กูเกิ้ลร่วมมือกับ CyArk องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ทำงานอนุรักษ์แหล่งมรดกที่สำคัญในระบบออนไลน์ 3 มิติ โดยโครงการ The Open Heritage ได้โพสต์แบบจำลอง 3 มิติของสถานที่ต่างๆ จาก 18 ประเทศซึ่งรวมทั้งวัดในเมืองพุกามประเทศเมียนมาร์และวัด 3 แห่งในจังหวัดอยุธยา
CyArk เริ่มเก็บข้อมูลพื้นที่มรดกรอบโลกมากกว่า 200 แห่งตั้งแต่ปี 2003 ด้วยการถ่ายภาพดิจิตัล การใช้โดรนถ่ายภาพ และใช้เทคโนโลยีการสแกนภาพ 3 มิติ โดย John Ristevski ซีอีโอของ CyArk กล่าวกับสำนักข่าว NBC Mach ว่า “เราใช้เวลา 15 ปีในการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ เหล่านี้”
ในเวลานี้แบบจำลอง 3 มิติและภาพถ่าย 360 องศา ของแหล่งมรดกจำนวน 26 แห่ง สามารถดูได้จากเวปไวต์โดยใช้ VR Headset (เครื่องสวมหัวมองภาพเสมือนจริง) สถานที่อีกจำนวน 9 แห่งจะถูกนำเข้าระบบในเร็วๆ นี้ และอีกหลายพื้นที่กำลังจะตามมา
CyArk ก่อตั้งโดย Ben Kacyra วิศวกรชาวอิรักที่อาศัยอยู่ในแคลิฟอร์เนีย หลังจากที่เขาเห็นรูปปั้นพระพุทธรูปบามิยัน 2 องค์ที่อายุกว่า 1500 ปี แกะสลักอยู่บนหน้าผาถูกทำลายโดยทหารทาลีบันที่ประเทศอัฟกานิสถานในปี 2001
Kacyra จึงตัดสินใจที่จะสร้างการบันทึกข้อมูลแบบดิจิตัลของแหล่งมรดกโลกในที่ต่างๆ เก็บไว้ หากสถานที่เหล่านั้นอาจต้องพังทลายหรือถูกทำลายลงในอนาคต
สำนักข่าว NBC Mach กล่าวว่า แบบบันทึกดิจิตัลของ CyArk ที่เก็บโดยช่างเทคนิคของเขา ได้ถูกนำมาใช้อ้างอิงในการบูรณะเจดีย์ในพุกาม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในปี 2016 โครงการนี้ได้นำเสนอการเข้าชมวัดหลายแห่งแบบเสมือนจริง รวมถึงวัดบางแห่งที่ไม่ได้เปิดให้ชมทางสาธารณะอีกต่อไป (พุกามเป็นเมืองที่มีเจดีย์ถึง 2000 แห่งที่ถูกทิ้งร้าง นับแต่ชาวเมืองหนีออกจากพื้นที่ในศตวรรษที่ 13)
เยี่ยมชมเว็บไซต์ของโครงการ และเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ในเทคโนโลยีดิจิตัล และชมแหล่งมรดกที่สำคัญผ่านกล้องเสมือนจริงได้ที่ https://artsandculture.google.com/project/cyark
ที่มา : https://www.lionsroar.com/google-digitally-preserves-ancient-buddhist-sites-in-virtual-reality/