จากปีใหม่สู่ต้นธารภายใน

พระไพศาล วิสาโล 5 มกราคม 2003

แม่น้ำทุกสายล้วนกำเนิดจากต้นน้ำในป่าลึก  มวลน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนตามสองฝั่งแม่น้ำล้วนรินไหลจากธารน้ำใสและน้ำซับบนภูสูง  ปราศจากต้นน้ำหย่อมเล็กๆ ที่ซึ่งหยดน้ำพากันผุดพรายขึ้นมาจากแผ่นดิน แม่น้ำสายใหญ่ย่อมตื้นเขินและขาดน้ำหล่อเลี้ยงผู้คน

เมืองใหญ่ขาดแม่น้ำไม่ได้ฉันใด ชีวิตก็ขาดสายธารแห่งความสุขไม่ได้ฉันนั้น  สายธารดังกล่าวจะบำรุงเลี้ยงชีวิตได้อย่างไร หากขาดต้นธารภายในส่วนลึกของจิตใจ

ทุกชีวิตต้องการความสุขหล่อเลี้ยงชีวิต  สุขใดเล่าที่สำคัญต่อชีวิตเท่ากับความสุขทางใจ  ความสุขทางใจมิได้หล่อเลี้ยงด้วยวัตถุและความมั่งคั่ง หากเกิดจากความสงบและความเข้าใจในชีวิต

ปัญญาเห็นธรรมจนเกิดความเข้าใจในชีวิตเป็นเสมือนต้นธารหล่อเลี้ยงจิตใจไม่ให้ทุกข์  ใช่หรือไม่ว่าเราทุกข์เพราะเขลาต่อจิตใจของตัวเอง  เรามักโทษผู้อื่นและสิ่งรอบตัวว่าเป็นตัวการทำให้เราทุกข์ แต่เราลืมมองไปว่า ใจที่วางไว้ผิดของเราต่างหากที่ทำให้ทุกข์  พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า ไม่มีอะไรที่จะทำให้เราทุกข์ได้มากกว่าจิตที่ตั้งไว้ผิด แม้แต่ศัตรูภายนอกก็ไม่ทำให้ทุกข์ได้มากกว่าจิตที่ตั้งไว้ผิด  ถ้าจิตเราตั้งไว้ถูก มีกุศโลบายในการมองด้วยปัญญา คำติเตียนว่ากล่าวของศัตรูก็เป็นเสมือนคำชี้แนะของมิตรหรือครู ที่สอนเราให้เรารู้จักตัวเอง เท่าทันจุดอ่อนของตน อีกทั้งยังทำให้เราเกิดความเข้มแข็งอดทนมากขึ้น  แต่ถ้าเราตั้งใจไว้ผิด แม้กระทั่งคนรักก็ทำให้เราทุกข์ จนไม่อยากมีชีวิตอยู่  จิตที่ตั้งไว้ผิด ทำให้แม่ทุกข์เมื่อลูกไม่เป็นดังใจ รวยเท่าไรก็ไม่เคยเป็นสุขเพราะยังได้ไม่พอ  ความทุกข์ทั้งหลายในชีวิตถ้าสาวให้ถึงที่สุดแล้วก็เกิดจากจิตที่ตั้งไว้ผิด ได้แก่การยึดมั่นสำคัญหมายให้โลกและชีวิตเป็นไปตามใจตน แบกเอาความโกรธเกลียดไว้ไม่รู้จักวาง หาไม่ก็ปล่อยใจให้เตลิดและหยิบฉวยความทุกข์กลับมาใส่ตัว  ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเราไม่รู้เรื่องจิตใจของเราเอง

แต่ถ้าเรามีปัญญาเข้าใจเรื่องของจิตใจ ความเข้าใจนี่แหละที่จะเป็นต้นธารแห่งความสุข ไม่หลงระเริงเมื่อประสบความสำเร็จ ไม่ตื่นเต้นดีใจเมื่อทรัพย์เพิ่มพูน ไม่หลงตัวเมื่อมีอำนาจมากขึ้น  ทั้งนี้เพราะตระหนักดีว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีวันยั่งยืนคงทน และพร้อมจะฉุดใจให้ทุกข์หากไปยึดมั่นให้เป็นไปตามใจหมาย  ในทำนองเดียวกันเมื่อประสบกับอุปสรรค ความพลัดพราก และความล้มเหลว ก็ไม่ทุกข์ระทม เพราะตระหนักว่าสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต  แม้จะพยายามอย่างดีที่สุด ก็ไม่มีวันที่จะควบคุมเหตุปัจจัยทุกอย่างให้เป็นไปตามใจหวังได้  เราไม่อาจควบคุมกระแสลมได้ สิ่งที่เราทำได้คือควบคุมใบเรือเท่านั้น

ความสุขทางใจมิได้หล่อเลี้ยงด้วยวัตถุและความมั่งคั่ง หากเกิดจากความสงบและความเข้าใจในชีวิต

อะไรที่เกิดกับเรา ไม่ทำให้เราทุกข์มากเท่ากับท่าทีหรือมุมมองของเราต่อสิ่งนั้น  เมื่อรู้จักมองให้เป็น โรคภัยไข้เจ็บก็มาเตือนเราให้รู้จักปรับชีวิตให้ถูกต้อง ความเศร้าโศกเสียใจก็เป็นครูที่ตักเตือนเราไม่ให้ยึดติดอยู่กับอดีต  การเข้าใจโลกและชีวิตตามเป็นจริงทำให้ความพลัดพรากสูญเสียไม่อาจบั่นทอนจิตใจให้เป็นทุกข์  ความสุขสงบในจิตใจจึงเกิดขึ้นได้แม้อยู่ท่ามกลางความผันผวนปรวนแปรของชีวิตและโลก

ป่าไม้อันอุดมคือต้นน้ำที่หล่อเลี้ยงสรรพชีวิตฉันใด จิตที่เปี่ยมด้วยความเข้าใจในชีวิตก็คือต้นธารแห่งความสุขฉันนั้น  ปัญญาอันได้แก่ความประจักษ์แจ้งในธรรมชาติของจิต จะกลายเป็นต้นธารที่หล่อเลี้ยงชีวิตจิตใจของเรา  นักเดินป่าที่เหนื่อยอ่อน ถ้ารู้จักต้นน้ำลำธาร ดั้นด้นไปจนพบแหล่งน้ำและได้ดื่มกิน ร่างกายจะกลับกระชุ่มกระชวยขึ้นใหม่ และมีเรี่ยวแรงเดินทางต่อ  ฉันใดก็ฉันนั้น ในการดำเนินชีวิตเราจำต้องรู้จักต้นธารทางจิตใจด้วย  เวลาเหนื่อยจิตทุกข์ใจ จะได้อาศัยต้นธารดังกล่าวฟื้นกำลังให้แก่จิตใจ บังเกิดความสดชื่นแจ่มใส มีแรงบันดาลใจที่จะดำเนินชีวิตและทำความดียิ่งๆ ขึ้นไป

วันนี้เราค้นพบต้นธารภายในแล้วหรือยัง  ปีใหม่มาเยือนคราใด เรามักคิดถึงการท่องเที่ยวทางไกล ปีนี้ไม่ลองเดินทางค้นหาต้นธารภายในใจบ้างเชียวหรือ  ต้นน้ำในป่าลึกนั้นจะพบได้ต่อเมื่อเดินย้อนกระแสน้ำฉันใด ต้นธารภายในเราจะพบได้ก็ด้วยการทวนย้อนกระแสความคิดและนิสัยความเคยชินเดิมๆ ฉันนั้น  แทนที่จะปล่อยใจไปตามอารมณ์ความคิด ล่องลอยไปกับอดีตหรืออนาคต  ลองกำกับจิตให้ทวนกระแสอารมณ์กลับมาสู่ปัจจุบัน สู่งานที่กำลังทำ หรือลมหายใจที่เข้าและออกอยู่ทุกขณะ  ยามเกิดความทุกข์ใจ แทนที่จะปล่อยใจไปกับความทุกข์ ลองมองย้อนทวนไปถึงต้นตอของทุกข์  จากจุดนั้นเองที่เราจะเริ่มรู้จักจิตใจของตัวเองดีขึ้น และค้นพบในที่สุดว่ากุญแจแห่งความไม่ทุกข์นั้นแท้จริงอยู่ในใจเรานี้เอง

พรหรือสิ่งประเสริฐสำหรับปีใหม่อันใดเล่า จะสำคัญเท่ากับการค้นพบต้นธารแห่งความสุขที่มีอยู่แล้วในใจเรา  พรเช่นนี้ไม่มีใครจะมอบให้แก่เราได้ นอกจากเราจะทำให้แก่ตนเอง  ของขวัญต่างๆ เราได้มามากแล้ว อีกทั้งให้แก่ใครต่อใครไม่น้อยแล้วเช่นกัน ไยไม่มอบของขวัญนี้แก่ใจของเราบ้างเพื่อความสุขสวัสดีมิใช่แต่เฉพาะปีใหม่นี้เท่านั้น หากทั้งชีวิตนี้ทีเดียว


ภาพประกอบ

พระไพศาล วิสาโล

ผู้เขียน: พระไพศาล วิสาโล

เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต และประธานมูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา