การทำบุญที่ได้รับความนิยมมากอย่างหนึ่งของผู้คนทุกวันนี้คือ การนำพระพุทธรูปไปถวายเป็นสังฆทานตามวัดต่างๆ โดยรูปแบบของพระพุทธปฏิมาที่นำไปถวายก็แตกต่างกันไปบ้างตามกำลังทรัพย์ กำลังศรัทธา หรือตามคำแนะนำที่ผู้รู้บอกมา
ตามประเพณีโบราณนั้นการสร้างพระถือว่าเป็นเรื่องมงคลอย่างยิ่ง เพราะได้สร้างสิ่งที่สูงค่าให้ผู้คนได้เคารพกราบไหว้ ได้ช่วยเตือนจิตใจผู้คนให้ทำดี อยู่ในบุญกุศล รวมทั้งเป็นเครื่องปกปักคุ้มครองป้องกันภัยให้กับผู้ที่เดือดร้อนด้วยเรื่องราวต่างๆ แถมยังคงทนอยู่ได้นับสิบนับร้อยปี
ในอดีตนั้นพระพุทธรูปบูชายังมีไม่มาก การสร้างพระพุทธรูปก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะต้องใช้ทรัพย์มาก ต้องได้ช่างที่มีฝีมือ แถมยังมีพิธีกรรมประกอบอีกมากมายเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ จึงมักต้องอาศัยความร่วมมือของคนจำนวนมาก ใช้เวลาทำนานกว่าจะเสร็จ พระปฏิมานั้นจึงกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนที่ร่วมสร้างร่วมทำกันมาด้วย
เมื่อบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าขึ้น ความต้องการพระพุทธรูปไว้บูชาประจำวัดต่างๆ มีมากขึ้น การขนส่งสะดวกขึ้น จึงมีการหล่อพระจากโรงงานทั้งประเภทสั่งหล่อเป็นการเฉพาะ และแบบที่โรงงานหล่อขึ้นด้วยแบบพิมพ์เดียวกันจำนวนมากไว้รอจำหน่าย ใช้วัสดุที่ราคาถูกลง และมีขนาดย่อมลงจนแทบไม่แตกต่างจากพระเครื่องที่ใช้ห้อยติดตัวก็ยังมี ผลคือทำให้ค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้พระมาบูชานั้นถูกลงมากจนสามารถใช้จ่ายทรัพย์ของตนเพียงคนเดียวก็ทำได้ไม่ยากนัก
ปัจจุบันการสร้างพระพุทธรูปออกจำหน่าย/ให้เช่าถือเป็นการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง จึงมีการแข่งขันกันทั้งในด้านรูปแบบ ราคา การเจาะหากลุ่มลูกค้า สร้างตลาดใหม่ๆ ที่รวมไปถึงการยัดเยียดขายด้วยการจัดรวมเข้าไว้ในถังสังฆทานเรียบร้อยแล้ว โดยที่ผู้ซื้อไม่รู้ หรือไม่สามารถปฏิเสธได้ก็มี
ความนิยมและเชื่อถือในโชคชะตาโหราศาสตร์ของคนยุคนี้ ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตลาดนี้เติบโตขึ้นมาก คำทำนายทายทักให้ไปสร้างพระพุทธปฏิมาถวายวัดเพื่อเสริมบารมี สะเดาะเคราะห์ ต่อโชค รับฤกษ์รับชัย ทำให้พระพุทธรูปหลากแบบหลายราคาได้ถูกระดมนำไปถวายรวมไว้ที่วัด
ทุกวันนี้พระพุทธรูปองค์เล็กองค์น้อยจึงกลายเป็นภาระของแทบทุกวัด โดยเฉพาะวัดในเมืองที่มีคนทำบุญหรือถวายสังฆทานอยู่เนืองๆ หลายวัดเมื่อพระท่านปฏิเสธที่จะรับไว้ ก็ถูกญาติโยมที่ไม่เข้าใจทั้งตำหนิต่อหน้าและนินทาลับหลังว่าพระวัดนั้นวัดนี้ไม่เคารพศรัทธาในพระพุทธองค์ไปก็มี
ปัญหาสำคัญที่เกิดกับวัดคือ ไม่มีที่ที่เหมาะสมเพียงพอที่จะเก็บพระจำนวนมากที่ญาติโยมนำมาถวาย จะแจกต่อไปก็ไม่ค่อยมีใครอยากรับ แถมหากผู้ที่ถวายไว้รู้เข้าก็จะขัดเคืองใจไม่ยินดีอีก โดยเฉพาะพระพุทธรูปบูชาที่ทำด้วยวัสดุที่แตกหักง่าย มีพุทธลักษณะที่ไม่งดงาม หรือถูกทำขึ้นมาอย่างลวกๆ ใส่มาในถังสังฆทานพอเป็นพิธี
ผู้ได้ผลประโยชน์แท้จริงจากการกระทำที่เราคิดกันไปเองว่าเป็นบุญใหญ่นี้ คือ ผู้ผลิตและผู้ขายสินค้าเหล่านี้เท่านั้น หรืออาจมีผลดีบ้างต่อหมอดูผู้วิเศษทั้งหลายที่ทำให้ตนดูเหมือนว่าช่วยดึงคนให้ได้เข้าวัดทำบุญ
แต่กิริยาแห่งการถวายพระพุทธปฏิมาเป็นทานนี้ ดูเหมือนจะไม่มีช่องให้บุญกุศลเกิดขึ้นมากนัก เพราะผู้รับก็ไม่ได้ยินดีที่จะรับเนื่องจากมีพระพุทธรูปอยู่มากมายแล้วในวัด ผู้ให้ก็ทำเพียงสักแต่ว่าได้นำพระไปถวายให้จบๆ ไปตามคำทำนายทายทัก องค์พระปฏิมานั้นเองก็ไม่ได้สำเร็จพระโยชน์โดยตัวเองที่จะทำให้ผู้พบเห็นมีจิตใจอิ่มเอิบศรัทธา ซ้ำร้ายยังอาจทำให้ผู้พบเห็นมีจิตใจเศร้าหมองเพราะมีลักษณะมิได้งดงามเอาเลย ไม่มีความประณีตในการสร้างอยู่ในสภาพถูกทิ้งร้าง ฝุ่นจับ แตกหัก หรือวางอยู่ในพื้นที่ไม่เหมาะสมแม้กระทั่งในกองขยะ
ทุกวันนี้พระพุทธรูปองค์เล็กองค์น้อยได้กลายเป็นภาระของแทบทุกวัด ขณะที่ผู้ได้รับประโยชน์แท้จริงคือ ผู้ผลิตและผู้ขายสินค้าเหล่านี้
พระพุทธรูปถือเป็น อุทเทสิกเจดีย์ หรือเป็นสิ่งเตือนจิตใจให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าอย่างหนึ่ง แต่คติการสร้างพระพุทธรูปนั้นก็เกิดขึ้นหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วกว่า ๕๐๐ ปี สาเหตุที่เวลาล่วงเลยมานานนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการรอความสามารถทางศิลปะในการสร้างรูปเหมือนที่งดงามขึ้นมา
แต่อีกเหตุผลสำคัญที่ซ่อนอยู่ก่อนหน้านั้นคือ เรามีความเคารพต่อพระพุทธองค์มากจนไม่กล้าที่สร้างรูปเหมือนของพระองค์ขึ้นมา เพราะตระหนักดีว่าไม่ว่าจะทำอย่างไรก็คงไม่สามารถทำให้งดงามเหมือนพระพุทธองค์จริงๆ ได้ คล้ายกับที่ชาวพุทธบ้านเรายังยอมรับไม่ได้ที่จะให้ดาราคนใดมารับบทแสดงเป็นพระพุทธเจ้า พุทธศิลป์ในยุคแรกๆ จึงนำเสนอภาพพระพุทธองค์ด้วยสัญลักษณ์ เช่น พระแท่นเปล่าที่ใต้ต้นโพธิ์แสดงถึงการตรัสรู้ กงล้อธรรมจักรแทนการประกาศธรรมของพระองค์ เป็นต้น
การยินยอมให้สร้างพระพุทธรูปขึ้นมา ในมุมหนึ่งจึงถือได้ว่าเป็นความเสี่อมถอยลงในศรัทธาของพุทธบริษัท จนเรายอมรับการสร้างรูปพระพุทธเจ้าในลักษณะที่เห็นนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสร้างขึ้นอย่างไม่เหมาะสม ไม่ประณีต รวมทั้งสร้างขึ้นมาขายเอากำไรเช่นปัจจุบันนี้
