ความตายไม่น่ากลัว ความกลัวตายต่างหากที่น่ากลัว
หฤทัย เล็ก: พระอาจารย์คะ พ่อแม่หนูท่านเสียชีวิตหมดแล้วค่ะ พ่อเป็นมะเร็งปอด เพราะสูบบุหรี่และกินเหล้า ส่วนลุงและพี่ชายก็เสียชีวิตเพราะเป็นมะเร็งเหมือนกัน เพราะชอบสูบบุหรี่ค่ะ ส่วนแม่ก็เคยสูบบุหรี่ค่ะ ทำให้เป็นโรคหัวใจความดัน ท่านเป็นเส้นเลือดสมองแตกค่ะ อายุ ๗๕ ค่ะ ส่วนพ่อเสียตั้งแต่ดิฉันยังอายุ ๔ ขวบค่ะ ส่วนพี่ชายก็อายุ ๕๐ ปัจจุบันดิฉันอายุ ๔๓ แล้ว เคยหย่าค่ะและแต่งงานใหม่ สามีใหม่เป็นคนดีมากค่ะ
คำถามก็คือ ดิฉันมักจะกลัวอนาคตค่ะ กลัวความตาย เนื่องจากสามีเป็นคนดี กลัวการพลัดพราก ไม่อยากผูกพันกับใครมาก ทำให้ไม่กล้านึกถึงอนาคตค่ะ เวลาที่จะซื้อคอนโดฯ ก็กลัวว่าถ้าเค้าเสียชีวิตแล้วดิฉันจะทำอย่างไร ดิฉันควรคิดอย่างไรดีคะ
พระไพศาล วิสาโล: การคิดถึงความไม่แน่นอนของชีวิต โดยเฉพาะความตายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ช่วยให้เกิดความไม่ประมาทในชีวิต และเห็นคุณค่าของเวลาและชีวิตที่เหลืออยู่ เร่งให้เกิดความพากเพียรในการทำความดีและทำหน้าที่ของตนให้ครบถ้วน ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง แต่ถ้าวางใจไม่เป็น ก็จะเกิดความหดหู่เศร้าหมองหรือวิตกกังวล ปัญหาของคุณอยู่ที่ตรงนี้ คือ มัวแต่กังวลและกลัวสิ่งที่มาไม่ถึง ทำให้ไม่เป็นอันทำสิ่งที่ควรทำในปัจจุบัน
สิ่งที่คุณควรทำ คือ เมื่อกลัวความตาย ก็อย่ามัวเจ่าจุก จมอยู่ในความกลัว หรือหมกมุ่นกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่ควรหันมาใส่ใจกับปัจจุบัน โดยเร่งฝึกตนหรือเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเพื่อรับมือความตายที่จะมาถึง ถือเอาความกลัวมาเป็นตัวกระตุ้นให้ทำความเพียรเสียแต่วันนี้ เช่น หมั่นทำความดี สร้างกุศล ทำหน้าที่ที่รับผิดชอบให้ดีที่สุดทุกวัน รวมทั้งการทำสมาธิภาวนาเพื่อให้ยอมรับความไม่เที่ยงของชีวิต และรู้จักปล่อยวางสิ่งต่างๆ ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าต้องเที่ยงหรือเป็นตัวกูของกู หากคุณทำสิ่งเหล่านี้ได้ครบถ้วน คุณจะกลัวความตายน้อยลง และพบว่าที่จริงแล้วความตายไม่น่ากลัว ความกลัวตายต่างหากที่น่ากลัว
อย่าลืมว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ตาม หากคุณทำวันนี้ให้ดีที่สุด คุณก็จะมีความมั่นใจมากขึ้นในการรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต