นักปีนเขาที่ไม่เคยหยุดชมวิว

มะลิ ณ อุษา 3 พฤศจิกายน 2013

29,028 ฟุตจากระดับน้ำทะเล คือ จุดที่สูงที่สุดในโลก แน่นอนว่านั่นคือความสูงของยอดเขาเอเวอเรสต์ ที่กั้นพรมแดนระหว่างประเทศเนปาลและทิเบต ที่ซึ่งมีมนต์เสน่ห์ดึงดูดนักปีนเขาจากทั่วทุกสารทิศให้ไปประทับรอยเท้า ด้วยแรงผลักดันที่แตกต่างกันไป บางคนถึงขนาดตั้งเป็นปณิธานในชีวิตก่อนตาย บางคนฝึกฝนร่างกายและทำงานเก็บเงินจนครึ่งค่อนชีวิตเพื่อให้มีโอกาสได้ไปเยือนยอดเขาแห่งนี้สักครั้งหนึ่ง

แต่กระนั้นก็ไม่มีใครคิดที่จะลงหลักปักฐานอยู่ที่นั่น เมื่อดื่มด่ำกับชัยชนะชั่วครู่ยามแล้วก็ค่อยๆ ไต่ลงมาสู่พื้นดินเบื้องล่างด้วยกันทั้งนั้น

นั่นคือ…ที่สูงทางกายภาพ

ยังมีที่สูงอีกมากมายที่มนุษย์เพียรปีนไต่ขึ้นไปให้ถึง ไม่ว่าจะเป็นยอดเขาแห่งความร่ำรวย ชื่อเสียง อำนาจ ยศถาบรรดาศักดิ์ หรือแม้แต่การศึกษา เหล่านี้ล้วนมีปลายยอดที่สูงลิบและตั้งอยู่บนฐานมนุษย์และทรัพยากรธรรมชาติอันกว้างใหญ่ การจะไปให้ถึงต้องเหยียบไปบนบ่าไหล่ของบรรดาฐานรากขึ้นไป การลังเลแม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้นักปีนเขาพลัดตกจากเขาหรือหลงทางได้

และเมื่อขึ้นไปแล้วก็มักจะไม่มีใครกลับลงมาเลย นอกเสียจากจะพลั้งพลาดตกลงมา หรือไม่ก็มีมืออื่นๆ ผลักดันลงมา

นี่คือ…ที่สูงทางโลก

ยังมีที่สูงอีกหนึ่งแห่งที่มนุษย์บางกลุ่มเพียรปีนไต่ไปให้ถึง เป็นยอดเขาที่ไม่อาจนับได้ด้วยระยะความสูงจากระดับน้ำทะเล จำนวนทรัพย์สินในธนาคาร จำนวนบริวาร คำนำหน้าชื่อ หรือจำนวนใบปริญญา แต่ด้วยประสบการณ์ชีวิตในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญวิกฤตการณ์ ยามที่ผ่อนคลาย หรือการได้สนทนา สบสายตา เราสามารถรับรู้ถึงจิตวิญญาณที่อยู่เหนือระดับมิจฉาทิฐิอย่างหยาบได้จากความอ่อนโยน เป็นมิตร ความสมถะเรียบง่าย ความมั่นคงภายใน ความสงบนิ่ง ฯลฯ ในบางขณะ

อย่างไรก็ตาม นักปีนเขาแห่งนี้ก็ยังคงเวียนว่ายอยู่ในวังวนของกิเลสอย่างละเอียด เมื่อถูกกระทบในจุดที่ยังไม่สามารถก้าวข้ามได้ ก็อาจพลัดตกจากที่สูงได้ง่ายๆ เหมือนกัน

นี่คือ…ที่สูงทางจิตวิญญาณ

และ…ยังมีที่สูงอีกแห่งที่ที่มนุษย์บางกลุ่มเพียรปีนไต่ไปให้ถึง เป็นยอดเขาที่ปราศจากยอดเขา เป็นที่สูงที่เมื่อไปถึงแล้วจึงได้ค้นพบยอดเขาที่อยู่เหนือจากยอดเขาทั้งปวง แต่กลับมีความสูงในระดับเดียวกับสิ่งที่ต่ำต้อยที่สุดในแผ่นดิน เราไม่อาจรู้ได้จากภาพลักษณ์ภายนอกหรือแม้แต่จากการสนทนาว่า ใครเดินทางมาถึงจุดใดแล้ว แต่หากเราเปิดใจพิจารณาโดยปราศจากม่านมัวของอคติ ก็จะสัมผัสรับรู้ได้ถึงระดับความสูงที่แท้จริง

นี่คือ…ที่สูงทางธรรม

และแน่นอนว่า จุดที่สูงที่สุดบนเส้นทางสายนี้ คือ การอยู่เหนือวังวนของทุกข์สุขและวัฏสงสาร ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของบทความนี้

เราทุกคน ในฐานะมนุษย์ที่มีเป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ (การไม่มีเป้าหมายก็นับเป็นเป้าหมายอย่างหนึ่ง) เราต่างล้วนมีตำแหน่งแห่งที่ที่กำลังยืนอยู่และที่ปรารถนาจะไปให้ถึงด้วยกันทั้งนั้น

ในวงสนทนาของมวลมิตรเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากห่างหายไปใช้ชีวิตตามเส้นทางของตัวเอง บางคนไม่พบกันนานนับสิบปี เราแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตกันอย่างออกรส เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

บางคนเป็นนักปีนเขาที่มีจุดหมายชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น และมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึง จึงไม่แปลกที่เขาจะเดินทางไปถึงยอดเขาแห่งความสำเร็จในเวลาอันสั้น แต่ที่น่าสนใจคือ เมื่อเขาเดินทางไปถึงจุดหมายที่ตั้งเอาไว้แล้วก็กลับพบว่า ยังมียอดเขาอื่นๆ ที่สูงขึ้นไปอีก โดยเฉพาะยอดที่กลืนหายไปในม่านเมฆ เดาได้ไม่ยากว่า เขาจะต้องเดินต่อไปอีก…อีก…และอีก รางวัลตอบแทนจากที่สูงแต่ละจุดนั้นยั่วยวนให้เขาปีนไต่ขึ้นไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ในวงสนทนาจึงไม่แปลกที่เขาจะเสียงดังและนั่งหลังตรงแทบตลอดเวลา

ต่างจากบางคนที่ดูเหมือนจะมีประสบการณ์ร่วมในทุกหัวข้อสนทนา แต่ไม่นานก็แผ่วลงและเงียบไปในที่สุด เพราะลึกๆ แล้วเขาไม่มีจุดหมาย หรืออาจจะยังค้นหาไม่พบ เวลาแทบทั้งหมดในชีวิตจึงถูกใช้ไปกับความลังเลระหว่างทาง เขาจึงเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์อันกว้างขวางหลากหลาย แต่ไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมจึงไปไม่ถึงไหนสักที

ในฐานะมนุษย์ที่มีเป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ เราต่างล้วนมีตำแหน่งแห่งที่ที่กำลังยืนอยู่ และที่ปรารถนาจะไปให้ถึง

มีเพื่อนคนหนึ่งแบ่งปันแง่มุมชีวิตที่น่าสนใจมาก เธอมีบุคลิกที่สงบนิ่ง ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ มีรอยยิ้มน้อยๆ ระบายที่ใบหน้าแทบตลอดเวลา ในวงสนทนาที่แสนจะวุ่นวาย เธอยังคงอยู่ในลักษณาการเดิม บางครั้งก็อาจจะส่ายหัวน้อยๆ อย่างนึกขำกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า  เมื่อเพื่อนๆ เรียกร้องให้เธอเล่าเรื่องของตัวเอง ทุกคนเงียบกริบด้วยความอยากรู้  ณ ที่แห่งนั้น เธอประกาศอย่างชัดเจนด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มและรื่นหูว่า ความปรารถนาสูงสุดในชีวิตคือการบรรลุธรรม การอยากได้ใคร่มีในทางโลกนั้นเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายและนำมาซึ่งความทุกข์ไม่รู้จักหยุดหย่อน เธอตั้งใจที่จะไม่มีคู่ครองและอุทิศตัวให้การปฏิบัติธรรมอย่างเข้มข้น มีเสียงฮือฮาดังมาจากมุมต่างๆ ของโต๊ะ ใครคนหนึ่งอดใจไม่ได้จึงโพล่งถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้ว่า (ภาษาถูกปรับให้เป็นภาษาเขียน) แล้วเวลาที่มีความกำหนัดตามธรรมชาติ เธอทำอย่างไร เธอตอบด้วยรอยยิ้มเช่นเดิมว่า มันมาแล้วก็ไป

