Error message

  • Deprecated function: Methods with the same name as their class will not be constructors in a future version of PHP; views_display has a deprecated constructor in require_once() (line 3066 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/bootstrap.inc).
  • Deprecated function: The each() function is deprecated. This message will be suppressed on further calls in menu_set_active_trail() (line 2385 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/menu.inc).

ข้อคิดจากงานอาสาข้างเตียง: ความคาดหวัง

-A +A

         ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา เพราะคิดว่าเป็นการทำบุญอีกแบบหนึ่ง โดยไม่ต้องไปวัด ได้ช่วยเหลือคนอื่นทำให้มีความสุขทุกครั้งที่ได้เป็นจิตอาสา เมื่อมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับโครงการอาสาข้างเตียงดูแลผู้ป่วยเรื้อรังและระยะสุดท้าย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดิฉันอยากเข้าร่วมเป็นอย่างมาก จึงตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะให้ความช่วยเหลือและทำประโยชน์ให้กับผู้ป่วยและญาติ

         หลังจากเข้าอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเข้าเยี่ยมผู้ป่วย ทำให้ดิฉันคิดว่าผู้ป่วยเรื้อรังโดยเฉพาะโรคมะเร็ง จิตใจคงหดหู่และเบื่อหน่ายกับการอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน รวมถึงญาติเองก็คงต้องการกำลังใจหรือความช่วยเหลือ ซึ่งจิตอาสาอย่างเราคงได้ทำประโยชน์อย่างที่ตั้งใจไว้ 

         แต่หลังจากที่ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วย ทำให้ดิฉันได้ข้อคิดที่สำคัญสำหรับการเป็นจิตอาสาในการดูแลผู้ป่วย คืออย่าคิดหรือคาดหวังล่วงหน้า ให้เรียนรู้จากผู้ป่วย จะทำให้เราทำหน้าที่จิตอาสาได้ดีและมีความสุข

         เพราะงานดูแลผู้ป่วยไม่เหมือนกับงานจิตอาสาประเภทอื่นๆ ที่การทำงานจริงมักไม่ต่างจากที่จิตอาสาคิดหรือต้องการ แต่ผู้ป่วยที่ดิฉันไปเยี่ยม ไม่เหมือนกับที่เคยคิดไว้ก่อนหน้านี้เลย

         รายแรกเป็นคุณลุงอายุ ๗๑ ปี ชาวจันทบุรี มารักษามะเร็งที่โคนลิ้นด้วยการฉายแสง ทุกครั้งที่ไปเยี่ยม คุณลุงจะอารมณ์แจ่มใส คุยอย่างเป็นกันเอง คุณลุงเล่าให้ฟังว่า บ้านอยู่ที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ และท่านเป็นหมอดินด้วย คุณลุงเคยเข้ารับการรักษามะเร็งก่อนหน้านี้ และทุกครั้งจะมีคุณป้าซึ่งเป็นภรรยามาเฝ้าทุกวัน โดยคุณลุงจะมีหนังสือเกี่ยวกับพระเครื่องอ่านหลายเล่ม และยังมีโทรศัพท์มือถือที่สามารถฟังข่าวได้ รวมถึงคุณลุงยังให้กำลังใจกับผู้ป่วยรายอื่นอีกด้วย ดิฉันได้เยี่ยมคุณลุงสามครั้ง คุณลุงก็กลับไปรักษาต่อที่บ้าน 

         รายต่อมาเป็น คุณลุงอายุ ๗๐ ปี เป็นคนหาดใหญ่มารักษามะเร็งลำไส้ มีอาการแขนขาอ่อนแรงเนื่องจากมะเร็งลุกลาม วันแรกที่ไปเยี่ยมคุณพยาบาลพาดิฉันไปแนะนำตัว คุณลุงนอนอยู่บนเตียง ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยอย่างเป็นกันเอง และมีญาตินั่งคุยอยู่ด้วย หลังจากนั้นดิฉันได้เยี่ยมอีกสองครั้ง ทุกครั้งจะพบลูกๆ และญาติ แล้วยังมีคนดูแลที่จ้างมาโดยเฉพาะ ซึ่งคนดูแลเล่าให้ฟังว่าลูกชายคุณลุงจะมาอยู่เป็นเพื่อนทุกวัน คุณลุงมีเครื่องเล่นดีวีดี พร้อมจอขนาดเล็ก เปิดดูคาราโอเกะเพลงจีนและหนังจีนที่ลูกๆ หามาให้

         การเป็นจิตอาสาครั้งนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกว่าไม่ค่อยได้ทำอะไรเลยนอกจากพูดคุย ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าผู้ป่วยมีคนมาเยี่ยม เราก็แค่ทักทายนิดหน่อยแล้วต้องลากลับ ไม่เหมือนกับงานอาสาอื่นๆ ที่เคยทำ เช่นพาน้องตาบอดไปทัศนศึกษา งานประดิษฐ์ของให้น้องที่อยู่ในชนบท หรืองานบรรจุถุงยังชีพ ซึ่งจะรู้สึกว่าได้ทำอะไรมากกว่าและตรงตามความต้องการของเรา เมื่อทำแล้วมีความสุขกับการได้ทำประโยชน์ให้กับคนอื่น

         เมื่อดิฉันได้คุยกับจิตอาสาคนอื่น มีบางคนบอกว่ามาแล้วไม่ได้ช่วยอะไรผู้ป่วยเลย ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเช่นกัน ดังนั้น ความต้องการและความคาดหวังของจิตอาสาที่ต้องการไปทำประโยชน์ อาจไม่ตรงกับความต้องการของผู้ป่วย ทำให้จิตอาสารู้สึกผิดหวังได้

         ดิฉันจึงเห็นว่า นอกเหนือไปจากความต้องการทำประโยชน์หรือช่วยเหลือของจิตอาสาแล้ว ยังมีสิ่งสำคัญอย่างอื่นในการเป็นอาสาข้างเตียงอีก เช่น การเรียนรู้จากผู้ป่วย สำหรับตัวดิฉันเองเป็นการเรียนรู้เพื่อดูแลคนใกล้ชิด และเตรียมตัวตนเองสำหรับความเจ็บไข้ได้ป่วยรวมถึงวาระสุดท้ายของชีวิตที่ไม่มีใครหลีกหนีได้ 

คอลัมน์:

ผู้เขียน: