลาะครั้ง” พูดเสร็จก็ปล่อยโฮ ทำให้ทุกคนตะลึง นิ่งเงียบเพราะไม่เคยเห็นปฏิกิริยานี้มาก่อน
หลังจากคุณชัยหายจากการร้องไห้โฮ ฉันจึงพูดว่า: “พอจะบอกได้ไหมว่ามีอะไร จะได้หาวิธีช่วยเหลือ”
คุณหลิน: “อากงเป็นคนจีนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ให้ความสำคัญกับฐานะการเงินและชื่อเสียง พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่หนุ่มๆ และเป็นลูกคนโต จึงต้องเป็นผู้นำครอบครัว ดูแลน้องๆ เข้มแข็งอดทน ขยัน ทำงานเก่ง มุมานะ จริงจัง โกรธง่าย หงุดหงิดง่าย เมื่อไม่ได้ดั่งใจ นับถือเจ้าแม่กวนอิม ประเด็นที่ขัดแย้ง คือ ลูกชายคนโตไม่ประสบความสำเร็จตามที่ตนเองหวัง จากความเจ็บป่วยครั้งนี้ ก็ยิ่งทำให้อารมณ์ของอากงขุ่นมัวหงุดหงิดมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาลูกชายคนโตไปเยี่ยม”
คุณชัย: “ตอนเล็กๆ ผมเป็นคนชอบเล่นฟุตบอล ชอบขับรถช๊อปเปอร์ท่องเที่ยว เวลาว่างจากงาน แต่อากงจะไม่ชอบ และจากสาเหตุนี้ ทำให้ผมไปทำมาหากินที่กรุงเทพฯ ไม่อยู่บ้าน แต่ลูกโอปอและน้องสาวอยู่กับอากงและอาม่า”
พยาบาล: “พยาบาลเข้าใจคุณชัย และขณะเดียวกันก็เข้าใจอากง เพราะในอดีตอากงเป็นลูกชายคนโต และต้องดูแลน้องๆ อากงเลยคาดหวังให้คุณชัยเป็นอย่างอากง ถ้าคุณชัยเข้าใจอากง ก็จะให้อภัยอากง”
คุณหมอโอปอ: “แล้วจะให้พ่อเข้าไปขอโทษ ขออโหสิกรรมตอนนี้ อากงก็สงสัย”
พยาบาล: “วันที่ ๕ ธันวาคมนี้ เป็นวันพ่อ ถือโอกาสนี้ ให้ลูกทุกคนซื้อมะลิพวงไปกราบขอขมาอากงที่ได้ล่วงเกิน”
คุณหมอโอปอ: “ตกลงค่ะ คราวหน้าจะมาปรึกษาหลัง ๕ ธันวาคมนี้”
...
๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗
วันนี้ คุณหมอโอปอและครอบครัวมาเยี่ยม แต่มีสมาชิกเพิ่ม มาอีกหนึ่งคนคือน้องสาวที่เป็นนักจิตวิทยาจากกรุงเทพฯ พยาบาลสังเกตเห็นรอยยิ้มจากสีหน้าทุกคน วันนี้ทุกคนมาสวัสดีปีใหม่พร้อมกล่องของขวัญ
คุณหมอโอปอ: “แนะนำน้องปูเป้ (นามสมมติ น้องสาวนักจิตวิทยา) มาจากกรุงเทพฯ เวลาหมอไปทำงานที่กรุงเทพฯ ก็สลับกับน้องปูเป้มาอยู่กับอากงอาม่า ตอนนี้หมอย้ายกลับมาทำงานที่หาดใหญ่และอยู่กับอากงแล้ว”
พยาบาล: “ตอนนี้อากงเป็นอย่างไรบ้าง”
คุณหลิน: “วันที่ ๕ ธันวาคมที่ผ่านมา ลูกๆ ทุกคนได้นำดอกมะลิไปขออโหสิกรรม ตั้งแต่นั้นมาอากงเริ่มมีอารมณ์ดีขึ้น ไม่ทะเลาะกับคุณชัย อากงพูดว่าตัวเองอายุมากแล้วไม่นานก็ตาย อากงพูดถึงฮวงซุ้ย พวกเราเลยพาอากงไปดูที่และซื้อใหม่แล้ว ตอนนี้กำลังก่อสร้างใกล้เสร็จ ปีใหม่ที่ผ่านมาพวกเราพวกพาอากงไปเที่ยว ไปกินอาหารที่อากงชอบ ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่อากงนับถือ”
คุณหมวย: “ที่แปลกกว่านั้นคือ อากงแจกทองหลานๆ ทุกคน และแบ่งสมบัติให้ลูกๆ ทุกคน”
พยาบาล: “เยี่ยมมาก ทุกคนทำดีมาก ดีใจด้วย แต่ไม่ทราบว่าคุณหมอโอปอได้บอกความจริงกับอากงแล้วยังค่ะ”
คุณหมอโอปอ: “ก่อนอื่นพวกเราทุกคนก็ต้องขอบคุณพี่ฟ่งที่ได้แนะนำ ตอนแรกหมอได้เกริ่นกับอากงว่า มีก้อนที่ท่อน้ำดี เนื่องจากอากงอายุ ๘๐ ปีกว่า การรักษาค่อนข้างยากหน่อย แต่ก็รักษาให้บรรเทาอาการได้”
พยาบาล: “แล้วอากงว่าอย่างไรบ้าง”
คุณหมอโอปอ: “อากงบอกว่าไม่เป็นไร แก่แล้ว”
พยาบาล: “สิ่งที่สำคัญคือครอบครัวได้ทำสิ่งดีๆ ไปด้วย ตั้งแต่การอโหสิกรรม เรื่องฮวงซุ้ยที่อากงเป็นกังวล ความอบอุ่นกำลังใจที่ทุกคนมอบให้อากง”
คุณหมอโอปอ: “ครั้งล่าสุดประมาณปลายๆ เดือนธันวาคม อากงมาหาหมออายุรกรรมเพราะมีอาการตัวเหลือง ขาเริ่มบวม และครั้งนี้อากงก็รอคำตอบว่าเป็นอะไรกันแน่”
พยาบาล: “คุณหมอบอกอากงอย่างไรล่ะ”
คุณหมอโอปอ: "วันที่บอกมีหมอและน้องปูเป้ พอหมอบอกว่าเป็นมะเร็งท่อน้ำดี หมอกับน้องปูเป้ร้องไห้แต่อากงกลับเอาเราสองคนมากอดและปลอบว่า ‘ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร อย่าเครียด อย่ากังวลไปเลย อากงแก่แล้ว ยังไงวันหนึ่งอากงก็ต้องตายอยู่ดี อากงภูมิใจมาก ที่มีหลานทุกๆ คนได้ดี มีทั้งหมอ นักจิต เภสัช วิศวกร’”
พยาบาล: “คุณหมอรู้สึกอย่างไรบ้าง หลังบอกความจริง”
คุณหมอโอปอ: “รู้สึกโล่ง สบายใจ ถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็ไม่รู้ว่า การบอกข่าวร้ายกับคนที่เรารักนั้น ยากจริงๆ”
เรื่องราวเกี่ยวกับการสื่อสารบอกความจริง เป็นศาสตร์และศิลปะ ในการเตรียมตัวผู้ป่วยและครอบครัว ที่จะบอกความจริงนั้นเป็นสิ่งจำเป็น ในกรณีศึกษานี้ ต้องขอบคุณอากงและครอบครัวที่เป็นครูสอนให้เรียนรู้ ขอบคุณที่อากงและครอบครัว เปิดโอกาสให้ทำความดี
จาก http://www.gotoknow.org/posts/563755
และ http://www.gotoknow.org/posts/563791