ต่อเมื่อถูกถามถึงระดับขั้นของการปฏิบัติ เธอออกตัวเล็กน้อยก่อนจะอธิบายว่า มันเป็นเรื่องที่พูดให้เข้าใจได้ยาก ความสงบอย่างประหลาดล้ำนั้นเป็นเรื่องที่เราต้องสัมผัสกันเอง เธอพูดด้วยท่าทีแสดงถึงความรู้สึกอันดื่มด่ำลึกซึ้ง คนที่เคยเสียงดังกว่าใครเพื่อน ส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ ในขณะที่ใครบางคนออกอาการหมั่นไส้

เธอยิ้มให้กับพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่คิดว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา แต่ชั่วเวลาเพียงลัดนิ้ว ดวงตาของเธอฉายแววบ่งบอกถึงความสมเพชในความเขลาของเพื่อนผู้ลุ่มหลงอยู่ในวังวนของมายาและอคติ ซึ่งยากที่ใครจะมองเห็น แม้กระทั่งตัวเธอเอง

ในการเดินทางสู่ที่สูง สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ระดับความสูงที่เราไปถึง เพราะบางครั้งเมื่อเราดั้นด้นไปจนถึงแล้วอาจพบว่า นั่นไม่ใช่จุดหมายที่แท้จริงของชีวิต การย้อนกลับหรือเปลี่ยนเส้นทางสำหรับบางคนอาจสายเกินไป มิหนำซ้ำ เรายังอาจละเลยความงดงามของเรื่องราวระหว่างทาง ที่บางครั้งอาจเป็นจุดหมายที่แท้จริงของเราก็ได้ นี่คือโศกนาฏกรรมที่เราได้ยินได้ฟังจนนับไม่ถ้วน ผู้คนที่ประสบความสำเร็จมากมายที่ลงเอยด้วยการล้มป่วย หรือครอบครัวแตกแยก

นอกจากนั้น เรายังอาจเผลอคิดไปว่า เรามาถึงจุดหมายปลายทางตามที่ปรารถนาแล้ว และให้นึกสงสารผู้คนที่โง่เขลาที่ยังตะเกียกตะกายอยู่เบื้องล่าง ทั้งที่แท้จริงแล้ว มันเป็นที่สูงที่เราอุปโลกน์ขึ้นมาเอง ด้วยสายตาที่เพ่งมองแต่ยอดเขาในม่านเมฆ ในขณะที่ฝ่าเท้ายังสัมผัสก้อนหินขรุขระอยู่เชิงเขา

วันนี้ลองถามตัวเองอย่างซื่อตรงดูว่า เราเป็นนักปีนเขาแบบไหน และตอนนี้เราอยู่ตรงจุดไหนบนเส้นทางสายนั้น..

มะลิ ณ อุษา

ผู้เขียน: มะลิ ณ อุษา

คือ...ผู้หญิงธรรมดา รักการเดินทางพอๆ กับการอยู่บ้าน แต่ที่รักมากกว่า คือ การเรียนรู้ชีวิต วันดีคืนดี คุณอาจเห็นเธอนั่งวาดภาพอยู่ข้างถนน อ่านบทกวีอยู่ในกระโจมกลางป่า สอนหนังสือเด็กๆ ในชนบท ปลูกต้นไม้ในสวนเล็กๆ หรือนวดแป้งอยู่หน้าเตาดิน ไม่ต้องแปลกใจ เธอทั้งหมดคือคนๆ เดียวกัน