สถานการณ์บ้านเมืองเพิ่มความร้อนแรงมากขึ้นพอๆ กับอุณหภูมิของดินฟ้าอากาศ ข่าวการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ทำท่าว่าจะยืดเยื้อทำให้หลายคนไม่สบายใจยิ่งกว่าเดิม ที่แล้วมาปัญหาเศรษฐกิจก็หนักอึ้งอยู่แล้ว ตอนนี้ก็มีปัญหาการเมืองมาซ้ำเติมอีก อย่างไรก็ตามในยามนี้การมัวแต่วิตกกังวลกับปัญหาต่างๆ ที่รายรอบตัวย่อมไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ยิ่งพยายามปฏิเสธผลักไสมันก็ยิ่งทำให้เป็นทุกข์
ไม่ดีกว่าหรือหากเรายอมรับว่านี้คือความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว และจะยังอยู่กับเราไปอีกพักใหญ่ อะไรที่หนีไม่พ้น เราต้องเรียนรู้ที่จะทำใจอยู่กับมัน แต่ไม่ใช่อยู่อย่างยอมจำนน แต่อยู่เพื่อที่จะทำความเข้าใจว่ามันเกิดจากอะไร แล้วจะก่อผลอะไรตามมา จากนั้นก็ใคร่ครวญดูว่าเราจะบรรเทาผลกระทบได้อย่างไร ไม่ว่าผลต่อเรา ต่อแวดวงของเรา และต่อประเทศของเรา
เมื่อใคร่ครวญจนได้คำตอบที่แน่ชัดแล้ว ก็ต้องลงมือทำเพื่อลดผลกระทบนั้น ด้วยการทำปัจจุบัน คือ วันนี้ ชั่วโมง และนาทีนี้ให้ดีที่สุด อย่าให้วันนี้สูญไปเพียงเพราะกังวลกับเรื่องพรุ่งนี้ การทำปัจจุบันให้ดีที่สุด และเห็นผลงานงอกเงยขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จะช่วยทำให้เรามีกำลังใจและความเชื่อมั่นในการรับมือกับวันพรุ่งนี้ แต่ก่อนที่วันพรุ่งนี้จะมาถึง ก็ควรแน่ใจว่าเรามีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ รวมทั้งสามารถปล่อยวางเรื่องต่างๆ เพื่อจะได้นอนหลับสนิทห็นผลงานงอกเงยขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จะช่วยทำให้เรามีกำลังใจและความเชื่อมั่นในการรับมือกับวันพรุ่งนี้ อย่าลืมว่าการพักผ่อนอย่างเต็มที่คือการเตรียมตัวที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการรับมือกับปัญหาในวันพรุ่งนี้
นอกจากใคร่ครวญปัญหาภายนอกแล้ว อย่างหนึ่งที่สำคัญมากคือการมองเข้ามาภายในเพื่อรู้เท่าทันความรู้สึกนึกคิดของตน ถึงที่สุดแล้วจะสุขหรือทุกข์ก็อยู่ที่ใจของเรานั่นเอง สถานการณ์บ้านเมืองหรือปัญหาเศรษฐกิจเป็นตัวรอง หากวางใจให้ถูก ก็ยังสุขได้แม้บ้านเมืองจะวุ่นวาย เศรษฐกิจจะติดลบ
อย่าเอาความสุขของเราไปฝากไว้กับปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สถานการณ์บ้านเมือง หรือสภาพเศรษฐกิจ เอาความสุขฝากไว้กับใจที่เปี่ยมด้วยสติและปัญญาเป็นดีที่สุด หากปรารถนาชีวิตที่ผาสุก ย่อมไม่มีหลักประกันอะไรที่ดีไปกว่าการพึ่งตนเอง
อ่านจดหมายข่าวพุทธิกาฉบับอื่นๆ ได้ ที่นี่