การดูแลความโศกเศร้าหลังการสูญเสีย เมื่อเพื่อนสูญเสียคนที่เป็นที่รัก
ปุจฉา: เพื่อนดิฉันทุกข์ใจอย่างหนักเพราะลูกและสามีเสียชีวิต ๑๐๐ วันแล้ว ยังทำใจไม่ได้ทำงานก็ไม่ได้ ลูกอีกคนก็เรียนไม่ได้ ไม่มีอะไรจะปลอบใจได้อีกแล้ว พระคุณเจ้าช่วยแนะนำด้วยเจ้าค่ะ จะได้ให้เขาอ่าน
พระไพศาล วิสาโล : ขอฝากข้อความนี้ไปยังเพื่อนของคุณว่า
"อาตมาเห็นใจคุณมากที่ได้สูญเสียคนที่คุณรักและมีความหมายต่อชีวิตของคุณมากถึง ๒ คน เป็นความสูญเสียที่ยากจะทำใจได้ ขอให้คุณเศร้าเสียใจให้พอ แต่ก็อย่าลืมว่า คุณยังมีลูกและคนสำคัญในชีวิตของคุณอีกหลายคนที่กำลังรอคุณอยู่ ความเข้มแข็งของคุณมีความสำคัญต่อเขาเหล่านั้นมาก โดยเฉพาะลูกของคุณ หากคุณท้อแท้สิ้นหวัง ก็จะพลอยทำให้เขาท้อแท้ไปด้วย รอยยิ้มของแม่จะทำให้ลูกมีพลังที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ
ขณะเดียวกันอยากให้คุณตระหนักว่า ชีวิตของคุณก็ยังต้องก้าวเดินไปข้างหน้าเช่นกัน เมื่อหายเหนื่อยแล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อไป วันข้างหน้าอาจไม่เลวร้ายกว่าที่คุณคิดหรือรู้สึก วันนี้คุณอาจคิดว่ารอยยิ้มและความเบิกบานเหือดหายไปจากชีวิตของคุณแล้ว แต่ที่จริงวันหน้าคุณยังสามารถมีความสุขได้อีก
อย่าลืมว่าสามีและลูกที่จากไป ยังเฝ้าดูคุณอยู่ เขาจะรู้สึกอย่างไรหากเห็นคุณทุกข์โศกเสียใจ เขาย่อมเป็นสุขได้ยาก สิ่งหนึ่งซึ่งคุณสามารถช่วยเขาได้คือทำใจให้เป็นบุญ อย่าเพียงทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาเท่านั้น แต่ควรทำใจให้เป็นบุญ อย่างน้อยก็สร่างจากความเศร้าโศกสิ้นหวัง ใจที่เป็นบุญนี้แหละที่จะช่วยให้เขาเป็นสุขในสัมปรายภพได้
ความตายนั้นไม่ใช่การจากไปอย่างสิ้นเชิง จะว่าไปชีวิตของเราไม่ตางจากก้อนน้ำแข็งที่ลอยอยู่ในแก้วน้ำ สักวันหนึ่งก้อนน้ำแข็งย่อมละลายหายไป แต่ไม่ได้หายไปไหนเลย หากกลายกลืนเป็นส่วนหนึ่งของน้ำในแก้วนั้นเอง
สามีและลูกยังอยู่รอบตัวคุณ อีกทั้งยังอยู่ในใจคุณ เป็นส่วนหนึ่งของลูกคุณ ขอให้คุณใคร่ครวญเช่นนี้ แล้วคุณจะตระหนักว่า ความสุขและความเข้มแข็งของคุณมีความหมายต่อเขามาก
เสียใจได้แต่อย่าให้มันครอบงำใจ เพราะคุณไม่ได้เกิดมาเพื่อระทมทุกข์ในวันนี้ แต่เพื่อสิ่งที่ดีกว่าซึ่งรอคุณอยู่ข้างหน้า"
การดูแลความเศร้าโศกหลังการตายเป็นเรื่องสำคัญ มีหลักฐานว่าคนจำนวนมากที่มีภาวะเศร้าเสียใจภายหลังการสูญเสีย ที่ไม่ได้รับ ข้อมูลจาก นิราศซิดนีย์ โดย นพ.สกล สิงหะ
|