ปันน้ำใจ & ปันกันอิ่ม

นุดา 24 กันยายน 2024

“เอกเขนกเป็นมากกว่าที่พักค้างคืน อบอุ่น โอบอ้อม ใส่ใจ และเป็นพลังใจให้คนทั่วไป”

“feel like home ยังเป็นคำนิยามที่มีให้ทั้งก่อนเข้าไป และจนวันที่กลับออกมา ขอบคุณความรู้สึกดี ๆ ทุกอย่างที่เอกเขนกมอบให้นะคะ หวังว่าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสกลับไปที่ “บ้าน” อีกครั้ง”

คือความรู้สึกบางส่วนของแฟนเพจและลูกค้าซึ่งเคยเข้าพักที่ “เอกเขนก” โฮสเทลละแวกศิริราช วังหลัง ที่พักคุณภาพดีในราคาประหยัด เปรียบเสมือนบ้านอีกหลังของผู้ที่จำเป็นต้องมาค้างอ้างแรมละแวกนั้น

นอกจากราคาหลักร้อย บริการหลักล้านแล้ว ล่าสุดเอกเขนกโฮสเทลยังมีโครงการปันน้ำใจ มอบที่พักฟรีให้กับผู้ที่มารักษาตัวหรือเฝ้าผู้ป่วยที่โรงพยาบาลศิริราช แต่เดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย โดยมีโครงการปันกันอิ่ม มูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา ร่วมด้วยช่วยกัน สนับสนุนค่าอาหารให้ผู้เข้าพักในโครงการปันน้ำใจ ให้ได้กินอิ่มและนอนอุ่น

มุมกาแฟที่โฮสเทล คนภายนอกก็มาอุดหนุนได้

จากลูกชายขาหัก มาเป็นที่พักราคาประหยัด

เมื่อปลายปี 2560 ลูกชายของคุณวิวัฒน์ รักแต่งาม ประสบอุบัติเหตุต้นขาด้านซ้ายบิดหัก ต้องเข้าทำการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช คุณวิวัฒน์ต้องมาเฝ้าลูกที่พักรักษาตัวเป็นเวลาสิบกว่าวัน ช่วงเวลานั้นเขาตระเวนไปนอนตามที่พักตามโรงแรมต่างๆ ในละแวกนั้น และก็พบว่าห้องพักสภาพดีส่วนใหญ่ราคาเริ่มต้นที่ 800 – 1000 บาทขึ้นไป เมื่อพักหลายคืนรวมๆ แล้วราคาค่าห้องสูงพอควร จึงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้คุณวิวัฒน์ตัดสินใจทำที่พักเพื่อตอบสนองความต้องการของคนที่ต้องมาติดต่อธุระในละแวกโรงพยาบาลศิริราช โดยเฉพาะผู้ที่ต้องมาเฝ้าไข้ผู้ป่วย

“คนมาเฝ้าไข้เขาต้องการที่นอนที่สบายๆ ปลอดภัย ไม่ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าไหร่ ขอให้มีสิ่งจำเป็น หมอน ผ้าห่ม แอร์เย็นสบาย สะอาด ห้องน้ำดี ก็เลยมองๆ ดูว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง จึงมาลงตรงนี้ ทำในลักษณะของโฮสเทล ในแบบที่เราเคยไปเห็น ห้องรวมก็ทำเป็นเตียงให้เป็นสัดส่วน สะอาดสะอ้าน สบาย แต่ใช้ของคุณภาพดี ห้องน้ำก็ใช้สุขภัณฑ์อย่างดี โจทย์ของเราคือ สะอาด สะดวก สบาย ปลอดภัย และราคาถูก”

เอกเขนกโฮสเทลมีห้องพักให้บริการ 3 แบบ คือห้องนอนรวม แบ่งเป็นชั้นเฉพาะผู้หญิง และชั้นชาย-หญิง แต่ละเตียงจะมีกำแพงกั้น มีม่านปิดมิดชิด เป็นห้องแอร์ ส่วนห้องน้ำก็มีเครื่องทำน้ำอุ่น พร้อมด้วย สบู่เหลว ยาสระผมอย่างดีให้ใช้ ในราคาคืนละ 350 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีห้อง Standard 2 เตียงนอน ราคาห้องละ 850 บาท และห้องแบบครอบครัว มีห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และมีระเบียงหน้าห้องเป็นสวนส่วนตัว ราคาคืนละ 1,250 บาท

ซึ่งราคานี้ยืนหยัดมาตั้งแต่เริ่มต้นกิจการจนถึงปัจจุบัน

ห้องพักแบบรวมที่เอกเขนก คืนละ 350 บาท

ห้องแบบส่วนตัวที่เอกเขนก

“สิ่งที่เราเจอต่างหากที่บอกให้เราทำอะไร”

“จุดเริ่มต้นการทำโฮสเทลของเราคือ อยากทำธุรกิจตัวหนึ่งที่เกิดประโยชน์ ถ้าเราอยากทำกำไรจริงๆ พูดตรงๆนะครับ เราทำอย่างอื่นเถอะ เราจะมาทำเป็นสาธารณกุศลเลยไหม ก็ไม่ใช่ขนาดนั้น แต่ด้วยเหตุผลคือ สิ่งที่เราเจอต่างหากที่บอกให้เราทำอะไร”

โฮสเทลทั่วๆไป คือที่พักราคาประหยัดของนักท่องเที่ยว สิ่งที่พวกเขาแบ่งปันแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่คือ ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง แหล่งชอปปิ้ง ฯลฯ แต่สำหรับเอกเขนกโฮสเทลแล้ว ที่นี่คือที่แบ่งปันความทุกข์ความสุข และก่อเกิดความผูกพัน

“ช่วงแรกๆ ที่เราเปิดโฮสเทล มีผู้ชายคนหนึ่งมาพัก เขามาพร้อมกับความเครียด ใบหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์ ผ่านไปสามสี่วัน เริ่มคุ้นหน้าคุ้นตากันพอสมควร เราก็คุยกับเขา เขาเล่าให้ฟังว่า ภรรยาคลอดลูกได้ไม่กี่วันก็เกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตกขณะกำลังให้นมลูก เขาจึงต้องพามารักษาที่ศิริราช แล้วฝากลูกคนโตไว้กับญาติ แล้วตัวเองมาดูแลภรรยา ซึ่งหมอบอกว่าอาการหนักมาก เขาก็เครียดจัดจนตัวเองความดันขึ้น เราเองก็ทำได้แค่คอยพูดคุย ให้กำลังใจ และคอยดูแลให้ดีที่สุด

จนวันหลังๆ ที่เหตุการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เขาก็มาบอกเราว่า วันนี้ผมป้อนข้าวเมียด้วย ลองนึกดูครับ เราเป็นใครไม่รู้ วันหนึ่งมีคนมาพูดกับเราแบบนี้ แสดงว่าเขารู้สึกเราเป็นเพื่อนแล้ว จนวันที่ 14 ที่เขาพักกับเรา เขาเดินลงมาบอกข่าวดีว่า วันนี้หมอให้ภรรยาผมกลับบ้านได้ ความรู้สึกตรงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของเรา รู้สึกว่ามีความสุขจังเลย ที่เห็นเขามีความสุข เขามีความรู้สึกอยากบอกใครสักคน ซึ่งเราเป็นหนึ่งในคนนั้น นั่นแหละครับเป็นความรู้สึกแรกๆ ที่ทำให้รู้สึกว่า การทำอะไรอย่างนี้ มันดีจัง”

นอกจากคนมาเฝ้าไข้และผู้ป่วยที่มารับการรักษาแล้ว แขกอีกกลุ่มที่มาพักที่เอกเขนกโฮสเทล ก็คือคุณหมอ คุณพยาบาล ทั้งมาอบรม มาทำธุระ บางคนใช้เป็นที่พักนอนก่อนหรือหลังขึ้นเวร ซึ่งบางช่วงเวลาของการเข้าพักที่มาบรรจบกันของผู้คนหลากหลาย ก็มีความเกื้อกูลเกิดขึ้นอยู่เสมอ

“ผู้เข้าพักคนหนึ่งมารับการฉายรังสีที่ศิริราช เวลานอนเขาก็ไอ คนที่นอนอยู่ในห้องเดียวกัน ก็เดินเลี่ยงออกมาข้างนอกห้อง เขาคงกลัว พอดีวันนั้นมีคุณหมอมาพัก หมอก็เดินออกมาและอธิบายให้ฟังว่าคนไข้เพิ่งไปฉายรังสีมา ก็เลยไอ เขาไม่ได้เป็นอะไรหรอกนะ ไม่ต้องกลัว เป็นภาพที่น่ารัก ที่นี่จะมีบรรยากาศแบบนี้ ไม่ใช่คนมาเที่ยวแล้วมีความสุข และก็จากไป แต่รวมๆ เรื่องออกเศร้าจะเยอะกว่าสุข อย่างคนเพิ่งเสียญาติ รู้เลยว่าเขาทำอะไรไม่ถูก เราก็ช่วยเขาปรินท์รูป ช่วยใส่กรอบให้ ที่นี่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ผมว่าถ้าเราทำอะไรบางอย่าง แล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้ มันจะบอกเราเองว่าจะทำอะไรกลับไป”

โปสเตอร์โครงการปันน้ำใจที่ติดไว้หน้าโฮสเทล

ปันน้ำใจ พักฟรีที่เอกเขนก

ทุกครั้งที่มีลูกค้าเข้าพัก คุณวิวัฒน์จะบอกลูกค้าเสมอว่า อนุญาตให้เป็นลูกค้าได้เพียงครั้งเดียว เพราะหลังจากนั้นเราเป็นเพื่อนเป็นญาติมิตรกันแล้ว

เอกเขนกโฮสเทลจึงเต็มไปด้วยญาติมิตร ทั้งญาติมิตรที่เคยมาพัก และญาติมิตรซึ่งติดตามเรื่องราวผ่านเพจเฟซบุ๊ก Ekanake Hostel ซึ่งครั้งหนึ่งคุณวิวัฒน์เคยโพสต์ในเฟซบุ๊กไว้ว่า “ถึงเราจะลงหลักปักฐานได้ไม่กี่ขวบปี ทุนรอนก็มีอยู่น้อยนิด แต่รากของเราหยั่งลึกมากครับ รากของเราก็คือความรัก ความห่วงใย ความผูกพันที่เราได้รับและได้มอบให้ญาติมิตรของเรานี่แหละ คิดเอาเองว่า เอกเขนกน่าจะเป็นที่พักแห่งเดียวกระมังที่ผูกพันกับลูกค้ามากขนาดนี้”

นอกจากความผูกพันที่มีให้กันแล้ว ญาติมิตรของเอกเขนกยังเปี่ยมน้ำใจ หลายครั้งที่โฮลเทลแห่งนี้ลดราคาที่พักให้กับลูกค้าซึ่งเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย หรือบางครั้งให้พักฟรีไปเลย ก็จะมีเหล่าญาติมิตรส่งข้อความมาร่วมสมทบทุนช่วยเหลือ เช่น เรื่องราวของน้องเอย เด็กหญิงตัวเล็กที่มีอาการผิดปกติตั้งแต่แรกเกิด โดยเฉพาะระบบเกี่ยวกับการหายใจ

“ปกติผมจะเข้ามาที่โฮสเทลอาทิตย์ละ 2-3 วัน น้องๆ ที่ดูแลโฮสเทลก็บอกว่ามีแม่ลูกคู่หนึ่งมาพักห้องนอนรวมแต่ขอเป็นนอนเตียงเดียว ซึ่งน้องๆ ก็ตอบตกลงไป โดยให้เหตุผลกับผมว่า เดี๋ยวมาเห็นพี่ก็รู้เอง ซึ่งก็ใช่ครับ มาเห็นก็รู้จริงๆ

คุณแม่ของน้องเล่าให้ฟังว่า น้องเอยมีอาการผิดปกติตั้งแต่แรกเกิดหลายอย่าง หนักที่สุดคือระบบเกี่ยวกับการหายใจ น้องมีอาการหยุดหายใจตอนนอน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจมาตั้งแต่เกิด จนเพิ่งมาผ่าตัดครั้งใหญ่ไปเมื่อไม่นานนี้ และหลังจากนั้นก็ยังไม่จบสิ้นเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมโน่นนี่ที่ไปอุดตัน ก็ต้องทำการผ่าตัดซ้ำอีก จนตอนนี้สามารถนอนโดยไม่ต้องใส่เครื่องช่วยแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

น้องเอยมีปัญหาเรื่องการกิน ต้องให้อาหารทางสายยางจนอายุสองขวบกว่า ทำให้น้องตัวเล็กมาก ถึงวันนี้อาการหยุดหายใจตอนหลับของน้องก็ยังไว้วางใจไม่ได้ โครงสร้างของลำตัว ช่วงขา แขน รวมถึงระบบอวัยวะภายใน ที่ล้วนแต่รอการดูแลรักษาอีกหลายเรื่อง หลายขั้นตอน

คุณแม่ของน้องตัดสินใจลาออกจากงานมาดูแลลูก รวมถึงดูแลปู่ ย่า ตายาย ซึ่งคุณยายเพิ่งเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อไม่นานมานี้ มีพ่อที่ทำงานช่างหารายได้อยู่คนเดียว ”

เอกเขนกโฮสเทลจึงช่วยเหลือค่าที่พักให้ ญาติมิตรที่อ่านเรื่องเล่าของน้องเอยก็ปันน้ำใจ ร่วมสมทบทุนค่าที่พัก ทั้งยังร่วมกันส่งเสื้อผ้า ของเล่น ของใช้ในสภาพดีไปให้น้องเอยและครอบครัวถึงบ้าน

เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โพสต์หนึ่งของเอกเขนกโฮสเทลเล่าถึงสภาพความเป็นอยู่ของคนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ที่ต้องพบกับความเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยยกเหตุการณ์จริงที่ลูกค้าของเอกเขนกบางท่าน ต้องทนนั่งๆ นอนๆ อยู่ที่ตึกอุบัติเหตุ(โรงพยาบาลศิริราช) ทั้งคืน ไม่ได้มาเข้าพักที่โฮสเทลอย่างเคย เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ปรากฏว่าญาติมิตรของเอกเขนกโฮสเทลหลายคนโทรมาให้กำลังใจ และที่คาดไม่ถึงคือมีข้อความส่งมาแสดงเจตจำนงที่จะสนับสนุนเงินค่าห้องจำนวนหนึ่งสำหรับผู้ที่เดือดร้อนที่ต้องการที่พัก เมื่อมารักษาตัวหรือต้องมาดูแลคนป่วยที่โรงพยาบาลศิริราช โดยมอบหมายความไว้วางใจให้ “เอกเขนก” เป็นคนจัดการ

จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการปันน้ำใจ โครงการที่เกิดขึ้นจากความเมตตาของญาติมิตรเอกเขนกที่ร่วมกันสมทบทุนเป็นค่าที่พักให้กับผู้ที่มารักษาตัวหรือเฝ้าผู้ป่วยที่โรงพยาบาลศิริราช แต่เดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย ให้พักฟรีที่เอกเขนกโฮสเทล

คูปองปันอิ่ม

ปันกันอิ่ม กินอิ่มเมื่อนอนอุ่น

โครงการปันน้ำใจ ของเอกเขนกโฮสเทล ปรารถนาที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เช่นเดียวกับโครงการปันกันอิ่ม โดยมูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา ที่เชื่อว่าการทำบุญไม่จำเป็นต้องไปที่วัด หรือทำบุญกับพระเท่านั้น การให้ทาน การแบ่งปันหรือการช่วยเหลือผู้อื่น ก็เป็นวิธีหนึ่งในการทำบุญ

