เพื่อนฉันหายไปไหน?
เราหลายคนคงเคยผ่านช่วงเวลาความสูญเสียสัตว์ที่เราเลี้ยงมาก่อน ซึ่งแต่ละคนอาจจะยอมรับได้บ้างไม่ได้บ้าง หรือมีท่าทีในการรับมือแตกต่างกัน แต่บางครั้ง เราอาจจะหลงลืมไปว่าสมาชิกในบ้านตัวอื่นๆ (กรณีบ้านหลังนั้นเลี้ยงสัตว์มากกว่า ๑) ก็อยากจะรู้ความจริง หรือได้รับการบอกกล่าวว่าเพื่อนของเขาหายไปไหน เพราะเมื่อสัตว์เลี้ยงตาย เรามักจะจัดการสิ่งต่างๆ ตามที่คิดว่าดีที่สุด และจำเป็นโดยมนุษย์ด้วยกันเอง แต่หลงลืมนึกถึงสัตว์ตัวอื่นๆ ที่มีความผูกพันกับเพื่อนที่ตายไปแล้ว เลยอยากจะชวนพวกเราให้ลองสังเกตว่าสมาชิกตัวอื่นๆ ในบ้านมีปฏิกิริยาแปลกๆ ไปหลังจากที่เพื่อนเขาตายหรือไม่ ตั้งแต่ซึมลง นั่งเหม่อ หรือคอยมองไปข้างนอกบ่อยๆ
ผู้เขียนเองเคยประสบเรื่องนี้กับตัวเอง ตอนที่ “มวย” หมาที่เคยเลี้ยงออกไปเดินเล่นหน้าบ้านในตอนเช้าแล้วโดนรถชน เรารีบพามวยไปหาหมอทันที ในขณะที่กำลังวุ่นวายอยู่นั้น เราลืมไปว่า “แชมป์” หมาอีกตัวหนึ่งที่เราเลี้ยงและเติบโตคู่กันมากับมวยเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด แม้จะรีบพาไปโรงพยาบาลแล้ว แต่เนื่องจากอวัยวะภายในเสียหายอย่างหนัก รวมถึงมีเลือดออกมาก ทำให้มวยเสียชีวิตในบ่ายวันนั้น เมื่อเรากลับมาถึงบ้านตอนเย็น มวยไม่ได้กลับมาด้วย เรามาสังเกตปฏิกิริยาของแชมป์อีกทีก็ตอนค่ำ เมื่อแชมป์ไม่ยอมเข้าบ้าน เรียกอย่างไรก็ไม่ยอมเข้า เอาแต่นั่งมองหน้าบ้าน และตอนเช้าพอเราเปิดประตู แชมป์จะรีบวิ่งออกไปนั่งหน้าบ้าน บางทีก็ชะเง้อคอมองเมื่อมีหมาเดินผ่านมา และเมื่อรถคันที่ชนมวยวิ่งผ่านหน้าบ้าน ก็จะวิ่งไปขนาบข้างและเห่าเสียงดัง แชมป์มีปฏิกิริยาอยู่อย่างนี้เป็นสัปดาห์ จนเราเริ่มสังเกตเห็น
เราจึงเริ่มต้นนั่งคุยกับแชมป์ว่า เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่พามวยไปหาหมอ ค่อยๆ เล่าเหตุการณ์พร้อมทั้งลูบตัวปลอบไปเรื่อยๆ หลังจากวันนั้น เราเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับแชมป์มากขึ้น จนเขาค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ แต่ก็ใช้เวลาเป็นเดือน
เพื่อนของผู้เขียนอีกคนหนึ่งก็เคยเจอกรณีคล้ายๆ กัน ตอนที่พาหมาที่ป่วยไปหาหมอ แล้วไม่ได้พากลับมาด้วย ทำให้หมาอีกตัวหนึ่งที่เลี้ยงไว้มีปฏิกิริยาแปลกๆ ด้วยความเป็นคนช่างสังเกต เขาจึงเริ่มคุยกับหมาตัวนี้ และพาไปที่หลุมฝังศพของเพื่อนเพื่อบอกลากัน หลังจากนั้น เมื่อมีสมาชิกหมาด้วยกันเองในบ้านตาย หมาตัวอื่นๆ จะถูกพาไปอยู่ร่วมงานฝังศพเพื่อเป็นการบอกลากัน
ตัวอย่างที่ผู้เขียนได้เล่าเอาไว้ข้างต้น อาจจะทำให้เราฉุกคิด และเริ่มหันมามองว่า นอกจากมนุษย์แล้ว สัตว์เลี้ยงก็อยากที่จะได้รับการบอกเล่าว่า เพื่อนของเขาหายไปไหน เกิดอะไรขึ้น ผู้เขียนเชื่อว่า สัตว์เลี้ยงสามารถรับรู้สิ่งที่เราพูดได้ หรือการที่เขาแสดงออกบางอย่างเป็นเพราะอยากจะสื่อสารกับเรา ซึ่งบางครั้งเราอาจจะละเลย ไม่ทันสังเกต หรือไม่ให้ความสำคัญ การที่เราหันมาตระหนักถึงเรื่องดังกล่าวจะนำไปสู่การที่เราเริ่มใส่ใจ สังเกตสิ่งรอบข้าง และให้ความสำคัญกับปฏิกิริยาต่างๆ มากขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ใช่แค่มนุษย์ด้วยกันเอง แต่อาจจะหมายความรวมถึงสัตว์เลี้ยงในบ้านด้วย แล้วจะพบว่าเราสามารถเข้าใจความรู้สึก ความต้องการ ที่ซุกซ่อนอยู่ในการสื่อสารที่ไม่ได้จำกัดเพียง “เสียง” เท่านั้น