เริ่มต้นดีไปได้ดี
เคยไหมคะ ที่เวลาเราเริ่มต้นเรื่องใดดี มักจะไปได้ดีไม่มีอุปสรรคใดๆ เหมือนคำกล่าวที่ว่า “เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” ผู้เขียนเพิ่งมาประจักษ์คำพูดนี้อย่างแจ่มแจ้งเมื่อตอนที่อยากจะเย็บปลอกคอให้บรรดาแมวๆ ที่บ้านใส่ เพราะที่บ้านมีแมวอยู่หลายสิบตัว การซื้ออาจจะไม่เป็นการดีต่อเงินในกระเป๋า รวมถึงปลอกคอที่ขายๆ กันอยู่ไม่มีแบบที่ถูกใจ (เจ้าของ)
เมื่อก่อนที่บ้านจะไม่ใส่ปลอกคอให้แมว เพราะคิดว่าเป็นการทำให้เขารู้สึกไม่มีอิสระ หรือถูกจับจอง (ในความคิดของผู้เขียน ไม่มีใครสามารถเป็นเจ้าของใครได้ คือ รักอิสระนะเอง) แต่ต่อมาเริ่มมีการมองเรื่องปลอกคอในมุมใหม่เนื่องมาจากแม่ที่บ้านมีสีซ้ำๆ กันหลายตัว การใส่ปลอกคอจะช่วยให้แยกแยะได้ดีว่าใครเป็นใคร
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อผู้เขียนทำปลอกคอให้ “ถั่วเหลือง” ทำเสร็จแล้วจะใส่ให้เลย เพื่อดูว่าพอดีไหม แต่ตอนที่ใส่ ทำไปด้วยความเผลอ ลืมบอกกล่าวกับเจ้าตัวก่อน ในทันทีที่ทำแบบนั้น ถั่วเหลืองจะมีปฏิกิริยาแปลกๆ คือกระโดด วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ทำเอาผู้เขียนงุนงงกับปฏิกิริยาดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีแมวตัวไหนเป็นแบบนี้ รวมถึงไม่ใช่นิสัยของถั่วเหลืองด้วย ทำให้ต้องวิ่งตามไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือ เธอไปแอบ หรือซุกตัวอยู่ใต้ตู้ แววตาตื่น ร้องด้วยความกลัว เมื่อจับตัวออกมาได้ จึงพบว่าปลอกคอที่ใส่ให้ไปพาดอยู่ตรงปากของเธอ เมื่อตัดออกได้แล้ว ต้องทั้งปลอบทั้งกอดกันพักใหญ่กว่าเธอจะเป็นปกติ หลังจากนั้น เวลาเธอจะเดินมาอ้อน ถ้าเห็นผู้เขียนกำลังเย็บปลอกคออยู่ เธอจะสะดุดหยุดและวิ่งหนีไปทันที เพราะในใจเธอคงคิดว่า สิ่งนี้น่ากลัว และเป็นอันตรายต่อตัวเองได้ (เหมือนครั้งก่อนๆ)
เมื่อทบทวนเรื่องราวของถั่วเหลืองพบว่า ถ้าทำครั้งแรกได้ดี จะไม่มีปฏิกิริยาแบบนี้เกิดขึ้น หลังจากนั้น เมื่อต้องใส่ปลอกคอให้กับสมาชิกตัวอื่นๆ ที่บ้านจะทำด้วยความระมัดระวังมากขึ้น พบว่า ไม่มีปฏิกิริยาเหมือนที่ถั่วเหลืองเป็นหรือเกิดเรื่องราวไม่ประทับใจกับตัวไหนๆ อีกเลย
ในชีวิตของเราเช่นกัน หลายๆ เรื่องเมื่อเรารู้สึกไม่ประทับใจกับอะไรก็ตามในครั้งแรก ความรู้สึกในแง่ลบต่อสิ่งนั้นมักจะยังคงอยู่ เรียกว่า ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกเลย ผู้เขียนเองเมื่อตอนเด็กๆ (แม้กระทั่งตอนนี้) กลัวเข็มฉีดยามาก มาค้นพบตอนหลังว่า เป็นเพราะครั้งแรกที่ถูกฉีด ด้วยความกลัว ไม่อยากฉีด จึงร้องไห้และดิ้น เขาจึงบังคับด้วยการเข้ามาจับตัวเราไว้ ทำให้เราฝังใจในเข็มฉีดยาจนถึงตอนนี้ เมื่อได้แลกเปลี่ยนเรื่องนี้กับแม่ พบว่าแม่เองก็ฝังใจกับการผ่าตัดในครั้งแรกที่เจ็บมาก ส่วนหนึ่งเพราะการคำนวณการให้ยาชาที่ผิดพลาดของหมอ ทำให้ยาชาหมดฤทธิ์ก่อนที่จะผ่าตัดเสร็จ ทำให้ปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดเล็ก หรือใหญ่ สำหรับแม่เป็นเรื่องน่ากลัวมาก เพราะความทรงจำเดิมที่ฝังอยู่
เมื่อลองค้นข้อมูลด้านจิตวิทยา และพฤติกรรมต่างๆ ในคนและสัตว์ พบข้อมูลน่าสนใจว่า พฤติกรรมที่แสดงออกนี้ เป็นพฤติกรรมการเรียนรู้แบบฝังใจที่อาจจำไปตลอดชีวิต หรืออาจฝังใจเพียงระยะเวลาหนึ่ง ความทรงจำนี้อาจจะถูกเก็บไว้ลึกๆ ในจิตใต้สำนึก ที่บางเรื่องเราอาจจะลืมเลือนไปแล้วจากความทรงจำของเรา
เราอาจจะลองทบทวนเรื่องราวของเราเอง แล้วอาจจะค้นพบคำตอบว่าเหตุใดเราจึงรู้สึกกลัว ไม่ชอบ หรือเกลียดบางอย่างที่เราเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ให้เราลองทบทวนว่า เราเคยมีประสบการณ์ไม่ดีกับเหตุการณ์แบบนี้ไหม ไม่แน่คำตอบอาจจะเป็นเพราะความไม่ประทับใจในครั้งแรกนี่เอง ซึ่งการค้นพบนี้ถือเป็นขุมทรัพย์ในชีวิตที่เราจะใช้โอกาสนี้ในการปลดเปลื้องเรื่องที่ฝังใจเรา เพื่อให้เราสามารถก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ได้ เราอาจจะใช้วิธีการพูดกับจิตใต้สำนึกของเราว่า เราจะไม่กลัวสิ่งนี้อีกต่อไป เพราะเรารู้สาเหตุของความกลัวแล้ว เหมือนคำของพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ที่ว่า “ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่น่ากลัว มีแต่สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจ”