การได้อยู่กับธรรมชาติทำให้เรามีความสุขมากขึ้น การถ่ายภาพด้วยการสแกนสมองพบว่า การเดินในธรรมชาติจะลดการทำงานของระบบประสาทบริเวณของสมองที่กระตุ้นการทำงานเกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
อาจเป็นสวนหลังบ้าน สวนสาธารณะ หรือป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ
ปล่อยให้ตัวเองพักผ่อนในท่านี้จริงๆ รับรู้ความรู้สึกทางกายจากการอยู่ในท่านี้ และสังเกตว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้อยู่ที่นี่ “ตรงนี้”
ให้นึกถึงสถานที่ในธรรมชาติที่คุณชอบ อาจเป็นสถานที่ในจินตนาการ ริมทะเล ภูเขา หรือทะเลสาบ ในขณะที่นําความทรงจํามาสู่ใจ ให้สัมผัสถึงความรู้สึกในร่างกาย แค่ปล่อยให้ความทรงจํานี้มีชีวิตชีวาขึ้นมา
ให้สังเกตธรรมชาติรอบตัวผ่านประสาทสัมผัสต่างๆ เช่น เสียงนกร้อง สีสันของท้องฟ้า ความแข็ง-นุ่มของพื้นดิน กลิ่นของดอกไม้ ฯลฯ รู้สึกอย่างไรเมื่อเท้าหรือร่างกายของคุณสัมผัสกับพื้นดิน คุณกําลังนั่งอยู่บนหินหรือก้อนหิน คุณกําลังเอนหลังพิงต้นไม้ หรือนอนราบอยู่บนเนินเขา
มีเสียงกรอบแกรกของใบไม้กับสายลมหรือไม่ มีเสียงนก เสียงคลื่นซัดหรือไม่ คุณอาจเห็นต้นไม้เคลื่อนไหว เงาแสงแดดบนใบไม้ขยับ นกบิน สังเกตและอยู่กับการเคลื่อนไหวนี้อย่างผ่อนคลาย
ลมหายใจช่วยเชื่อมโยงกับธรรมชาติภายในกับธรรมชาติภายนอก ดูการเคลื่อนไหวของลมหายใจ และการเคลื่อนไหวสภาพแวดล้อมภายนอก
พักผ่อนในลมหายใจ เหมือนพักผ่อนในแม่น้ำที่ไหลขึ้นลงเหมือนลมหายใจเข้าออก รับรู้ร่างกายของคุณ เช่น รู้สึกเสียวซ่าที่เท้าหรือมือ การเต้นของหัวใจ หรือชีพจรในร่างกาย เหมือนน้ำเคลื่อนผ่านทุกเซลล์ของร่างกาย ซึ่งคือแม่น้ำภายในร่างกายของเรานั่นเอง
ร้อน เย็น อุ่น การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ ทั้งภายในและภายนอก
เหมือนเมฆที่ลอยขึ้นและเคลื่อนผ่านบนท้องฟ้า อารมณ์ที่เกิดขึ้นก็เหมือนกลางวัน กลางคืน หรือฤดูกาล ที่เกิดขึ้นและผันเปลี่ยนไป
การเคลื่อนไหวทั้งภายในและภายนอก สงบและผ่อนคลาย พักผ่อนท่ามกลางการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลง ปล่อยให้ตัวเองพักผ่อนให้ดีที่สุดเท่าที่จะทําได้