เรื่องสมมุติ ชายคนหนึ่งล้มป่วยและตายลง วิญญาณของเขาได้เดินทางไปยังสัมปรายภพ ในดินแดนรอยต่อระหว่างความตายกับชีวิตในดินแดนแห่งใหม่ เขาเดินทางมาถึงทางแยกระหว่างเส้นทางที่ไปนรก และเส้นทางที่นำเขาไปสู่สวรรค์ โชคร้ายที่ทางเลือกนี้มีประตูร่วม ๑๐๐ ประตู และในจำนวนนี้มีเพียงประตูเดียวที่จะนำวิญญาณของชายคนนี้ไปสู่สวรรค์ได้ ประตูที่เหลือ ๙๙ ประตูจะนำวิญญาณของชายคนนี้ไปสู่นรก สิ่งที่ยากคือ ในประตูทั้งหมดล้วนมีรหัสสัญลักษณ์ประทับอยู่ ถ้าเราเป็นวิญญาณของชายคนนี้ เราจะทำอย่างไรเพื่อช่วยตัวเราให้ออกจากวังวนและภารกิจปริศนาในเรื่องนี้ สิ่งที่จะช่วยวิญญาณของชายคนนี้ได้ คือ ชายคนนี้จะต้องเรียนรู้และจดจำสัญลักษณ์นี้ได้ว่าสัญลักษณ์ใดนำเขาไปสู่สวรรค์ได้ สัญลักษณ์ใดเป็นเครื่องหมายของประตูนรก ชายคนนี้ต้องมีความรู้ ความสามารถในการแยกแยะรหัสสัญลักษณ์ หากเขาไม่ต้องการเสี่ยงดวงกับโชคช่วยซึ่งมีเพียง ๑ ใน ๑๐๐
เรื่องจริง เราทุกคนก็เป็นเช่นชายคนนี้ ชายคนนี้จะต้องหาหนทางนำพาตนเองออกจากความทุกข์ที่รายล้อมอยู่ เขามีทางเลือกไม่มากนัก เพียงแค่หนึ่งในร้อย กระนั้นหากว่าเขาเปิดโอกาสเรียนรู้เส้นทางความสุข ความทุกข์ โอกาสของเขาก็จะไม่ใช่หนึ่งในร้อยอีกต่อไป การเรียนรู้เพื่อจดจำรหัสสัญลักษณ์ว่าอันใด คือ ประตูที่นำไปสู่สวรรค์ หรือนรก ก็คือการเรียนรู้แนวทางการดำเนินชีวิตที่จักนำไปสู่สวรรค์ หรือความสุขที่แท้ได้ แต่ในชีวิตจริง เหตุการณ์มิได้ง่ายอย่างในเรื่องสมมุติข้างต้น สิ่งที่ต้องระลึกคือ ประตูที่นำไปสู่นรกทั้งหมดต่างล้วนมีพลังที่ดึงดูดชีวิต ดึงดูดวิถีชีวิต การประพฤติปฎิบัติให้คล้อยตาม นั่นคือ อุปนิสัยความเคยชิน
ชายคนหนึ่งมีชีวิตที่เพียบพร้อม ภรรยาและลูกที่น่ารัก อาศัยอยู่ในชุมชนที่มีมิตรภาพและเอื้อเฟื้อ ชายคนนี้มีเพื่อนสนิทที่มีครอบครัว และทั้งสองครอบครัวต่างเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด วันหนึ่งชายคนนี้กลับบ้านก่อนเวลาและพบว่าภรรยาของตนลักลอบมีชู้กับเพื่อนสนิทของตน แน่นอนว่าอารมณ์ความรู้สึกเชิงลบ เช่น ความโกรธแค้น ความเจ็บปวด ความอับอาย ฯลฯ รุมเร้าจิตใจของชายคนนี้ ขณะที่ความนึกคิดก็เต็มไปด้วยบทสรุปของความคิดความเชื่อที่ผุดขึ้นเต็มไปหมด “เราถูกทรยศ เราถูกหักหลัง เราต้องฆ่ามัน ฯลฯ”
แน่นอนว่าภาวะรุมเร้านี้ผลักดันให้ชายคนนี้ต้องทำอะไรสักอย่าง ๑) ชายคนนี้เลือกที่จะใช้อารมณ์ชั่ววูบ ฆ่าชายชู้กับภรรยาเพื่อชดใช้ความผิดที่กระทำ ๒) ชายคนนี้อาจเลือกที่จะแก้แค้นภายหลังเพื่อให้บทเรียนที่แสนเจ็บปวดกับคนทั้งสอง และ ๓) ชายคนนี้อาจเลือกที่จะกระทำอีกอย่างภายใต้วิจารณญาณและสติปัญญา เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย
ทางเลือกที่แจกแจงมาข้างต้น กรณีทางเลือกที่ ๑ และ ๒ ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่เพียงเกิดขึ้นกับคู่กรณีทั้งสอง แต่ยังรวมถึงตัวชายคนนี้ คนรอบข้างทั้งหมด โดยเฉพาะตัวเองที่ต้องเป็นเหยื่อการกระทำและเหตุการณ์นี้ ทางเลือกที่ ๓ ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและยากที่สุด เนื่องเพราะชายคนนี้ต้องอาศัยความเข้มแข็งในจิตใจ ความอดทน ความกล้าหาญ และความตระหนักรู้ถึงความเป็นไปที่จะเกิดขึ้นหากว่าเขาเลือกทางเดินที่ ๑ และ ๒
การเลือกประตูสวรรค์ ความยากง่ายจึงไม่ใช่เพียงการเรียนรู้ความหมายของรหัสสัญลักษณ์ ไม่ใช่เพียงการเรียนรู้เส้นทางสู่ประตูความสุขที่แท้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการยืนหยัดฝันฝ่ากับพายุอารมณ์ที่โหมกระหน่ำกระตุ้นเร้าให้ชายคนนี้ตอบโต้โดยใช้ความรุนแรง ความรู้สึกเจ็บแค้นที่คอยผุดโผล่กระตุ้นความคิดเชิงแก้แค้น เพราะแม้ชายคนนี้เลือกทางที่ ๓ กระนั้นในอนาคตกระแสพายุอารมณ์เชิงลบเช่นนี้ก็อาจเข้ามาพัดผ่านจิตใจของชายคนนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
เรียนรู้แนวทางการดำเนินชีวิตซึ่งนำไปสู่ความสุขที่แท้ ท่ามกลางอุปนิสัยความเคยชินเดิมๆ ที่คอยดึงดูดให้เราคล้อยตาม
ขันธ์ ๕ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ คือ องค์ประกอบของมนุษย์ ในที่นี้ความทรงจำ การปรุงแต่งความรู้สึกนึกคิด การรับรู้ ประสานกันเป็นมุมมอง ทัศนคติ ความเชื่อหนึ่ง การปล่อยวางเรื่องราว ความทรงจำ ประสบการณ์บางอย่าง จึงต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนทัศนคติ มุมมอง ความเชื่อที่มีต่อเรื่องราวนั้นๆ หรือการตระหนักรู้ในความคิด ความรู้ตัวต่ออาการคิดนึกที่กำลังจมอยู่ในเรื่องราวที่คิดนึกก็เป็นเครื่องมือสำคัญ เพื่อปกป้องตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเรื่องราวที่ผ่านมา
ขันติ ความอดทน อดกลั้น จึงเป็นคุณธรรมสำคัญในการกำหนดเส้นทางชีวิต อดทนต่อความเย้ายวนที่จะดึงตัวเราให้ไหลไปตามอุปนิสัยความเคยชิน อดทนต่อแรงกระตุ้นที่คอยผลักดันให้เราใช้ธรรมชาติฝ่ายต่ำเพื่อจัดการเรื่องราวเหตุการณ์ตรงหน้า พร้อมกันนั้น ความอดทนยังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยนำพาไม่ให้เราล้มเลิกความตั้งใจในเส้นทางสู่ประตูแห่งความสุขที่แท้ ภารกิจที่ต้องค้นหาประตูสวรรค์หนึ่งเดียวท่ามกลางประตูนรกที่รายล้อม ต้องอาศัยความตั้งใจและความอดทนอย่างมาก
สิ่งที่ยาก คือ ความอดทนไม่ใช่สิ่งที่หยิบฉวยได้โดยง่ายเหมือนเช่นความรู้ ความเข้าใจ ที่ต้องอาศัยการศึกษาเล่าเรียนท่องจำ แต่มาจากการฝึกฝนและการฝึกฝน ความยากลำบากจึงเป็นบทเรียนเบื้องต้นที่เหมือนการฝึกหัดปีนเขา เริ่มต้นจากแบบฝึกหัดง่ายๆ ภูเขาเล็กๆ สู่บทเรียนที่ยากขึ้น กระนั้นความอดทนนี้ก็ไม่ได้หมายถึงการอดทน เพิกเฉย ต่อสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น แต่คือความอดทนที่มุ่งฝึกฝนจิตใจ ต่อการดำรงไว้ซึ่งคุณธรรมอันดีงาม
ท่ามกลางความรู้มากมาย ภาวะ “ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด” เกิดขึ้นได้เพราะจิตใจที่ไม่เข้มแข็ง ไม่อดทน ไม่เชื่อมโยงสิ่งที่รู้กับวิถีปฏิบัติ ความอดทนจึงหมายถึงการฟันฝ่า ยืนหยัด ท่ามกลางสิ่งรุมเร้าให้หลงทาง ให้หลงลืม ให้ละเลยกับเส้นทางสู่ความสุขที่แท้ และความอดทน ก็เป็นสิ่งที่เราต้องสร้างให้กับตนเอง คนอื่นทำแทนให้กันไม่ได้