คุณธรรมของไม้เท้าที่ภูกระดึง

เอกภพ สิทธิวรรณธนะ 31 มกราคม 2016

ผมและคณะถึงตีนภูกระดึงยามสาย จัดการซื้อตั๋วและฝากของกับลูกหาบก่อนจะเริ่มเดินขึ้นภูระยะกว่าห้ากิโลเมตร นับเป็นการเริ่มต้นที่ฮึกเหิมและมีความหวัง

เดินมาไม่ไกลจากจุดเริ่มต้น รุ่นพี่ร่วมคณะคนหนึ่งชี้นิ้วไปยังกองท่อนไม้ไผ่ แต่ละลำมีความยาวประมาณเมตรครึ่ง ท่อนใหญ่น้อยคละขนาด มันคือไม้เท้าสำหรับนักเดินทางนั่นเอง

“พวกเราควรจะหยิบไม้เท้าไปคนละอันนะคะ จะช่วยในการปีนเขาและทรงตัว” รุ่นพี่ผู้นำคณะกล่าว

ผมเห็นด้วย ก้มลงเลือกขนาดเหมาะมือ แต่เนื่องจากเรามาถึงค่อนข้างสายจึงเหลือไม้เท้าให้เลือกไม่มากนัก สุดท้ายได้ไม้เท้าขนาดใหญ่แตกปลายและโงนเงน

กระนั้น ไม้ไผ่โงนเงนลำนั้นเองที่ช่วยค้ำกายและทรงตัว ราวกับมีแผ่นพื้นมั่นเหมาะให้ยึดเหนี่ยวพยุงกายไต่เขาไปทีละคืบ เป็นลำดับ

ไม้เท้าลำนั้นช่วยสั่งสมความสำเร็จแห่งระยะทางจากตีนเขาสู่ที่พักแต่ละแห่ง ซัมแฮก ซำบอน ซำกกกอก ไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงหลังแปยอดสุดของภูกระดึง ไม้เท้าลำนี้คือเพื่อนร่วมทางหกชั่วโมงอันยาวนานเหน็ดเหนื่อยและสูงชัน

ใช้ชีวิตท่องเที่ยวสองวันบนภูก็ถึงคราวต้องเดินลง เวลานี้ไม้เท้ายิ่งทวีความสำคัญ นอกจากจะช่วยทรงตัวพยุงกายแล้ว มันยังช่วยลดความเร็ว ห้ามการลื่นไถล ลดการบาดเจ็บที่หัวแม่โป้งเท้า แม้การถือไม้เท้าจะทำให้เกิดอาการปวดข้อแขนอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าช่วยเฉลี่ยการบาดเจ็บกันไป

…ผมไม่อาจนึกภาพการเดินลงภูโดยไม่มีไม้เท้าได้เลย

แล้วผมจึงหายสงสัยว่า เพราะเหตุใดสัญลักษณ์การปีนเขาเดินป่าจึงปรากฏไม้เท้าอยู่ในนั้น  ไม้เท้าเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ สำหรับคนปีนป่ายสมัครเล่นเช่นผม

ระหว่างเดินทางขาลง ผมคิดขอบคุณเครื่องมือวิเศษนี้ หวงแหนมันไม่ปล่อยให้มันละสายตา ขณะแวะกินข้าวหรือเข้าห้องน้ำ ไม้เท้ากลายเป็นสมบัติอันมีค่าในการเดินทาง

ด้วยความรู้สึกดีกับไม้ไผ่ลำนี้อย่างท้วมท้น แวบหนึ่งผมคิดจะหยิบติดมือกลับไปบ้านเป็นของที่ระลึก …ก็มันมีความหมายมากมายเสียอย่างนั้น

แต่แล้วเมื่อถึงตีนภู ผมพบกับกองไม้ไผ่อีกครั้ง คราวนี้เห็นไม้เท้านับร้อยพันกองซ้อนทับกันแน่นิ่ง นักเดินทางขาลงต่างพร้อมใจทิ้งพวกมันไว้ตรงนั้น รอคอยอรุณรุ่งของอีกวันที่จะเคลื่อนมา พรุ่งนี้นักเดินทางกลุ่มใหม่ย่อมทยอยหยิบฉวยพวกมันขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ ใช้มันเป็นอุปกรณ์ช่วยพิชิตภู

ไม้เท้าจึงประหนึ่งมีวัฏจักรชีวิต เป็นวงจรแห่งการทำประโยชน์ เดินทางไปกลับเฉพาะตีนภู-ยอดภูอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่บ่น และไม่ทวงบุญคุณ

ไม้เท้าท่อนใดที่เน่าเปื่อย หมดความแกร่ง หมดความทนทาน มันก็พร้อมที่จะถูกทิ้งย่อยสลาย กลายเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าและผืนภูเช่นนั้น

นักเดินทางขาลงต่างพร้อมใจกันทิ้งพวกมันไว้ รอคอยอรุณรุ่งของวันใหม่ที่จะเคลื่อนมา

ด้วยเหตุนี้ ความปรารถนาจะลักไม้เท้าลำนั้นกลับบ้านจึงหมดมอดลงในที่สุด ผมไหว้ขอบคุณไม้เท้าเป็นการทดแทน ขอบคุณที่เขาช่วยเกื้อกูลความสำเร็จ ช่วยให้การเดินทางขึ้นลงเป็นไปโดยสวัสดิภาพ ไร้การบาดเจ็บใดๆ

จากนั้นจึงวางท่อนไม้อย่างเบามือ แล้วเดินทางกลับบ้านอย่างผู้มีชัย

ไตร่ตรองดูให้ลึกซึ้ง ดูเหมือนความสำเร็จและการพิชิตใดๆ ของคนเรา ย่อมมีใครบางคนหนุนหลัง มีปัจจัยค้ำยันให้เราเดินทางมาไกลถึงเพียงนี้ ไม้เท้าจึงเป็นตัวแทนที่ดีของความเกื้อกูลหนุนเสริมโดยไม่หวังผล

ผมหวังว่า วันหนึ่งจะสามารถน้อมเอาคุณธรรมจากไม้เท้าเข้ามาเป็นคุณธรรมในใจ ทำอย่างไรที่ชีวิตของเราจะมีคุณสมบัติดังเช่นไม้เท้าลำนั้นได้บ้าง เป็นคนที่พร้อมจะช่วยเหลือ เป็นเพื่อนร่วมเดินทางอย่างไม่บ่น ไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่ทวงถามความดีงาม พร้อมจะถูกวางถูกทิ้งไว้เป็นเบื้องหลังโดยไม่น้อยใจ

…และจากไปอย่างเงียบๆ เมื่อถึงเวลาอันควร

เอกภพ สิทธิวรรณธนะ

ผู้เขียน: เอกภพ สิทธิวรรณธนะ

Backstage writer, Urban sketcher