ขุมทรัพย์จากคนป่วย

เอกภพ สิทธิวรรณธนะ 1 มีนาคม 2015

ไม่มีใครอยากให้คนใกล้ชิดต้องเจ็บไข้ได้ป่วย หากเป็นไปได้ก็อยากให้เขาสุขภาพดีไปตลอดชีวิต แต่ความจริงก็คือ เมื่อถึงเวลาหนึ่งความเจ็บป่วยย่อมมาเยือนเราทุกคน

ไม่แปลกที่หลายคนจะสะพรึงกลัวกับความจริงข้อนี้ การดูแลความเจ็บป่วยกลายเป็นโจทย์สำคัญในสังคมสมัยใหม่ เช่น ทำอย่างไรจึงจะป้องกันความเจ็บป่วยให้ห่างไกลหรือมาช้าที่สุด เราจะวางแผนทางการเงินอย่างไรให้มั่นใจได้ว่าจะดูแลคนป่วยได้อย่างไม่ขัดสน ประกันสุขภาพแบบไหนที่เราควรเลือกให้กับสมาชิกในการดูแล เราจะทำอย่างไรให้แม้จะป่วยแต่ก็ได้รับความสุขสบายพอสมควร

เหล่านี้คือการเตรียมตัวรับมือความเจ็บป่วยในรูปแบบหนึ่ง แต่ก็พึงระวังว่าเรากำลังตกอยู่ภายใต้ความหวาดหวั่นหรือกำลังปฏิเสธผลักไสความเจ็บป่วย บางคนเมื่อรู้ว่าคนรักกำลังป่วยก็เสียขวัญ รู้สึกผิด น้อยใจในโชคชะตาว่าทำไมต้องเป็นเธอ ทำไมต้องเป็นเธอ

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเราอาจมองความเจ็บป่วยเพียงด้านลบหรือด้านร้าย มองเพียงว่าการเจ็บไข้มีแต่ความทุกข์ทรมาน ไม่มีอะไรดีสักอย่าง

หากลองถามผู้ดูแลผู้ป่วยตัวจริง จะพบว่าการดูแลผู้ป่วยไม่ได้มีแต่เรื่องร้ายไปเสียทั้งหมด ในระหว่างการดูแล พวกเขายังคงมีช่วงเวลาที่เป็นสุข สงบ ได้ข้อคิดและการเรียนรู้ ในความเจ็บป่วยยังมีขุมทรัพย์อยู่หลายชิ้นทีเดียว

ขุมทรัพย์ชิ้นที่ 1 ความสุข

แม้ในกระบวนการดูแลผู้ป่วยจะยากลำบาก เหน็ดเหนื่อย ใช้เวลาและพลังงานในการดูแล แต่กระนั้น ความสุขก็มาเยี่ยมเยือนอยู่บ่อยๆ เช่นในยามที่คนป่วยหลับเต็มอิ่ม เจริญอาหาร ยิ้มแย้มแจ่มใส ผ่อนคลายสบายใจ หลายครั้งผู้ดูแลก็พาให้ผู้ป่วยรู้สึกสนุกเพลิดเพลินจนลืมป่วย ยิ่งถ้าสามารถดูแลผู้ป่วยที่เป็นพ่อแม่บุพการีจนท่านรู้สึกขอบคุณเราล่ะก็ ผู้ดูแลจะมีความสุขที่ลึกล้ำยากจะอธิบาย

ในระหว่างการดูแล ช่วงเวลาเหล่านี้อาจเกิดขึ้นไม่นานนัก อาจนับเป็นชั่วโมงหรือนาที แต่การหมั่นสังเกต เก็บเกี่ยวความสุขเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ก็สามารถเติมกำลังใจ เป็นพลังในการดูแลผู้ป่วยในวันต่อๆ ไปได้

ขุมทรัพย์ชิ้นที่ 2 ความสัมพันธ์ที่ดี

หลายครั้ง การดูแลสุขภาพคือรูปธรรมของการรื้อฟื้นถักทอความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น ผู้ดูแลจะได้สัมพันธ์กับผู้ป่วยทางร่างกาย เช่น การจับมือ โอบกอด พยุงตัว อุ้ม เข็นรถเข็น ป้อนข้าว ฯลฯ หากผู้ดูแลทำด้วยจิตเมตตาปรารถนาดี ย่อมทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าตนได้รับการดูแล ได้รับความรักความอบอุ่น ความสัมพันธ์ก็กลับมาดีขึ้น

เมื่อเสาหลักของครอบครัวป่วยลง นั่นคือโอกาสที่สมาชิกคนอื่นได้แสดงศักยภาพเป็นผู้ดูแล เช่น การผลัดเปลี่ยนเวรกันดูแลเฝ้าคนไข้ ให้ยา เตรียมอาหาร ขับรถไปส่งโรงพยาบาล มาเยี่ยมไข้ สนับสนุนทางการเงิน ความร่วมมือร่วมใจจะทำให้ครอบครัวต่างก็ตระหนักว่าทุกๆ คน ต่างก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจะเกิดขึ้นได้ก็คราวนี้

ขุมทรัพย์ชิ้นที่ 3 การฝึกฝนขัดเกลาตัวเอง

การดูแลผู้ป่วยเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมในการฝึกฝนขูดเกลากิเลสของตน ผู้ดูแลจะได้เห็นอารมณ์ที่ขุ่นมัวของตัวเอง ความอยาก ความโกรธ ความหลง ความเหนื่อยหน่าย ท้อแท้ ฯลฯ สิ่งนี้ปรากฏขึ้นมาในจิตใจอย่างเด่นชัด บางครั้งผู้ดูแลอาจพลัดหลงจมหายไปในอารมณ์เหล่านั้น บางครั้งก็เท่าทันและเป็นอิสระจากมันได้ หากผู้ดูแลสามารถฝึกฝนความรู้ตัวทั่วพร้อม รู้เท่าทันอารมณ์ฝ่ายลบ ทำความเข้าใจ และละวางอารมณ์เหล่านั้นได้ ก็นับว่า ได้ผนวกเอาการปฏิบัติภาวนาเข้ากับการดูแลได้อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวและให้อานิสงส์ใหญ่

หากเราทำผิดพลาดก็ไม่เป็นไร ขอเพียงเราได้ทบทวนความผิดพลาดและทำใจแก้ตัวใหม่ ทำเช่นนี้ให้ดีขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า นี่แหละคือหัวใจของการฝึกตนขัดเกลากิเลส

ระหว่างการดูแลผู้ป่วย ผู้ดูแลยังสามารถมีช่วงเวลาที่เป็นสุข สงบ รวมถึงได้ข้อคิดและการเรียนรู้ในแง่มุมต่างๆ

ขุมทรัพย์ที่ 4 สัจธรรม

หากผู้ดูแลเฝ้าพิจารณาผู้ป่วยด้วยใจที่ผ่อนคลาย ย่อมจะได้เห็นความไม่แน่นอนของชีวิต การเสื่อมลงของร่างกาย  เราจะเห็นว่าความเจ็บทรมานมาเยี่ยมเยือนร่างกายอยู่เป็นนิจ เรามีโอกาสเห็นความบีบคั้นที่เกิดขึ้นกับจิตใจหากตั้งวางไว้ไม่ถูกต้อง ผู้ดูแลย่อมประจักษ์ว่าชีวิตไม่ใช่ทั้งของเราและของผู้ป่วย ชีวิตเป็นของธรรมชาติที่จะขอคืนเมื่อถึงเวลาอันควร

สัจธรรมความเจ็บป่วยจะเตือนสติให้ผู้ดูแลวางใจเป็นกลางในสิ่งที่กำลังดำเนินไป ชวนให้เราปล่อยวาง ไว้อาลัยความคาดหวังที่ไม่เป็นจริง ฝึกให้เราต้องรักอย่างไม่มีเงื่อนไข ทำดีให้โดยไม่หวังผลตอบแทน เพราะหากเราแข็งขืนต่อธรรมชาติของความเจ็บป่วย ก็ย่อมจะถูกความคาดหวังและความยึดอยากเล่นงานในทุกครั้งไป

ขุมทรัพย์ที่ 5 ความหมายของชีวิต

แม้ในการดูแลผู้ป่วยจะเป็นกิจกรรมที่เหน็ดเหนื่อย สะเทือนใจ อาจจะทุกข์มากกว่าสุข แต่นั่นคือรสชาติและความหมายของชีวิต การดูแลคนรักคือการดูแลความรู้สึกของตนเองไปพร้อมกัน การได้สอดประสานความรักในขณะการดูแลคนใกล้ชิดหรือผู้มีพระคุณย่อมมีความหมายลึกซึ้ง การดูแลคือการทำหน้าที่ของคนคนหนึ่งอย่างถึงที่สุด ชีวิตจะบริบูรณ์ได้ก็ด้วยการเดินทางร่วมกับเขาเหล่านั้นไปจนสุดทาง

ขุมทรัพย์เหล่านี้มิได้ฝังลึกที่ก้นหลุม หากแต่มีอยู่ตามเบี้ยใบ้รายทาง บางคนอาจมองไม่เห็นขุมทรัพย์เหล่านี้เพราะเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลจนเกินไป หรือระบบสุขภาพไม่เอื้อต่อผู้ดูแล คนรอบข้างควรเห็นใจ และสนับสนุนผู้ดูแลเหล่านั้นมิให้ต้องแบกภาระจนเกินรับมือไหว ผู้ดูแลสมควรได้รับการช่วยเหลือ ให้เขามีเวลาส่วนตัวได้ทำในสิ่งที่ปรารถนาบ้าง การดูแลผู้ดูแลคือการดูแลคนป่วยในทางหนึ่ง

ผมเชื่อว่าเมื่อผู้ดูแลผ่อนคลาย ทำใจยอมรับในหน้าที่แห่งการดูแลของตนเอง มีจิตใจที่เบิกบาน ก็จะสามารถเปิดรับขุมทรัพย์จากคนป่วยเหล่านี้ได้ไม่ยากเลย


ภาพประกอบ

เอกภพ สิทธิวรรณธนะ

ผู้เขียน: เอกภพ สิทธิวรรณธนะ

Backstage writer, Urban sketcher