งานศพในฝัน
ผมเคยไปงานศพของรุ่นพี่คนหนึ่ง เป็นงานศพที่ไม่เหมือนใคร และคงจะอยู่ในความทรงจำของผมไปอีกนาน
ไม่ใช่เพราะงานศพของเธอสวยงามในธีมเจ้าสาว หรือเพราะเธอจัดงานศพที่บ้าน (ซึ่งยุคนี้ไม่ค่อยมีคนเมืองที่ไหนนิยมจัดกัน) หรือข้อกำหนดที่เจ้าตัวร้องขอไว้ไม่ให้แต่งชุดดำ
แต่เพราะงานศพนั้นสวยงาม ทั้งบรรยากาศของงานและแนวคิดเบื้องหลัง
มันเป็นงานศพของ กันย์-รสวรรณ ม่วงมิ่งสุข หญิงสาววัยสามสิบตอนกลาง เธอป่วยเป็นมะเร็งเมื่อสามปีที่แล้ว ประสบการณ์ครั้งนั้นได้พลิกชีวิตของเธอจากมัคคุเทศก์สาวผู้มีวิถีชีวิตโฉบเฉี่ยวทันสมัย สู่การเรียนรู้ชีวิตมิติด้านใน ยกระดับจิตใจและวิญญาณ
กันย์แสวงหาวิธีรับมือความเจ็บป่วยและความตายที่จะมาถึง ด้วยการเข้าอบรมหลักสูตรปฏิบัติธรรมที่หลากหลาย รวมทั้งการเจริญสติเพื่อเผชิญความตายอย่างสงบ กันย์ยังเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือหลากหลายหน้างาน ช่วงสามปีที่ผ่านมาเธอจึงมีกัลยาณมิตรเพิ่มขึ้นมากมาย ทุกคนยินดีร่วมสร้างสรรค์งานศพที่เธอปรารถนา
งานศพที่เรียบง่าย ได้ปัญญา กระตุ้นเร้ามรณานุสติธรรม
กันย์ตระเตรียมงานศพของตนแต่เนิ่นๆ เธอเรียกญาติมิตรที่รู้ใจมารับฟังไอเดียและแบ่งงาน กันย์ออกแบบไว้ทั้งหมดว่าควรจะจัดงานศพเป็นเวลากี่วัน องค์ประกอบงานเป็นอย่างไร ใครรับหน้าที่ใดตามความถนัด
เธอยังเขียนความปรารถนาล่วงหน้าไว้ครอบคลุมทุกมิติในบทความที่เรียกว่า "เมื่อฉันตาย" ใจความประกอบไปด้วยเจตนาเกี่ยวกับการรักษาในช่วงท้ายของชีวิต การจัดการร่างกาย ทรัพย์สิน งานศพ และบุคคลที่ไหว้วานให้ช่วยดำเนินการให้เป็นไปตามความประสงค์
ดังนั้น เมื่อลมหายใจสุดท้ายของกันย์มอดดับ งานศพตลอด 10 วันของเธอจึงถูกประกอบขึ้นอย่างเรียบง่าย เรียบร้อย ปราศจากความวุ่นวาย เพราะทุกคนรู้ตำแหน่งหน้าที่แล้วว่าใครต้องทำอะไรบ้าง
กันย์เลือกจัดงานศพที่บ้าน ขอให้เพื่อนร่วมงานสวดมนต์ทำวัตรเย็นแทนการฟังคำสวดอภิธรรมภาษาบาลีที่ผู้มางานศพไม่เข้าใจ เพื่อนและครูของกันย์หลายท่านยังหมุนเวียนมาช่วยจัดกิจกรรมพิเศษเป็นบางวัน เช่น การพูดคุยบทเรียนชีวิตของเธอ เสวนาเรื่องการเตรียมตัวตาย อบรมหลักสูตรสั้นๆ ที่กันย์เคยเรียน
บางวัน เพื่อนๆ ยังช่วยกันจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ร่วมร้องเพลงที่กันย์ชอบ ญาติมิตรแต่งกายหลากสีสันรักษาบรรยากาศที่ไม่หดหู่เศร้าหมอง ทั้งนี้ กันย์ยังนิมนต์พระที่เธอเคารพมาบรรยายธรรมแก่ผู้อยู่ให้เกิดอนุสติธรรมในทุกค่ำคืน
เพื่อนเลือกตกแต่งงานศพของเธอด้วยธีมเจ้าสาวแทนที่จะเป็นผู้ล่วงลับ กุหลาบขาวหอมอวลจึงบานสะพรั่งทั่วงาน กันย์เลือกภาพหน้าโลงศพไว้แล้วเป็นภาพของเธอในชุดเจ้าสาว บรรยากาศงานจึงดูชวนม่วน ชื่นมื่น
.ฉลองที่เธอจากไปด้วยดี มีสติ และงดงามยิ่งผู้ร่วมงานศพของกันย์ต่างรู้สึกดีกับบรรยากาศงานศพที่บ้านของเธอ ได้พบปะมิตรสหายต่างกลุ่ม ได้มีส่วนร่วมสวดมนต์ส่งเธอสู่สุคติ ได้ปลอบโยนผู้สูญเสียในบรรยากาศที่ใกล้ชิดและเป็นกันเอง การจัดงานศพเช่นนี้ได้สะท้อนว่าเธอยอมรับความตายและเตรียมตัวไว้เป็นอย่างดี
อันที่จริง บรรยากาศงานศพเช่นนี้เคยดำรงอยู่สมัยปู่ย่าตายาย แต่เลือนหายไปตามกาล อีกทั้งมีผู้เชี่ยวชาญเข้ารับหน้าที่จัดงานแทนญาติมิตรและชุมชน ในที่สุดผู้ใกล้ชิดก็สูญเสียความสามารถที่จะจัดงานศพด้วยตนเอง ทั้งที่การประกอบงานศพด้วยการทำสิ่งละอันพันละน้อยร่วมกัน คือการเยียวยาความสูญเสียอย่างนุ่มนวลและงดงาม อย่างไรก็ตาม การจัดงานศพเองอาจเหนื่อย ยุ่งยากบ้าง แต่ความหมายที่ได้รับย่อมคุ้มค่า ความรู้สึกดีย่อมดำรงอยู่ในใจของผู้ร่วมงานไปอีกนาน
ไม่แปลกที่หลายคนอยากได้งานศพแบบนี้บ้าง งานศพที่สะท้อนตัวตนของผู้ตาย ให้ประโยชน์แก่ผู้มาเยี่ยมเยือน และเยียวยาผู้อยู่เบื้องหลัง ใครอยากจัดงานศพเช่นนี้ จำเป็นยิ่งที่จะต้องเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ ออกแบบไว้ล่วงหน้า แล้วแสดงเจตนาไว้ในพินัยกรรมหรือทำหนังสือสั่งเสีย
และอย่าลืมที่จะแบ่งปันไอเดียงานศพในฝันให้ญาติมิตรของเรารับรู้
- - - - - - - - - - -
เผยแพร่ครั้งแรกในบทความคอลัมน์มองย้อนศร หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ 21 กุมภาพันธ์ 2559