โครงการ “ก้าวคนละก้าวเพื่อ ๑๑ โรงพยาบาลทั่วประเทศ” คือโครงการวิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา ถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อระดมทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์ร่วม ๗๐๐ ล้านบาท โดยการริเริ่มนำโดย ตูน บอดี้สแลม ซึ่งได้เคยผ่านประสบการณ์การวิ่งระดุมทุน ๔๐๐ กิโลเมตร “ก้าวคนละก้าวเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน” เขาเป็นนักร้อง นักดนตรีที่ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือสังคม การช่วยเหลือสังคมของเขาในคราวนี้ได้ปลุกพลังบางอย่างขึ้นในสังคมไทย
สิ่งที่ตูนทำคือ การใช้โอกาส และสถานภาพความเป็นนักร้องนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จ เพื่อสร้างความสนใจและเชิญชวนให้ผู้คนในสังคมได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมระดมทุนเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาล ผ่านกิจกรรมการวิ่งในฐานะการออกกำลังกายเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ จากประวัติชีวิตของตูนที่เติบโตมาจากครอบครัวชนชั้นกลางในต่างจังหวัด ตูนผ่านการศึกษาด้านนิติศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านงานอาชีพด้านสจ๊วตที่ทำให้ตูนได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆ พร้อมกับความสนใจในเรื่องกีฬาและดนตรี
สิ่งที่เป็นความพิเศษในตูนคือ การอุทิศตัวทั้งกายและใจให้กับการทำในสิ่งที่ตนรัก ชื่อวงดนตรี ‘บอดี้สแลม’ มีที่มาจากวงการนักมวยปล้ำ สื่อความหมายของ ‘การทุ่มทั้งร่างกายไปทั้วตัวเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้’ และการอุทิศตัวก็หมายถึง การเลือกทำสิ่งที่รัก สิ่งที่ใฝ่ฝันให้สำเร็จลุล่วง โดยไม่ได้คำนึงถึงความเหนื่อยยากหรืออุปสรรคที่มาขวางกั้น พร้อมกับท่าทีความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน การให้เกียรติกับผู้อื่น ตูนจึงเป็นที่รักของบรรดาผู้ที่ได้เกี่ยวข้อง รวมถึงแฟนคลับ คำพูดให้สัมภาษณ์ของตูนที่สะท้อนการเรียนรู้ เข้าใจ และยอมรับในความเป็นตนเอง คือ “คนที่เขาไม่ชอบ เขาก็ไม่ชอบเราอยู่ดี พยายามเท่าไรให้เขามาชอบก็ไม่มีประโยชน์” “ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่เรารัก และรักเราดีกว่า” “ดูแลกันและกันให้ดีที่สุด ชีวิตนี้อีกไม่นานก็ต้องตายจากกันแล้ว คิดดีทำดีให้กันเข้าไว้ สนุกจะตายครับ”
นอกจากคุณสมบัติทั้งคุณวุฒิการศึกษาและอุปนิสัยใจคอ องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ตูนสร้างปรากฏการณ์สำคัญคราวนี้ได้ คือ การมีผลงานความสำเร็จในฐานะนักร้องนักดนตรี เขาและเพื่อนได้สร้างวงดนตรีที่มีผลงานเพลงเป็นที่ชื่นชม บทเพลงที่สร้างความหวัง แรงบันดาลใจ บอกเล่าชีวิตและเส้นทางการเรียนรู้ การมีผลงานที่สร้างการยอมรับ เป็นฐานสำคัญในการสร้างกลุ่มผู้ชื่นชอบและติดตามผลงานในฐานะนักร้องในดวงใจ พร้อมกับกิจกรรมช่วยเหลือสังคมที่สร้างความสนใจและพร้อมสนับสนุน ดังนั้นโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ ๑๑ โรงพยาบาล จึงเป็นผลรวมขององค์ประกอบสนับสนุนมากมาย
การอุทิศตัวทั้งกายและใจให้กับงานที่ตนรัก พร้อมท่าทีสุภาพอ่อนน้อมและให้เกียรติผู้อื่น เขาจึงเป็นที่รักของบรรดาผู้ที่ได้เกี่ยวข้อง
เราทุกคนต่างต้องการความสุข ร่างกายต้องการอาหาร จิตใจก็ต้องการความสุขในฐานะอาหารใจที่มาเติมเต็มความสุขภายในใจ โชคร้ายที่คนส่วนใหญ่มักมองเห็นแต่ความสุขภายนอก คือการได้บริโภคครอบครองสิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบ เช่น ข้าวของเงินทอง ลาภยศสรรเสริญ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความสุขภายนอกเช่นนี้ให้ความสุขเพียงชั่วคราว และเพื่อให้ความสุขนี้ยังเข้มข้น เราก็ต้องเสพ ต้องบริโภคให้มากขึ้น รุนแรงขึ้น ความสุขเช่นนี้เร่งเร้าให้เราต้องพึ่งพิงวัตถุภายนอก และมุ่งเน้นความเห็นแก่ตัวให้พอกพูนมากขึ้น
ความสุขใดที่เป็นความสุขแท้จริง จากมุมมอง “สุขแท้ด้วยปัญญา” ซึ่งพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ได้ให้แนวทางการดำเนินชีวิตหรือการทำโครงการเพื่อสังคมใดๆ ก็ตามว่า ความสุขที่แท้ต้องมีองค์ประกอบ ๔ ส่วนที่สำคัญคือ ๑) คิดถึงผู้อื่นมากกว่าตนเอง ๒) ไม่พึ่งพิงความสุขทางวัตถุอย่างเดียว ๓) เชื่อมั่นในความเพียรของตน ไม่หวังลาภลอย คอยโชค ๔) รู้จักคิดอย่างมีเหตุผลและเป็นประโยชน์เกื้อกูล
ตูนผ่านประสบการณ์การบวชในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่า ประสบการณ์การบวชได้สร้างการเรียนรู้เชิงประจักษ์แก่ตูน ในเรื่องการสัมผัสประสบการณ์ความสุขและสงบเย็นในจิตใจ วิถีชีวิตของพระสงฆ์ที่เน้นความสันโดษ ความพอเพียง ช่วยให้เข้าถึงและสัมผัสการเรียนรู้ในจิตใจ เป็นการเรียนรู้อีกด้านของชีวิตที่สังคมบริโภคนิยมไม่อาจให้ได้
ความสุขแท้จริงไม่ได้อยู่ที่การบริโภค ไม่ได้อยู่ที่โชคลาภ ไม่ได้อยู่ที่การคิดสะสมพอกพูนความเห็นแก่ตัว โครงการวิ่งของตูนได้สร้างตัวอย่างกระบวนการเรียนรู้ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจให้แก่สังคม หลายคนสนใจและเอาจริงกับเรื่องการออกกำลังกาย การมีแบบอย่างบุคคลในดวงใจที่สนใจเรื่องการช่วยเหลือสังคม และการใช้เวลาเพื่อกิจกรรมสร้างสรรค์ผ่านดนตรีและกีฬา รวมทั้งการสร้างกระแสพูดคุยถกเถียงทั้งเชิงเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับโครงการของตูน รวมถึงปัญหาระบบสาธารณสุขและบทบาทภาครัฐที่เป็นอยู่และควรเป็น แม้การถกเถียงบางอย่างจะมีทั้งในเชิงสร้างสรรค์และบั่นทอนกำลังใจ แต่การเปิดกว้างก็คือส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้
การวิ่งไปกับตูน จึงไม่ได้หมายถึงการวิ่งไปกับการสนับสนุนกิจกรรมช่วยเหลือสังคม แต่คือ การวิ่งเพื่อเรียนรู้แบบอย่างที่ดี วิ่งเพื่อเรียนรู้พลังของสังคมมากมายที่พร้อมสนับสนุนการเติบโตของสังคม