ใคร ธรรม

นาม ไร้นาม 14 มกราคม 2018

ดูเหมือนผลพวงของระบบการศึกษาอันล้าหลัง และไร้ประสิทธิภาพของเรา จะส่งผลสู่สังคมอย่างกว้างขวาง ว่ากันตั้งแต่ ระบบการใช้ชีวิตของคนทั่วไป ระบบศีลธรรมวัฒนธรรม ต่อไปถึงศาสนธรรมทั้งหมดที่ว่านั้นก็คือ การท่องจำ

เมื่อการศึกษาของเราให้ความสำคัญกับการท่อง จำ ความสำเร็จของชีวิตเราจึงเป็นการจำ  สิ่งที่เห็นทั่วไปในสังคมก็คือ เราพูดถึงความดีกันในระดับความทรงจำเท่านั้น แล้วก็พร่ำสอนกันไปตามที่เราท่องมา  พ่อแม่สอนลูก ด้วยถ้อยคำที่ตัวเองจำมา ครูสอนนักเรียนในสิ่งที่ตัวเองท่องมา หรือเปิดหนังสือสอนกัน  สังคมจึงเต็มไปด้วยผู้รู้ อันหมายถึงผู้ที่มีความจำได้ว่า อะไรเรียกว่าความดี อะไรเรียกว่าความเลว อะไรคือความสำเร็จ อะไรคือความล้มเหลว ไม่แปลกที่สังคมจะยกย่องคนเรียนเก่ง ยกย่องคนเรียนสูงว่าเป็นคนดี เป็นคนเก่ง

ได้ยินการสนทนา ในวงสนทนาของครู นักเรียน และช่างภาพครั้งหนึ่ง  เรื่องก็คือ มีโครงการให้เด็กส่งหนังสั้นประกวด ครูพานักเรียนมาขอคำแนะนำ ซึ่งอันที่จริงแล้วมาขอความช่วยเหลือขอให้เป็นที่ปรึกษา และอันที่จริงที่ลึกมากกว่านั้นคือ มาขอให้ช่างภาพไปถ่ายทำให้นักเรียน  ขณะที่โรงเรียนให้ท่องจำคำว่าซื่อสัตย์ คุณธรรม หรือคำอะไรที่สวยงามเพียงใด แต่ครูก็พานักเรียนทำกิจกรรมการศึกษาด้วยการโกง โดยอ้างว่า โรงเรียนอื่นจ้างมืออาชีพมาทำด้วยซ้ำ อย่างนี้มันจะมีความหมายอันใดเล่า

นั่นจึงเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธว่า ขณะที่เราสอนและเรียนด้วยการท่องจำ เราจึงมีแต่ข้อความ ถ้อยคำ แต่การกระทำไม่เกิด  ว่าอย่างนี้ก็อาจจะดูอคติเกินไปหรือเปล่า ก็เป็นได้  ความจริงก็ยังมีคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง เรียนรู้แก้ไขจากถ้อยคำเหล่านั้นได้บ้างกระมัง

ถ้าทุกคนทำได้ นั่นก็คงไม่ใช่ปัญหา แต่ชีวิตประสบปัญหา เพราะเรามีแต่เรื่องที่เรารู้ แต่เราไม่ได้กระทำมัน  เรารู้ว่าเห็นแก่ตัวไม่ดี แต่เราก็มักคิดถึงประโยชน์ตนมากกว่าการแบ่งปัน  เรารู้ว่าการโกงเป็นเรื่องเลวร้าย และเรามักโกรธ เกลียดชัง หรือเศร้าเสียใจกับการโกงของคนอื่น แต่เมื่อเป็นเรื่องของเรา เราก็มักไม่เลือกวิธีที่จะทำให้เราได้ ทำให้เราชนะ  และเราก็มีความสามารถเสมอที่จะหาเหตุผล มาอธิบายการกระทำของเรา จนมีความชอบธรรม อย่างน้อยก็ชอบธรรมในสายตาของเราเอง

ในด้านศาสนธรรม เราก็ได้ยินได้ฟังคำสอนมากมาย จากผู้รู้ ในความหมายนี้ก็คือ คนที่เรียนทฤษฎีมา พระ ครู หรือผู้นำทางศาสนาต่างๆ  ว่าในแง่ทางพุทธศาสนาเองมีหลักธรรม หัวข้อธรรมมากมายที่นำมาสอนกัน คนสอนก็ท่องมา คนเรียนก็ท่องต่อ แล้วก็สอนต่อกันไป ด้วยเทคนิคเดียวกัน คือการท่อง การจำ

ดังนั้น เราจึงเห็นคนรู้ธรรมมากมายในชีวิต แต่เราก็ยังเห็นไปพร้อมกันว่า คนผู้รู้ธรรมทั้งหลายนั้น ต่างก็มีชีวิตอย่างทุกข์ระทม ผู้รู้ธรรมทั้งหลายต่างงัดเอาความรู้ในความทรงจำของตนออกมาประกาศ เทศนา สั่งสอน ตำหนิติเตียน  หลายครั้งก็อาจดูดี ดูเหมือนมีประโยชน์ แต่ความจริงที่เกิดขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้คือ มันแทบไม่ส่งผลอะไรต่อคนฟังเลย ยิ่งไปกว่านั้น คือมันไม่ส่งผลอันใดต่อผู้สอนเองด้วยเลย

เราพูดถึงความดีกันในระดับความทรงจำ แล้วก็พร่ำสอนกันไปตามที่เราท่องมา

หากว่าในแง่การศึกษา มนุษย์ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง นำพาตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีกว่า เรื่องนี้ผู้คนจำนวนมากก็เคยแย้งว่า เราดีอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไร  นี่ช่างเป็นความเห็นที่เลวร้าย มนุษย์ต้องเปลี่ยนแปลง ตราบที่เรายังมีความทุกข์ นั่นหมายความว่า ชีวิตยังไม่ได้ดีที่สุด หากชีวิตเรายังวุ่นวาย สับสน นั่นหมายความว่าชีวิตเรายังไม่ดีที่สุด

เมื่อถามต่อว่า จำเป็นหรือไม่ที่ชีวิตเราจะต้องดีขึ้นไปถึงดีที่สุด คำตอบง่ายๆ ก็คือจำเป็น เพราะถ้าไม่พัฒนา ชีวิตก็จะกลายเป็นวงจรที่หมุนวนอย่างไม่รู้จบสิ้น

อะไรที่จะนำพาเราไปสู่การเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่า ความรู้ที่มาจากการท่องจำก็มีค่าอยู่บ้าง ในแง่ที่ทำให้เรารู้ข้อมูล หัวข้อ ที่เราควรใส่ใจ ถือว่ามันก็เป็นพื้นฐานที่ดีที่จะนำมาต่อยอดได้  ดังนั้นความรู้มันจึงเป็นต้นทาง เป็นแผนที่ มันไม่ใช่จุดหมาย เมื่อมีแผนที่แล้ว ก็ออกเดินทาง  การออกเดินทางก็คือ การฝึกฝน ปฏิบัติ ฝืน ระหว่างนั้นก็อาจมีภาวะที่เราต้องอดทน ขัดเกลา ใคร่ครวญ เจ็บปวด ท้อแท้ เบื่อหน่าย

แล้วจะปฏิบัติอะไรเล่า อะไรที่จะเรียกได้ว่าเป็นการปฏิบัติ คำตอบก็คือ ร่างกาย อารมณ์ และความคิดของเรา คือเครื่องมือในการปฏิบัติ เราใช้ร่างกายเป็นตัวเคลื่อนไหว ใช้อารมณ์ เข้าไปรับรู้ ใช้ความคิดเข้าไปใคร่ครวญ นี่ก็จะเป็นการออกเดินทาง ที่ไม่ใช่แบกแต่แผนที่ แล้วก็เชื่อว่า เราได้มาถึงจุดหมายแล้ว

ที่สุดแล้ว ความหมายของการปฏิบัติ ก็คือการฝึกฝนตัวเอง ด้วยรูปแบบที่หลากหลาย แล้วแต่จริตแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน  เหมือนการเดินทาง ที่แต่ละคนก็อาจมีรูปแบบ และหนทางที่ชอบแตกต่างกันไป  แต่มันต้องเป็นทางที่ถูกต้อง เมื่อมันถูกต้องแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ถึง ถ้าเราไม่หยุด เราก็จะถึงในสักวัน

เพื่อที่เราจะเปลี่ยนแปลงโดยแท้ เพื่อที่เราจะไม่ต้องท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง เพื่อที่เราจะได้ออกเดินทางไปสู่ชีวิตที่ดี ทั้งหมดทั้งปวงก็มีอยู่เท่านี้ ก็คือการปฏิบัติ เท่านั้นเอง


ภาพประกอบ