พลังทองเลน: รับและให้ สื่อใจถึงใจ
เคยบ้างไหมคะเวลาไปเยี่ยมผู้ป่วยแล้วเห็นเขาเจ็บปวดทุกข์ทรมานจากโรคภัย หรือนอนไม่รู้สึกตัว แต่ดูเหมือนเราจะช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย วางตัวไม่ถูก ไม่รู้จะพูดอะไรดี มือไม้มันเกะกะ เก้ๆ กังๆ ไปหมด ได้แต่รำพึงอยู่ในใจว่า “นี่ถ้าเจ็บแทนได้อยากจะเจ็บแทนเขาจัง จะได้รู้สึกดีขึ้นกว่านี้” หากคุณเคยรู้สึกเช่นนี้ หรือมีหัวใจรักและปรารถนาดีที่พร้อมแบ่งเบาความทุกข์ของเพื่อนมนุษย์อย่างไม่มีเงื่อนไข ตอนนี้มีทางเลือกแล้วค่ะ ด้วยการทำภาวนาทองเลนให้กับผู้ป่วย
‘ทองเลน’ เป็นภาษาทิเบต แปลว่า ’รับและให้’ หมายถึง รับเอาความทุกข์ของผู้ป่วยหรือผู้ที่เรารักมาไว้ที่ตัวเรา และแปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความสุข ความมีชีวิตชีวาคืนกลับไปเยียวยาเขา ทองเลนเป็นการเจริญภาวนาที่อาศัยจินตนาการและความรักความเมตตาอย่างยิ่ง เพราะเราต้องพร้อมรับเอาความทุกข์ทั้งมวลของเขา มิใช่เพียงแค่แผ่ความสุขความปรารถนาดีให้เท่านั้น การภาวนาทองเลนทำได้ทั้งต่อหน้าข้างเตียงผู้ป่วย หรือแม้อยู่ห่างไกลกัน ผ่านการตั้งจิตจินตนาการถึงเขาตามลำดับดังที่จะแนะนำต่อไปนี้ค่ะ
» นั่งสบายๆ ข้างๆ ผู้ป่วย ใช้มือสัมผัสส่วนใดส่วนหนึ่งของเขา เช่น แขน มือ หน้าผาก ปลายเท้า หรือส่วนที่คิดว่าเขาเจ็บปวดอยู่ บอกให้เขาทำใจสบายๆ ผ่อนคลาย หากมีความเจ็บปวดความทุกข์ใดให้ปล่อยออกมาให้หมด และหลับตาลงเบาๆ (หากผู้ป่วยอยู่ไกล ให้น้อมระลึกเห็นภาพเขานอนอยู่เบื้องหน้าเรา)
» ทำใจให้สงบ ด้วยการตามลมหายใจเข้าและออก ปล่อยวางความคิดนึกต่างๆ ลงชั่วคราว หายใจเข้ารู้สึกถึงความสดชื่น หายใจออกรู้สึกถึงความผ่อนคลาย
» น้อมนำความเมตตากรุณามาสู่ใจเรา อาจระลึกถึงพระพุทธองค์ พระโพธิสัตว์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพนับถือผู้เต็มเปี่ยมด้วยเมตตาและกรุณาอันยิ่งใหญ่ ขอให้พระองค์ทรงบันดาลให้ความเมตตากรุณาในใจเราได้เบ่งบาน ให้เราเปิดใจพร้อมแบ่งเบาความทุกข์ของสรรพชีวิตโดยไม่ผลักไส และแบ่งปันความสุขให้อย่างไม่มีจำกัด ไม่มีประมาณ
» น้อมใจนึกถึงผู้ป่วยที่กำลังนอนบนเตียงเบื้องหน้าเรา ในจินตนาการ ขอให้เราทอดสายตาไปยังร่างกายของเขา เริ่มจากศีรษะ ลงมาที่หน้าอก ลำตัว จนมาถึงขาและเท้า รับรู้ถึงความทุกข์ ความเจ็บปวด ตลอดจนความวิตกกังวล ความกลัว ความหม่นหมองที่กำลังเกิดขึ้นกับเขา หายใจเข้าบอกตัวเองว่าพร้อมเปิดใจรับเอาความทุกข์ความเจ็บปวดของเขามาไว้ที่ตัวเรา หายใจออกบอกตัวเองว่าพร้อมมอบความรักความปรารถนาดีคืนกลับไปเยียวยาเขา
» จินตนาการว่าความทุกข์ทั้งมวลของเขาแปรเปลี่ยนเป็นกลุ่มควันสีดำคล้ำ สกปรก และร้อนผ่าวผุดขึ้นมาจากร่างกายทุกส่วนและเกาะกลุ่มรวมกันเป็นสายเคลื่อนเข้ามาที่ตัวเรา หายใจเข้า...ขอให้น้อมรับกลุ่มควันสีดำคล้ำเข้ามาไว้ที่กลางใจโดยไม่ผลักไสหรือต่อต้าน ให้มันค่อยๆ ทำลายความเห็นแก่ตัว ความโลภ ความโกรธ ความหลงใหลในตัวตนที่เกาะกุมจิตใจออกไปทีละชั้นๆ เป็นการชำระล้างอกุศลกรรมต่างๆ ออกไปจากใจเราทีละน้อยๆ จนเหลือแต่โพธิจิตเปล่งประกายสว่างไสวอยู่กลางใจ
» จินตนาการต่อไปว่าโพธิจิตที่สว่างไสว ได้เปลี่ยนกลุ่มควันสีดำคล้ำให้กลายเป็นลำแสงฉ่ำเย็นสีขาวนวล เป็นลำแสงแห่งความสุข ความมีชีวิตชีวา และความเบิกบาน หายใจออก...จินตนาการว่าเรากำลังเปล่งรังสีนวลใสแห่งความสุขและความปีติแผ่ไปยังผู้ป่วยที่กำลังนอนอยู่เบื้องหน้า รัศมีนวลใสโอบคลุมร่างทั้งร่างของเขาไว้ นำเอาความสุข ความมีชีวิตชีวา และกำลังวังชาให้แก่เขา ในจินตนาการ รัศมีนวลใสได้แผ่ซ่านไปทั่ว สัมผัสทุกอณู ทุกเม็ดเลือด ทุกเซลล์ในร่างกายของเขา สมานแผลภายใน ขจัดเนื้อร้ายและสารพิษออกไปจากร่างกาย ปัดเป่าสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้อวัยวะต่างๆ ข้องขัดและเจ็บป่วย ในขณะเดียวกันรัศมีนวลใสยังเยียวยาจิตใจของเขา บรรเทาความเศร้าหมอง หวาดหวั่น กังวล และความทุกข์ทั้งมวล เปรียบเสมือนแสงทิพย์ที่ชำระอกุศลต่างๆ ออกไปจากใจ เกิดความรู้สึกโปร่งเบา ผ่องแผ้ว แช่มชื่น เข้ามาแทนที่
» หายใจเข้า-ออก จินตนาการซ้ำๆ เช่นนี้จนรู้สึกว่ากลุ่มควันสีดำคล้ำค่อยๆ จางลง แต่รัศมีนวลใสยังคงแผ่ออกมาจากกลางใจอย่างต่อเนื่อง และยังคงเยียวยาร่างกายและจิตใจของเขาต่อไป จนควันสีดำจางหายไปจนหมดสิ้น
» ในจินตนาการ พลังชีวิตค่อยๆ คืนกลับมาสู่ผู้ป่วย ขณะที่รัศมีนวลใสค่อยๆ เลือนหายไป เราทอดสายตาไปยังคนไข้อีกครั้ง และพบว่าเขากลับมามีชีวิตชีวา มีกำลังวังชาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ใบหน้ามีน้ำมีนวล ผิวพรรณผ่องใส บรรยากาศในห้องที่หม่นหมองเริ่มสว่างไสว เขาเริ่มยิ้มแย้มและรู้สึกแช่มชื่นเบิกบาน เต็มเปี่ยมด้วยพลังชีวิต
» หายใจเข้าสดชื่น หายใจออกผ่อนคลาย...และค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ
การภาวนาทองเลนอาจใช้เวลาเพียงแค่ ๑๐-๑๕ นาทีต่อครั้งหรืออาจน้อยกว่านั้นหากมีสมาธิดี ที่สำคัญถ้าทำด้วยจิตใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความรัก เมตตา ปรารถนาดี อยากแบ่งเบาความทุกข์ อยากช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นอย่างจริงใจ ไม่เกรงกลัว ไม่ผลักไสควันดำ มีสติมั่นคงอยู่กับจินตนาการ จะยิ่งมีพลังมากในการเยียวยา ผู้รับสามารถรับรู้ถึงความจริงใจ ความอบอุ่นอ่อนโยนที่ส่งผ่านสัมผัสมาได้ หลายคนกล่าวว่าเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เขารู้สึกผ่อนคลาย สบาย อาการเจ็บปวดบรรเทาลงไป สามารถนอนหลับได้และตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นอย่างน่าประหลาด และที่สำคัญที่สุดคือให้ความรู้สึกมั่นคงอบอุ่นมาก รู้สึกว่าตัวเองยังมีคุณค่าที่ยังมีคนห่วงใย คอยอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อนกันยามทุกข์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการมากที่สุดเพื่อเยียวยาจิตใจให้ฟื้นคืนพลังขึ้นมาอีกครั้ง
เวลานำการภาวนาทองเลนไปใช้กับผู้ป่วยบางครั้ง อาจประยุกต์ให้ง่ายขึ้นด้วยการบอกผู้ป่วยว่าจะขอแบ่งเบาความทุกข์ความเจ็บปวดของเขามา และส่งความสุขคืนกลับไปให้ ให้เขาทำใจสบายๆ ผ่อนคลาย แล้วทำทองเลนให้โดยไม่จำเป็นต้องบอกว่ากำลังจะทำทองเลน เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดคิดว่ากำลังทำคุณไสย แล้วจะยุ่งกันไปใหญ่ เราอาจจะชวนญาติๆ ที่เฝ้าอยู่มาร่วมทำด้วยยิ่งดี ส่วนใครที่กลัวว่ารับเอาควันดำเข้ามาแล้วจะมีโทษกับตัวเองหรือไม่นั้น อาจมีบางคนที่รู้สึกเหนื่อย ปวดเมื่อยร่างกาย หรือปวดศีรษะ ซึ่งอาจมาจากความตั้งใจมากหรือเพ่งเกินไป บางคนเมื่อรู้ตัวว่าเพ่งแล้วผ่อนคลายลง อาการดังกล่าวจะบรรเทาลงไป หรือจะใช้การผ่อนคลายร่างกาย เดินรับพลังจากต้นไม้ใหญ่จากธรรมชาติก็ช่วยได้ดี แต่หากเราคิดว่าความทุกข์เพียงแค่นี้ยังเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับความทุกข์ของผู้ป่วย ก็จะช่วยให้ความทุกข์ของเราเล็กลงไป และมีพลังฟื้นคืนมาได้ไม่ยากค่ะ ขอให้เชื่อมั่นในพลังเมตตากรุณาในตัวเราว่าจะสามารถเยียวยาทั้งผู้ป่วยและตัวเราเองได้ สู้..สู้..
ใครที่อ่านแล้วยังนึกภาพไม่ออกว่าจะฝึกภาวนาทองเลนอย่างไร จินตนาการตามไม่ได้ เครือข่ายพุทธิกาได้จัดทำซีดีเสียงชุด “เผชิญความตายอย่างสงบ ชุดที่ ๑ บทภาวนา” เป็นเสียงนำภาวนาในรูปแบบต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวตายอย่างสงบ (รวมทั้งการภาวนาทองเลน) ให้ได้ฝึกกันง่ายๆ ที่บ้านแล้วค่ะ สนใจติดต่อได้ที่เครือข่ายพุทธิกานะคะ