แม่ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ยังทำใจไม่ค่อยได้ ควรวางใจอย่างไร
ปุจฉา: กราบนมัสการพระอาจาย์ไพศาลครับ เนื่องจากแม่ของกระผมต้องประสบกับอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ร่างกายส่วนขวาของแม่อ่อนแรง ชา ไม่สามารถทำกิจกรรมได้อย่างปกติ เดิมทีเดียวนั้น แม่เป็นผู้หญิงเก่ง แม้เกษียณอายุราชการแล้วแต่ก็ยังหางานทำอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นปลูกผักปลอดสารพิษขาย ทำสวน และเป็นอาจารย์ถวายความรู้แก่สามเณรโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ
แต่ในวันนี้คุณแม่ประสบเหตุอย่างปัจจุบันทันด่วน หลายครั้งยากแก่การทำใจ แต่แม่ก็ยังสู้ ตั้งใจทำกายภาพอย่างดี ปรารถนาให้ร่างกายดีขึ้น สามารถช่วยตัวเองได้ แต่หลายครั้งก็ดูเหมือนแม่ยังยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้ ในขณะเดียวกันครอบครัวของเรายังประสบกับเหตุการณ์แวดล้อมต่างๆ ที่เข้ามา ผมอยากให้พระอาจารย์ให้ธรรมะเป็นกำลังใจแก่แม่ที่สู้มาทั้งชีวิต ให้มีแรงสู้ต่อไปด้วยครับ
พระไพศาล วิสาโล วิสัชนา: เมื่อล้มป่วย อย่างแรกที่เราควรทำคือ ยอมรับความจริงให้ได้ว่า นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราแล้ว ไม่ควรโอดโอย ตีโพยตีพาย หรือกราดเกรี้ยว เพราะจะทำให้ใจทุกข์ด้วย ไม่ใช่แค่กายทุกข์เท่านั้น
แต่พึงตระหนักว่า การยอมรับมิได้หมายถึงการยอมจำนน อะไรที่สามารถเยียวยารักษาได้ เราก็ควรทำ ไม่ควรนิ่งเฉยหรือปล่อยปละละเลย อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เยียวยารักษาร่างกาย ก็ควรวางใจให้ถูกต้อง กล่าวคือ ทำใจสบาย ๆ เท่าที่จะทำได้ อย่ายึดติดในผลที่คาดหวัง เพราะจะผิดหวังได้ง่ายและเป็นทุกข์หากผลไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จะกลายเป็นการซ้ำเติมตนเองให้หนักขึ้น
ขณะที่เจ็บป่วย หากทำอะไรไม่ได้เหมือนเคย ก็ควรยอมรับความจริงดังกล่าว อย่าขุ่นเคือง ควรถือว่านี้เป็นโอกาสที่ร่างกายจะได้พักผ่อนบ้าง เราใช้กายนี้มาเยอะแล้วจนเขาทรุดโทรม เมื่อถึงเวลาที่เขาล้มป่วย ทำอะไรไม่ได้มาก เราก็ควรมีเมตตาต่อเขา ขณะเดียวกันก็มีเมตตาต่อตัวเอง เพราะถ้าปล่อยให้ความโกรธเกิดขึ้น มันก็จะเผาลนจิตใจตนเอง กายป่วยอย่างเดียวก็หนักหนาพอแล้ว อย่าให้ใจป่วยตามมาอีก
อย่าลืมว่าแม้กายจะป่วย แต่ใจก็เป็นสุขได้ ควรใช้เวลานี้ พักกายและพักใจไปด้วย ใจที่สุขสบายสามารถช่วยให้กายฟื้นตัวเร็วขึ้น บริหารกาย ทำกายภาพบำบัดแล้ว อย่าลืมบริหารใจหรือบำบัดใจไปด้วย จะช่วยให้ช่วงเวลาที่ล้มป่วยกลายเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่า ไม่สูญเปล่า หรือตกต่ำย่ำแย่
ที่มา: เพจ พระไพศาล วิสาโล – Phra Paisal Visalo