การสร้างพระพุทธรูปให้คนได้กราบไหว้บูชาไม่ใช่เรื่องเสียหายไปเสียทั้งหมด หากทำขึ้นด้วยความศรัทธาที่กอปรไปด้วยปัญญา เช่น สร้างขึ้นไว้ในที่ที่ยังขาดแคลน ต้องการใช้เป็นศูนย์รวมเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจ และสร้างให้งดงาม คงคน เห็นแล้วอิ่มเอิบชุ่มเย็นใจ หนุนนำให้หันมาศึกษาปฏิบัติธรรม ก็เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์น่าอนุโมทนา
แต่ถ้าทำถวายไว้เพียงเพราะหมอดูทัก คนรักแนะนำ หรือเพราะอยากได้บุญมากๆ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่ตามมา ก็ดูเหมือนจะเป็นการลบหลู่ทำลายพระศาสนาลงเสียมากกว่า และยังสะท้อนให้เห็นถึงความห่างไกลจากหลักธรรมอันแท้จริงของคนทำไปพร้อมๆ กันด้วย
คงเป็นเรื่องยากที่จะไปบอกหมอดูผู้วิเศษทั้งหลายให้เลิกแนะนำแบบนี้ แต่เราชาวพุทธโดยเฉพาะผู้ที่สนใจศึกษาปฏิบัติมาบ้างก็มีสิทธิที่จะไม่เชื่อ ไม่ทำตามคำแนะนำที่ไม่เหมาะสมนั้น หากจิตใจยังหวั่นไหวตามคำทำนาย กลัวสิ่งร้ายๆ จะเกิดขึ้นก็ควรคิดทำสิ่งที่ดี สอดคล้องกับหลักธรรมคำสอน
แทนที่จะไปเช่าพระที่ร้านสังฆภัณฑ์ไปถวายให้เป็นภาระของวัด เราก็หันมาสร้างพระด้วยตนเอง แล้วก็สร้างขึ้นไว้ในตัวของเราเองแทน
เช่น เขาแนะนำให้สร้างพระปางประทานพร เราก็ตั้งจิตอธิษฐานว่าจะพัฒนาตัวเองให้กล่าวแต่ “พร” คือพูดแต่คำจริง ในสิ่งที่มีประโยชน์ เสนาะหู เป็นมงคล จะไม่กล่าวหยาบ กล่าวร้าย ฯลฯ หากเขาแนะนำให้ถวายปางมารวิชัย เราก็อธิษฐานว่าจะ “เอาชนะมาร” คือ กิเลสที่เรายังติดข้องอยู่ เช่น จะลดเวลาออนไลน์ลงบ้าง จะดื่ม จะเล่นหวยให้น้อยลง ฯลฯ หรือถ้าให้ถวายปางสมาธิ เราก็จะเพิ่มเวลาให้กับการสวดมนต์ นั่งสมาธิ หรืออ่านหนังสือฟังธรรมให้มากขึ้น เป็นต้น
การสร้างพระแบบนี้ หากเป็นมือใหม่แค่ตั้งใจทำจริงสักวันหนึ่งกับคืนหนึ่งก็ได้บุญมหาศาลแล้ว ถ้าเข้มแข็งขึ้นกว่านั้นก็อาจจะทำสัก ๓ วัน ๗ วัน หรือหากทำได้ตลอดไปก็ยิ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง
หากทำได้ นอกจากเราจะไม่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาระให้กับวัด ไม่ไปสนับสนุนให้มีการสร้างพระแบบไม่รับผิดชอบออกมาขายเอากำไร และไม่หลงใหลในบุญในโชคชะตาแล้ว เรายังได้ทำการบูชาที่ยอดเยี่ยม ที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ เป็นการปฏิบัติบูชา เป็นธรรมบูชา เป็นธรรมานุธรรมปฏิบัติ ที่เหนือว่าอามิสบูชาทั้งหลายด้วย