ใกล้ปีใหม่ใครๆ ก็อยากได้พร ยิ่งเป็นพรจากผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ก็ยิ่งดี และที่นิยมทำกันอย่างแพร่หลายก็คือไปขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือผู้ที่มีฤทธิ์ดลบันดาลได้ วัดที่มีพระบรมสารีริกธาตุหรือศาลชื่อดังทั้งหลายจึงเนืองแน่นไปด้วยผู้คนในยามนี้
ลองคิดเล่นๆ ดูไหมว่าหากเทวดามาปรากฏต่อหน้าและสามารถประสาทพรให้เราได้ ๔ ประการ เราจะขอพรอะไรจากเทวดา?
ทั้งๆ ที่ขอพรมาตลอดชีวิต แต่หากเจอเหตุการณ์แบบนี้ หลายคนคงต้องใช้เวลาคิดมาก เพราะพรที่อยากจะขอนั้นมีมากมายและล้วนสำคัญ จนยากที่จะตัดให้เหลือเพียง ๔ ข้อได้
เรื่องเช่นนี้เคยปรากฏเป็นเรื่องเล่าหรือชาดกในพระไตรปิฎก สมัยหนึ่งพระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นพราหมณ์ และออกบวชเป็นฤาษี ถือสันโดษ ท้าวสักกะหรือพระอินทร์ได้เสด็จมาหาและประกาศว่าจะให้พร ๔ ประการตามที่ฤาษีปรารถนา ปรากฏว่าพร ๔ ประการที่ฤาษีขอก็คือ ขออย่ามีความโกรธ อย่ามีโทสะ อย่ามีความโลภ และอย่ามีความใคร่เสน่หา
น้อยคนที่จะขอพรแบบนี้ ส่วนใหญ่มักขอให้มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ หรือยิ่งกว่านั้นก็คือ “รอดตาย หายป่วย ร่ำรวย มีชื่อเสียง” ซึ่งเป็นยอดปรารถนาของคนสมัยใหม่จนบางสำนักเอามาเป็นจุดขายเพื่อดึงคนมา “ทำบุญ” กับตนเอง
แต่อายุ วรรณะ สุขะ พละ สมควรเป็นสุดยอดปรารถนาของเราแล้วหรือ? มีอายุยืน ใช่ว่าจะไม่มีความเศร้าโศก มีผิวพรรณผ่องใส ใช่ว่าจะไม่มีความเร่าร้อนใจ มีสุขภาพดี ก็ยังหนีความผิดหวังคับข้องใจไม่พ้น และถึงจะมีกำลังวังชา ก็ยังต้องพบกับความพลัดพรากสูญเสียอยู่ดี ส่วนคนรวยและมีชื่อเสียง ก็ปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ว่าฆ่าตัวตายเพราะสารพันปัญหา
เมื่อกลางปีนี้มีพ่อค้าเร่คนหนึ่งถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ ๑ ได้เงินถึง ๒๐ ล้านบาท ทันทีที่ข่าวแพร่สะพัดก็มีญาติพี่น้องมารุมขอเงิน เขาก็แบ่งให้ไปทุกคน มากบ้างน้อยบ้าง แต่มีหลายคนแทนที่จะดีใจกลับไม่พอใจ หาว่าให้น้อย บางคนถึงกับโทรศัพท์มาขู่ฆ่าทั้งตัวเขาและภรรยา เขากลุ้มอกกลุ้มใจมากจนกินยาฆ่าตัวตาย เดชะบุญที่ลูกสาวมาช่วยไว้ทัน เขาเปิดเผยในภายหลังว่า ตอนที่ยังหาเช้ากินค่ำอยู่นั้น มีความสุขกว่าทุกวันนี้เป็นไหนๆ
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวว่าชาวอเมริกันคนหนึ่งถูกล็อตเตอรี่ได้เงินรางวัลจำนวนมหาศาล คือกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาทเมื่อ ๒ ปีที่แล้ว แต่มาถึงวันนี้ภรรยาของเขาบอกว่า อยากย้อนกลับไปฉีกล็อตตอรี่ใบนั้นทิ้งเสีย เธอเล่าว่าหลังจากได้เงินมา สามีเอาแต่เที่ยวเตร่ กินเหล้าเมาหัวราน้ำ จนเป็นโรคสุราเรื้อรัง ต้องไปรับการบำบัดรักษา ขณะเดียวกันก็อยู่บ้านไม่เป็นสุข เพราะมีโจรขึ้นบ้านไม่หยุดหย่อน
ถ้าจะขอพร จะไม่ดีกว่าหรือหากเราขอให้ไม่มีความทุกข์ ไม่มีความเร่าร้อนคับข้องใจ และหากจะประสบกับความพลัดพรากสูญเสีย ก็ขออย่าได้เศร้าโศกเสียใจ จะทำเช่นนั้นได้ก็ต้องไม่มีความโลภ ความโกรธ และความหลงในใจ พรนั้นแปลว่าสิ่งประเสริฐ อะไรเล่าจะประเสริฐสูงสุดเท่ากับใจที่ไม่มีความโลภ ความโกรธ ความหลง (หรือถึงมีก็ “ไม่เอา” ดังที่หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ผู้เป็นศิษย์คนสำคัญของพระอาจารย์มั่นได้เคยตอบเมื่อมีคนถามว่า ท่านมีความโกรธหรือไม่)
ด้วยเหตุนี้จึงอย่าได้แปลกใจที่ฤาษีไม่ได้ขออะไรจากพระอินทร์มากไปกว่า อย่ามีความโกรธ อย่ามีโทสะ อย่ามีโลภะ และอย่ามีความใคร่เสน่หา ถ้าไม่มีกิเลสดังกล่าวแล้ว ความทุกข์ใจจะเกิดขึ้นได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งความเป็นจริง พรดังกล่าวอย่าว่าแต่พระอินทร์เลย แม้กระทั่งพระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถจะให้แก่เราได้ มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องสร้างขึ้นมาเอง ทั้งนี้ด้วยการบ่มเพาะสติ ปัญญา และเมตตาให้เกิดขึ้นในใจตน
สติ ปัญญา และเมตตา ช่วยให้เราสามารถรักษาใจเป็นปกติได้แม้เผชิญกับความผันผวนปรวนแปรของโลกและชีวิต แม้ประสบกับความพลัดพรากสูญเสีย ตลอดจนความแก่ เจ็บ และตาย แต่ก็ไม่ทุกข์ระทมเพราะตระหนักดีว่านี้เป็นธรรมดาของชีวิต แม้จะถูกเบียดเบียนทำร้าย แต่ก็ไม่ถูกความพยาบาทแผดเผา ซ้ำสามารถให้อภัยและเปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตรได้ด้วยเมตตาธรรม
มีคนจำนวนไม่น้อยที่แม้จะล้มป่วย แต่จิตใจแจ่มใสและเป็นสุขยิ่งกว่าผู้คนที่มาเยี่ยมเยียน คนพิการบางคนทั้งๆ ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ แต่ก็สามารถเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้แก่ผู้คนเป็นอันมาก ทั้งนี้ก็เพราะเขามีพรหรือสิ่งประเสริฐอยู่ภายใน ได้แก่ สติ ปัญญา และเมตตา
ถ้าจะขอพร จะไม่ดีกว่าหรือหากเราขอให้ไม่มีความทุกข์ ไม่มีความเร่าร้อนคับข้องใจ และหากจะประสบกับความพลัดพรากสูญเสีย ก็ขออย่าได้เศร้าโศกเสียใจ
มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ เพียงใด ในที่สุดก็ต้องแก่ เจ็บ และตาย พร ๔ ประการดังกล่าวหาความยั่งยืนไม่ได้เลย แม้แต่มหาบุรุษอย่างพระพุทธเจ้าก็ยังอาพาธและเสด็จดับขันธ์ไปในที่สุด แต่สติ ปัญญา เมตตาและคุณธรรมต่างๆ ภายในใจนั้นสามารถรักษาให้ยั่งยืนและงอกงามได้ แม้กายจะเสื่อมทรุดและทรัพย์สมบัติจะเสื่อมถอยไปก็ตาม โลกภายนอกนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมให้เป็นไปตามใจปรารถนาได้ แม้จะใช้เงินซื้อประกันความเสี่ยงเพียงใด ก็ไม่มีอะไรที่เป็นหลักประกันได้อย่างแท้จริง แต่ตราบใดที่เรามีสติกำกับใจไม่ให้หลงลืม มีปัญญาคือความรู้ความเข้าใจในความเป็นจริงของชีวิต และมีใจที่แผ่กว้างด้วยเมตตาแล้วไซร้ ความผันผวนปรวนแปรของโลกและชีวิตก็กระทบได้แต่กาย แต่ไปไม่ถึงใจ ยิ่งสามารถละวางความสำคัญมั่นหมายในตัวตน ไม่ปรุงแต่ง “ตัวกู ของกู” ให้เกิดขึ้น ก็ไม่มี “ตัวกู” เป็นผู้รับทุกข์ หรือไปรับความทุกข์มาเป็น “ของกู” จิตย่อมมีแต่ความโปร่งโล่ง อิสระ เบาสบาย และสงบเย็น
ชีวิตที่โปร่งโล่ง อิสระ เบาสบาย และสงบเย็น คือยอดปรารถนาของทุกผู้คน นี้คือพรที่ประเสริฐเหนืออื่นใด พรเช่นนี้มีแต่เราเท่านั้นที่จะทำให้บังเกิดแก่ตนเองได้ เป็นพรที่เกิดจากความเพียรพยายามของเราสถานเดียว ด้วยเหตุนี้เมื่อพระอินทร์เสด็จมาประทานพรแก่อกิตติดาบสในชาดกอีกเรื่องหนึ่ง อกิตติดาบสกลับขอให้พระอินทร์อย่าเสด็จมาหาอีกเลย เพราะดาบสเกรงว่าการได้พบพระอินทร์จะทำให้ตัวท่านเองประมาทในการบำเพ็ญเพียร เนื่องจากจะคอยหวังพึ่งอำนาจดลบันดาลของพระอินทร์อย่างเดียว
ปีใหม่นี้ขอพรอะไรก็แล้วแต่ อย่าลืมขอและมอบพรที่ประเสริฐสุดให้แก่ตนเอง นั่นคือสติ ปัญญา และเมตตาเพื่อชีวิตที่อิสระ เบาสบาย และสงบเย็นอย่างแท้จริง