อาสาสมัครในโรงพยาบาล : คู่มือเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้ให้

เครือข่ายพุทธิกา 19 กรกฎาคม 2025

การเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นอาสาสมัครในระบบโรงพยาบาลประกอบด้วยหลายขั้นตอน ตั้งแต่การทำความเข้าใจบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัคร การสมัครและการเข้ารับการอบรม ไปจนถึงการปฏิบัติงานจริง การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถทำงานอาสาสมัครได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข


คุณสมบัติของอาสาสมัคร

• มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมส่วนรวม

• มีความปรารถนาดี จิตใจที่เอื้อเฟื้อ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น

• มีความอดทนและความเสียสละ

• มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีการสื่อสารที่ดีสามารถปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ ผู้ป่วย และญาติได้ดี

• สุขภาพกายและใจแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อ


ขั้นตอนการเตรียมความพร้อม

1. ทำความเข้าใจบทบาทและหน้าที่

• ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับงานอาสาสมัครในโรงพยาบาลที่คุณสนใจ

• ทำความเข้าใจว่าอาสาสมัครมีหน้าที่อะไรบ้าง มีขอบเขตการทำงานอย่างไร และต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

2. สมัครและเข้ารับการอบรม

• ตรวจสอบคุณสมบัติและข้อกำหนดในการสมัครเป็นอาสาสมัครของโรงพยาบาลแต่ละแห่ง

• สมัครผ่านช่องทางที่โรงพยาบาลกำหนด เช่น ระบบออนไลน์ หรือส่งใบสมัครด้วยตนเอง

• เข้าร่วมการอบรมปฐมนิเทศและฝึกปฏิบัติงานตามที่โรงพยาบาลกำหนด ทั้งนี้ในระหว่างการอบรมควรตั้งใจเรียนรู้และสอบถามข้อสงสัยต่างๆ

3. เตรียมความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจ

• รักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง

• เตรียมความพร้อมด้านจิตใจให้พร้อมที่จะเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ ในโรงพยาบาล

• ทำความเข้าใจว่าการทำงานอาสาสมัครอาจต้องใช้ความอดทนและความเสียสละ

4. ปฏิบัติงานจริง

• ตรงต่อเวลา รับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย

• ปฏิบัติตามข้อกำหนดและข้อบังคับของโรงพยาบาลอย่างเคร่งครัด

• เปิดใจเรียนรู้ และพร้อมรับฟังคำแนะนำ

• ตั้งใจปฏิบัติงานด้วยความเต็มใจและเปี่ยมด้วยความรักความเมตตา เห็นผู้ป่วยเป็นเพื่อน เป็นญาติของเรา

• อาสาสมัครเปิดใจเรียนรู้ ความสุขจากการให้ ผู้ป่วยและญาติได้รับความสะดวกขึ้น แบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลนั้นๆ

• งานอาสาแม้จะเป็นงานแห่งความสุข แต่ก็อาจมีความเหนื่อยล้า สะเทือนใจ หรืออารมณ์ร่วม อาสาควรหมั่นสำรวจกาย-ใจตนเอง พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนอาสา หรือผู้ประสานงานเมื่อรู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจ

• หากพบปัญหาในการทำงานให้ปรึกษาหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

• ใช้เวลาทบทวน ใคร่ครวญตนเอง หลังจบการปฏิบัติงานในแต่ละครั้ง อาจถามตนเองว่า เราได้ทำเพื่อสิ่งที่เราตั้งใจไว้แต่แรกแล้วใช่ไหม มีอะไรประทับใจบ้าง ได้เรียนรู้อะไร มีอะไรที่ครั้งหน้าจะทำให้ดีกว่านี้ หรือแม้กระทั่งข้อเสนอแนะ หรือข้อสังเกตต่างๆ ที่มีต่องานที่ได้ทำมา

5. ข้อควรปฏิบัติสำหรับอาสาสมัคร

• ห้ามถ่ายรูปผู้ป่วยหรือญาติ เพราะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

• ไม่ควรให้สิ่งของหรือเงินแก่ผู้ป่วยหรือญาติ หากต้องการบริจาคควรบริจาคผ่านช่องทางของโรงพยาบาล

• ไม่ควรชักชวนผู้อื่นที่ไม่ได้เป็นอาสาสมัคร หากต้องการให้เพื่อนมาช่วยงาน ควรให้เพื่อนสมัครและผ่านการอบรมก่อน

• หากไม่สบายควรงดปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

• ไม่หวังผลประโยชน์หรือสิ่งตอบแทนจากการทำงานอาสา

• แต่งกายสุภาพ เหมาะสม เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการ


หน่วยงานที่เปิดรับอาสาสมัครในระบบโรงพยาบาล

น้องๆ นักเรียนที่สนใจศึกษาต่อสายวิทย์สุขภาพ และกำลังหากิจกรรมจิตอาสาในโรงพยาบาล เรียนรู้ประสบการณ์จริงในสายงาน อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือสังคม มูลนิธิเครือข่ายพุทธิกาได้รวบรวมโรงพยาบาลที่เปิดรับจิตอาสาพร้อมช่องทางการติดต่อไว้ เป็นทางเลือกให้กับทุกๆ คน

🚩 อาสาอำนวยความสะดวกผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยมูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา

เปิดรับสมัครเป็นประจำทุกเดือน มี 5 โรงพยาบาลให้เลือกสมัคร คือ สถาบันประสาทวิทยา,โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลตากสิน, โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ คุณสมบัติผู้สมัครอายุ 16 -70 ปี ประกาศรับสมัครทุกวันที่ 1-7 ผ่านการตอบคำถามใน google form (พิจารณาจากการตอบคำถาม) เป็นการสมัครล่วงหน้า 1 เดือน ช่องทางการสมัครที่เพจเฟซบุ๊ก พุทธิกา ฉลาดทำบุญด้วยจิตอาสา และเพจ มูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา *ปฏิบัติงาน 4 ครั้งใน 1 เดือนจึงจะได้รับใบรับรอง

🚩 จิตอาสาโรงพยาบาลรามาธิบดี

รับสมัครเฉพาะนักเรียนชั้นม. 4-6 หรือเทียบเท่า โดยเปิดรับสมัครเป็นรอบๆ รอบละ 2-3 เดือน จำนวนอาสาที่เปิดรับค่อนข้างเยอะ คือประมาณ 200-300 คนต่อเดือน แต่เต็มเร็วมาก พื้นที่ปฏิบัติงานอยู่ที่ OPD (ผู้ป่วยนอก) ปฏิบัติงานอย่างน้อย 2-5 วัน เปิดรับสมัครผ่าน google form หรือ QR Code ช่องทางการรับสมัครที่เพจ จิตอาสารามาธิบดี https://www.facebook.com/jitarsarama

📞 สอบถามเพิ่มเติมที่ไลน์จิตอาสารามาธิบดี @126zitks

🚩 จิตอาสาโรงพยาบาลศิริราช

กิจกรรมของศูนย์อาสาสมัครศิริราช ขั้นตอนการสมัครอันดับแรกให้เข้าไปที่เว็บไซต์ศูนย์อาสาสมัครศิริราช เพื่อสมัครสมาชิกก่อน เมื่อสมัครสมาชิกผ่านแล้ว จึงสามารถกดเลือกกิจกรรมที่สนใจตามแผนกต่างๆ งานอาสาของที่นี่แต่ละแผนกจะกำหนดคุณสมบัติอายุไว้ต่างกัน ส่วนใหญ่เริ่มที่ 15 -16 ปี แผนกที่รับ อาทิ อาสาประจำจุดวัดความดันโลหิต อาสาแนะนำ Siriraj Connect Application อาสาสมัครประคองผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย

ศูนย์อาสาสมัครจะประกาศวันเปิดรับอาสาสมัครเลือกวันทำกิจกรรมผ่านเพจเฟซบุ๊ก ศิริราชเพื่อสังคม https://www.facebook.com/CSRSIRIRAJ/

📞 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ งานกิจกรรมเพื่อสังคมโทร. 02 419 9350-1

🚩 จิตอาสาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ศาลายา จ.นครปฐม

เปิดรับผู้สนใจเป็นอาสาอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป โดยเปิดรับสมัครเป็นรอบๆ รอบละ 3 เดือน การรับสมัครคือให้กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มสมัคร ระบบจะส่งอีเมลยืนยันการสมัครมายังอาสา จากนั้นจึงระบุวันเพื่อเข้าปฏิบัติงาน ต้องทำอาสา 3 วันขึ้นไปจึงได้ใบรับรอง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.gj.mahidol.ac.th/main/volunteer/ และเฟซบุ๊กศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

🚩 จิตอาสาวชิรพยาบาล

เปิดรับสมัครอาสาเป็นรอบๆ ส่วนใหญ่จะให้ปฏิบัติงานช่วงปิดเทอม ที่ผ่านมาคือรอบเดือนมีนาคม – เมษายน 2568 ปฏิบัติงานอย่างน้อย 5 วันติดต่อกัน การรับสมัครจะประกาศทางเพจ www.facebook.com/VajiraHospitalOfficial และเว็บไซต์ www.vajira.ac.th/home กรอกข้อมูลทาง google form ระบบจะปิดรับสมัครกรณีมีผู้สมัครครบเต็มจำนวนแล้ว

👉 สำหรับน้องๆ ที่อยู่ต่างจังหวัด หากสนใจเป็นจิตอาสาในโรงพยาบาล ให้ลองติดต่อโรงพยาบาลที่สนใจเพื่อสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขการสมัคร โรงพยาบาลบางแห่งอาจต้องการใบรับรองจากทางโรงเรียน ซึ่งน้องๆ สามารถประสานงานขอความช่วยเหลือจากอาจารย์แนะแนวได้

👉 เพื่อที่จะหาเบอร์ติดต่อโรงพยาบาลประจำจังหวัด 77 จังหวัด คุณสามารถติดต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาลแต่ละแห่ง หรือใช้บริการค้นหาข้อมูลของ Google และพิมพ์ชื่อจังหวัด ตามด้วย “โรงพยาบาล” เพื่อค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง


ขั้นตอนการค้นหาเบอร์ติดต่อโรงพยาบาลประจำจังหวัด

1. ค้นหาผ่าน Google

พิมพ์ชื่อจังหวัดที่คุณต้องการ ตามด้วยคำว่า “โรงพยาบาล” (เช่น “โรงพยาบาลเชียงใหม่”) Google เพื่อค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

2. ตรวจสอบเว็บไซต์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

หลายจังหวัดมีเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลของโรงพยาบาลในจังหวัดนั้นๆ

3. ติดต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

หากไม่พบข้อมูลที่ต้องการ สามารถติดต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดโดยตรง เพื่อสอบถามข้อมูลเบอร์ติดต่อของโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัด

4. ตรวจสอบเว็บไซต์ของโรงพยาบาล

โรงพยาบาลแต่ละแห่งมักจะมีเว็บไซต์ของตนเอง ซึ่งจะมีข้อมูลการติดต่อ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับโรงพยาบาล