เปิดเล่ม: จดหมายข่าวพุทธิกา ฉบับที่ 21

พระไพศาล วิสาโล 1 มกราคม 2006

ปี ๒๕๔๘ ผ่านไปโดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างสึนามิ หรือกรณีตากใบ  แต่ผลพวงจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ยังสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน  ในขณะที่ผู้ประสบเคราะห์กรรมจากคลื่นยักษ์เริ่มเข้าที่เข้าทางและฟื้นตัวเป็นลำดับ  แต่ผู้คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับตกอยู่ในความหวั่นหวาดมากขึ้นกว่าเดิม  เพราะความรุนแรงยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบทุกหนแห่ง

มีเหตุการณ์ต่างๆ อีกมากมายในปีที่แล้ว ที่ทำให้ผู้คนไม่มั่นใจนักกับปีใหม่นี้  ไม่ว่าปัญหาเศรษฐกิจจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นไม่หยุด  ปัญหาการเมืองซึ่งกำลังจะผันผวนมากขึ้น  ปัญหาการคอรัปชั่นที่หนักข้อขึ้น  ภัยจากการก่อการร้ายข้ามชาติที่ไม่มีใครคาดเดาได้ รวมไปถึงอันตรายจากไข้หวัดนกซึ่งมีแนวโน้มจะระบาดใหญ่ไม่ช้าก็เร็ว ฯลฯ

แต่ไม่ว่าจะมีการคาดการณ์ไปอย่างไร  ไม่ควรที่เราจะปริวิตกไปล่วงหน้าหรือตีตนไปก่อนไข้  สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ ก็คือ “สติ”  การตั้งสติให้มั่นคงช่วยให้เราไม่หวั่นไหวไปกับอนาคตจนเกินเหตุ  สามารถมองเหตุการณ์ได้ตรงตามความเป็นจริง อีกทั้งยังช่วยให้ปัญญาถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสม

การคาดการณ์เหล่านั้นมองในแง่ดีก็คือช่วยให้เราตั้งอยู่ในความไม่ประมาท  ทำให้ไม่หลงเพลิดเพลินกับความสนุกสนาน  แต่หันมาเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับสิ่งที่จะมาถึง  รวมทั้งป้องกันมิให้เหตุร้ายเกิดขึ้น หรือถึงเกิดขึ้นก็สามารถบรรเทาลงได้

ถึงที่สุดแล้วเค้าลางต่างๆ ในปีที่ผ่านมาคือสัญญาณเตือนให้เราตระหนักถึงสัจธรรมประการหนึ่ง นั่นคือความผันแปรไม่เที่ยงแท้   ความผันผวนปรวนแปรเป็นธรรมดาของชีวิตและโลก  เราจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ท่ามกลางความผันผวนดังกล่าวอย่างไม่เป็นทุกข์   ส่วนหนึ่งด้วยการเตรียมการเพื่อให้ความผันผวนปรวนแปรนั้นส่งผลร้ายกับเราน้อยที่สุด  แต่เท่านั้นยังไม่พอ เรายังจำเป็นต้องเตรียมใจในยามที่ผลร้ายนั้นเกิดขึ้นกับเราอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  เพราะความจริงมีอยู่ว่าไม่ว่าเราจะเตรียมการดีอย่างไรก็ตาม ความเจ็บป่วย ความพลัดพรากสูญเสีย ความล้มเหลว ย่อมเกิดขึ้นได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

สติมีความสำคัญตรงนี้  คือถึงแม้จะประสบกับสิ่งไม่พึงปรารถนา ก็มีสติประคองใจไม่ให้ทุกข์ได้ ทั้งนี้โดยมีปัญญาเป็นเครื่องกำกับอีกชั้นหนึ่ง  เมื่อเราตระหนักอย่างถ่องแท้ว่าความไม่เที่ยงหรือความผันผวนปรวนแปรนั้นเป็นธรรมดาของชีวิต  เมื่อมีขึ้นก็ต้องมีลง  มีได้ก็ต้องมีเสีย  มีสรรเสริญก็ต้องมีนินทา  ถึงตรงนี้เราก็ไม่ทุกข์เมื่อชีวิตตกต่ำ เพราะยามที่ชีวิตขึ้นสูงก็ไม่ได้ลิงโลดลำพองใจ

ไม่ว่าปีใหม่นี้จะดีขึ้นหรือเลวลง หากเตรียมใจโดยมีสติและปัญญาเป็นเครื่องคุ้มภัย ก็แน่ใจได้ว่าเราจะไม่ทุกข์หรือผันแปรไปตามกระแส  นี้แลที่โบราณเรียกว่า “ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้”

บทความที่เกี่ยวข้อง


อ่านจดหมายข่าวพุทธิกาฉบับอื่นๆ ได้ ที่นี่

พระไพศาล วิสาโล

ผู้เขียน: พระไพศาล วิสาโล

เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต และประธานมูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา