แซม เบิร์นส์ อายุ 17 ปี ป่วยเป็นโรคโพรจีเรีย (Progeria) โรคผิดปรกติทางพันธุกรรม ที่โปรตีนผิดปรกติทำให้โครงสร้างเซลส์อ่อนแอ ผู้ป่วยโรคนี้จะมีผิวหนังตึง น้ำหนักตัวเพิ่มช้า ร่างกายแคระแกรน และเป็นโรคหัวใจ ทั่วโลกมีเด็กที่เป็นโรคนี้ประมาณ 350 คน
แซมอยากเล่นกลองสแนร์ในวงโยธวาธิตของโรงเรียนมัธยมฟอกซ์โบโร แต่กลองสแนร์มีน้ำหนักถึง 18 กิโลกรัม ในขณะที่ตัวเขามีน้ำหนักเพียงแค่ 23 กิโลกรัมซึ่งเป็นอุปสรรคในการรับน้ำหนักของกลองนี้ ผู้อำนวยการวงดนตรีจึงให้เขาเล่นเครื่องดนตรีอื่น เช่น กลองบองโกส์ กลองทิมพานี เครื่องเคาะจังหวะ ซึ่งทำให้เขาไม่ได้เดินสวนสนามร่วมกับวงโยธวาธิต
แซมไม่ยอมแพ้ที่จะเล่นกลองสแนร์ตามต้องการ ครอบครัวของเขาและตัวเขาได้ปรึกษาวิศวกรที่จะออกแบบอุปกรณ์ที่ใช้แบกกลองสแนร์ที่มีน้ำหนักเบาขึ้นและสะพายง่ายสำหรับเขา จึงทำให้เขาได้มีโอกาสเข้าร่วมเดินสวนสนามพร้อมวงโยธวาธิตของโรงเรียน
แซมมีปรัชญาแห่งความสุข 3 ข้อ ที่เขายึดถือ จึงทำให้เขามีความสุขกับการใช้ชีวิต แม้จะเป็นโรคร้ายก็ตาม นั่นคือ
1. ยอมรับได้กับสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ เพราะยังมีอีกหลายสิ่งที่เรายังทำได้
2. พาตัวเองไปยังกลุ่มที่ตัวเองอยากอยู่ด้วย
3. จงเดินหน้าอย่าหยุดยั้ง
เขาไม่ได้เพิกเฉยกับความรู้สึกแย่ แต่เขายอมรับมัน และยอมให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และไม่เสียเวลาไปกับความรู้สึกหดหู่กับตัวเอง เพราะเมื่อเสียเวลาแบบนั้น จะทำให้ติดอยู่กับความขัดแย้งในใจ และทำให้ไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับความสุขและความรู้สึกด้านอื่นๆ อีกต่อไป สิ่งที่ต้องทำคือก้าวข้ามมันไป เขากล่าวว่า
“ผมเชื่อว่าผมสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ และเมื่อผมเดินหน้าเปลี่ยนแปลงโลก ผมก็จะมีความสุข”
แซมเสียชีวิตเมื่อปี 2014 หนึ่งปีหลังจากที่เขาขึ้นเวที TED X เรื่องราวชีวิตของเขาได้ถูกทำเป็นสารคดี “Life According to Sam” ทาง HBO
ไม่เสียเวลาไปกับความรู้สึกหดหู่ เพราะจะทำให้ไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับความสุข
ฟังเรื่องราวของแซมจากลิ้งค์นี้
https://www.ted.com/talks/sam_berns_my_philosophy_for_a_happy_life