ปันกันอิ่มจึงประสานความร่วมมือกับเอกเขนกโฮสเทล ช่วยเหลือเรื่องอาหารและน้ำดื่มฟรีให้กับผู้ที่มารักษาตัวหรือเฝ้าผู้ป่วยที่โรงพยาบาลศิริราชในโครงการปันน้ำใจ ซึ่งเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย โดยมีร้านอาหารและเอกเขนกโฮสเทลเป็นสะพานบุญเชื่อมระหว่างผู้ให้และผู้รับ

ทางเอกเขนกโฮสเทลจะมอบคูปองอาหารและน้ำดื่มให้ผู้เข้าพัก นำไปแลกอาหารและน้ำดื่มตามร้านอาหารที่ประสานงานไว้ เบื้องต้นมีอยู่ 3 ร้าน คือร้านเจ๊น้อง ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นวัดระฆัง ร้านขันธ์ทอง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ และร้านเจ๊ด้ง อาหารตามสั่ง เป็นร้านในละแวกโฮสเทล อยู่ระหว่างทางเดินจากเอกเขนกไปโรงพยาบาลศิริราช

ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊น้อง

ร้านก๋วยเตี๋ยวขันธ์ทอง

ร้านเจ๊ด้ง ขายอาหารตามสั่ง

นอกจากรสชาติอร่อยคุณภาพดีแล้ว แต่ละร้านยังมีใจเกื้อกูลเป็นทุน อย่างร้านเจ๊ด้ง อาหารตามสั่ง ช่วงเกิดสถานการณ์โควิดระบาด ทางร้านได้เข้าร่วมโครงการแบ่งปันความอิ่ม ช่วยเหลือด้านอาหารแด่ผู้ขัดสนช่วงภาวะวิกฤติ เจ๊ด้งบอกว่า ยินดีมากที่ได้ช่วยให้คนอิ่มท้องอีกครั้ง ถ้าใครถือคูปองมา จะเพิ่มปริมาณอาหารให้เป็นพิเศษอีกด้วย

ความร่วมมืออันงดงามและดีต่อใจ “กินอิ่ม นอนอุ่น” เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยหรือญาติที่มารับบริการที่โรงพยาบาลศิริราช เกิดขึ้นได้เพราะน้ำใจของผู้คนที่หยิบยื่นให้กัน แม้ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่คนรู้จัก ไม่เคยพบเจอ แต่ยินดีที่จะช่วยเหลือ ด้วยหัวใจของความเกื้อกูล


ทุกท่านสามารถร่วมสนับสนุนโครงการปันน้ำใจ ปันที่พัก ด้วยการช่วยบอกต่อไปยังผู้ป่วยที่มารักษาตัวหรือญาติซึ่งมาเฝ้าผู้ป่วยที่โรงพยาบาลศิริราช แต่เดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย หรือช่วยสมทบทุนกับโครงการ โดยติดต่อไปที่เพจเฟซบุ๊ก Ekanake Hostel

หากท่านใดต้องการร่วมสมทบทุนกับโครงการปันกันอิ่มเพื่อช่วยเหลือค่าอาหารให้กับผู้เข้าพัก สามารถร่วมทำบุญผ่านบัญชีมูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา ธนาคารกสิกรไทย สาขาศิริราช เลขที่บัญชี 086-1-75986-5

นุดา

ผู้เขียน: นุดา

เกิดและเติบโตที่จังหวัดนครปฐม ชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็ก ตอบตัวเองได้ว่า อยากทำงานเกี่ยวกับการเขียนตอนเรียนมัธยม จึงเลือกเดินในเส้นทางสายนี้ และยึดเป็นอาชีพหลักกว่า 20 ปี แม้รูปแบบของสื่อจะไปเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่เชื่อว่าการเขียนยังเป็นพลังสำคัญในการสื่อสาร