“มันคงเยี่ยมมากๆ เลย ถ้าน้ำหนักฉันจะลดลงได้สัก ๔ กิโล”
“ทำไมบ้านเรา ไม่เหมือนบ้านเขา”
“ความรักของฉันจะสมหวังมั้ยหนอ”
“ฉันคงตายแน่ๆ ถ้าถูกให้ออกจากงาน”
ฯลฯ
ความสุข ความทุกข์รายล้อมอยู่รอบตัวเรา เราวิ่งหนีทุกข์ โดยคาดหวังว่าสิ่งที่เราเข้าหาน่าจะให้ความสุข ความพอใจ มากกว่าภาวะที่เป็นอยู่ และเมื่อพบว่ามันไม่ได้สุขจริงเท่าไร เราก็วิ่งหาความสุขอันใหม่ ซินเดอเรลลา เป็นเทพนิยายตัวอย่างของของการดิ้นรนจากภาวะคับแค้นไปสู่ความสุขอันใหม่ที่หวานชื่นโรแมนติกตามประสาภาพฝันของหญิงสาวทั่วโลก
นางซินฯ มีฐานะไม่ด้อย แต่เพราะโชคชะตาที่ต้องถูกกดขี่โดยแม่เลี้ยง กับน้องสาวต่างมารดาที่ใช้งานราวกับทาส ขณะที่พ่อแท้ๆ ก็ไม่สามารถปกป้องและคุ้มครองได้ โลกความสุขของเธอ คือการอยู่กับโลกจินตนาการเพ้อฝันเพื่อมีความสุขในแต่ละวัน แล้ววันหนึ่งโอกาสเสี่ยงโชคก็มาถึง โชคที่ว่านี้คือการเข้าร่วมงานเลี้ยงเต้นรำของเจ้าชายเพื่อถูกเลือกเป็นคู่ครองหากว่าเจ้าชายถูกใจ นางซินได้รับการช่วยเหลือจากนางฟ้า ทำให้เธอมีโอกาสเข้าร่วมงานเลี้ยงในชุดแสนสวย โชคดีที่นางซินมีรูปโฉมที่งดงามเป็นทรัพย์สินอันมีค่า เธอถูกเลือกเป็นคู่เต้นของเจ้าชายและโอกาสก็มาถึง เจ้าชายหลงรักเธอ แม้จะมีอุปสรรคขัดขวาง ในที่สุดนางซินก็ได้หลุดพ้นจากสภาพนรกในบ้านมาสู่ชีวิตใหม่กับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ เธอได้รับการเลื่อนขั้นทางสังคม เลื่อนฐานะทางเศรษฐกิจ เลื่อนสถานภาพ ความสุขรอคอยเธอแล้ว
หากตีความเทพนิยายเรื่องนี้กับบริบทสังคมสมัยใหม่ ชีวิตของนางซิน คือชีวิตที่ได้รับความอยุติธรรม เธอสูญเสียแม่ตั้งแต่เยาว์วัย ขาดความรักและความอบอุ่นจากแม่และพ่อที่ห่างเหิน ซ้ำถูกข่มเหงและรังแกจากบุคคลในครอบครัว อยู่ในสภาพบ้านแตก ไม่ได้รับความรักจากแม่เลี้ยงซึ่งเป็นผู้ใหญ่มากกว่า ซ้ำยังถูกรังแกจากน้องสาว ขณะที่พ่อของตนเองก็ให้ความคุ้มครองและความยุติธรรมกับเธอไม่ได้ นางซินถูกใช้ให้ทำงานหนัก แม้การทำงานจะเป็นสิ่งมีคุณค่า แต่เมื่อการทำงานกลับกลายเป็นการกดขี่ไม่ให้เธอมีโอกาสได้รับการศึกษา ไม่ได้รับการพักผ่อน ไม่ได้รับโอกาสทางสังคม การขาดไร้ซึ่งโอกาสเหล่านี้ย่อมเกิดผลกระทบมากมาย ความอยุติธรรม ความทุกข์ที่ทับถมย่อมนำมาซึ่งความเจ็บแค้น
ความโกรธ เศร้า กลัว เจ็บแค้น ไร้สุขในใจ ผลกระทบที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงยากที่จะเหมือนกับตัวละครในเทพนิยายที่ยังคงความน่ารัก แจ่มใส น่าทะนุถนอม ในชีวิตจริงผลกระทบที่เกิดขึ้นมีความเป็นไปได้ คือ ๑) ความเจ็บแค้นกลับกลายเป็นความขมขื่นหมองเศร้า และหากอาการทุกข์รุนแรงมาก ก็อาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าจนถึงการฆ่าตัวตาย ๒) ความเจ็บแค้นนี้อาจเป็นพลังให้นางซินลุกขึ้นตอบโต้ เพื่อแก้แค้นและทวงคืนความยุติธรรมจากคนรอบข้าง เริ่มต้นจากคนใกล้ตัว รวมไปถึงต่อสังคมรอบข้าง ความทุกข์ย่อมขยายผลความทุกข์ไปให้คนอื่น และในอีกกรณีคือ ๓) นางซินมีโอกาสหาทางออกด้วยการหนีออกจากบ้าน เพื่อไปตายเอาดาบหน้า กลายเป็นเด็กเร่ร่อนตามท้องถนน ซึ่งสำหรับเด็กหรือวัยรุ่นหญิงชายที่อยู่ตามท้องถนนทุกวันนี้ วังวนที่มักเกิดขึ้นก็มักเกี่ยวพันยาเสพติด ธุรกิจทางเพศ
เทพนิยายเรื่องนี้จบเรื่องราวความทุกข์ตรมของนางซิน ด้วยการให้เธอได้มีโอกาสเปลี่ยนสภาพแวดล้อมชีวิต ผ่านความสมหวังในการแต่งงานกับเจ้าชายสูงศักดิ์ การแต่งงานของนางซินยังมีความหมายถึงการเลื่อนฐานะ และเปลี่ยนแปลงสถานภาพจากหญิงสาวสามัญ เป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์รวมถึงพระราชินีในอนาคต การเลื่อนขั้นเช่นนี้จึงไม่ต่างจากการถูกรางวัลสลากกินแบ่งสองชั้น ความฝัน ความสำเร็จของนางซินได้กลายเป็นตำนานของหญิงสาวนักล่าฝัน โดยเฉพาะหญิงไทยยากจนหลายคนที่เลือกเส้นทางหลุดพ้นจากความยากจน โดยการเสี่ยงดวงสมรสกับฝรั่งต่างชาติเป็นจำนวนมาก โชคดี โชคร้าย ชะตาชีวิตก็ขึ้นอยู่กับกำมือของสามีและความพร้อมในการปรับตัวในดินแดนที่ต่างบ้าน ต่างเมือง
เราวิ่งหนีทุกข์ โดยคาดหวังว่าสิ่งที่เราเข้าหาน่าจะให้ความพอใจมากกว่าภาวะที่เป็นอยู่ และเมื่อพบว่ามันไม่ได้สุขจริงเท่าไร เราก็วิ่งหาความสุขอันใหม่
ในโลกความเป็นจริง พวกเราหลายคนอาจมีชะตาชีวิต และหรือผลลงเอยไม่แตกต่างจากนางซิน มากหรือน้อยตามแต่กรณีหรือโชคช่วย โชคร้ายที่ส่วนใหญ่ผลลงเอยมักจบลงด้วยความทุกข์เศร้ามากกว่า
ความเจ็บแค้นเป็นเหมือนเมล็ดพันธ์ความทุกข์ในจิตใจ ที่มีศักยภาพเติบโตกลายเป็นความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ พฤติกรรมก้าวร้าว ต่อต้านสังคม ทำร้ายผู้อื่นหรือตนเอง ประกอบอาชญากรรม คือผลสืบเนื่องของความทุกข์ ขณะที่ความสุขที่พอหาได้ ก็เป็นความสุขเพียงชั่วครู่ชั่วยามจากยาเสพติด สุรา หรือเพศสัมพันธ์ กระนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่านางซินอาจเลือกหนทางที่แตกต่าง หลายคนที่ผ่านเรื่องราวและฉากชีวิตที่ถูกข่มเหงรังแก กระนั้นพวกเขาก็สามารถแปรเปลี่ยนพลังความเจ็บแค้นเป็นการทำคุณความดีเพื่อผู้อื่น หลายคนเลือกใช้หนทางของสันติวิธีเพื่อยุติวงจรความเลวร้าย นางซินอาจเลือกหนทางของความอดทน รอคอยโอกาสที่จะพึ่งพาตนเอง เพียงแต่โอกาสนั้นจะมาถึงเมื่อไร หรือไม่มาเลยก็ยากต่อการคาดเดา
สำหรับนางซิน เรื่องราวของเธออาจบ่งบอกถึงชีวิตของผู้คนที่ถูกกระทำ วันหนึ่งเธอกับนางซินอีกหลายๆ คนอาจรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน เพื่อตอบโต้และเรียกร้องสิทธิอันพึงมีที่สูญหายไปบนท้องถนน และสร้างความวุ่นวายกับสังคมโดยรวม สิ่งที่พวกเธอกระทำจึงเป็นเพียงปรากฎการณ์บนยอดภูเขาน้ำแข็ง พวกเราจะทำความเข้าใจพวกเธออย่างไรดี เพราะความสุขขั้นพื้นฐานที่เธอพึงมี เช่น โอกาสทางสังคม การเข้าถึงทรัพยากรที่ช่วยให้พวกเธอพึ่งพาตนเอง การได้รับการยอมรับในเกียรติและศักดิ์ศรีที่พึงมีพึงได้ของเธอ มันสูญหายไป และพวกเธอต้องการได้กลับคืน
คงถึงเวลาที่คนรอบข้างนางซินจะต้องหันมาปรับเปลี่ยนทัศนคติ และแบ่งปัน เพราะเราทุกคนต่างล้วนเป็นอวัยวะที่เชื่อมโยงสัมพันธ์เป็นชีวิตในสังคมเดียวกัน เมื่อแขนซ้ายเมื่อยล้า เจ็บปวด ก็เป็นหน้าที่ของแขนขวาที่จะบีบนวด เยียวยาแขนซ้ายโดยไม่แบ่งแยก คงเป็นเรื่องตลก หากแขนขวาจะแชเชือน ไม่ใส่ใจหรือด่าทอแขนซ้าย
เพราะพวกเราคือสังคมเดียวกัน และมีแต่เมตตาธรรมเท่านั้นที่ค้ำจุนโลก หาใช้ความรุนแรงและป่าเถื่อนที่มักพบเห็นในทุกวันนี้