“ตอนแม่อยู่ หนูไม่เคยฟังแม่เลย” “ผมแค่อยากให้พ่อแม่มีความสุข ทุกวันนี้พ่อไม่ยอมช่วยตนเอง อ้างแต่ว่าเขาเป็นโรคซึมเศร้า เรียกร้องคนรอบตัวไปหมด ไม่ยอมช่วยเหลือตนเอง จนแม่เครียดพลอยลามมาถึงผมด้วย” “เรื่อง
ไม่ว่าที่ทางหรือแห่งหนใด คล้ายได้ยินเสียงผู้คนบ่นพร่ำถึงอุปสรรคมากมายในชีวิต จะมีบ้างก็แต่บางส่วน ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้าม ที่เอาแต่ละเมอเพ้อเจ้อถึงความสุข แต่นั่นก็ยังเห็นขอบของความทุกข์ที่พวกเขาซุกซ่อน
นิทานเรื่องนี้เริ่มต้นด้วยแม่เป็ดที่กำลังกกไข่ถูกหมาจิ้งจอกฆ่าตาย มันจากไปโดยทิ้งไข่เป็ดไว้ โชคเคราะห์ที่ไม่เลวร้ายเกินไปนักคือ ครอบครัวแม่ไก่ พ่อไก่ได้รู้เห็นเหตุการณ์ และด้วยความเมตตามันจึงได้กกไข่
“คนฉลาด เมื่อหกล้มแล้ว เขาจะลุกขึ้นมา โดยไม่ลืมที่จะหยิบอะไรติดไม้ติดมือขึ้นมาด้วย” ผมเคยได้ยินคำสอนนี้มาก่อนจากพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต ตอนแรกผมคิดว่าคำสอนนี้เป็นคำเปรียบเปรย แต่สำหรับวั
* บทความนี้ไม่ใช่การรีวิวภาพยนตร์ ภาพประกอบเป็นเพียงการสื่อถึงเนื้อหาบางส่วนของบทความ คิดไปแล้วน่าใจหาย ที่คนทุกวันนี้เชื่อใจและไว้วางใจกันน้อยลงทุกที อย่าว่าแต่ความรู้สึกไม่ไว้ใจต่อคนรอบข้างที่เราไม
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เกิดเหตุแผ่นดินไหวและภัยธรรมชาติมากมายทั่วโลก โดยเฉพาะระยะหลังภัยพิบัติเกิดขึ้นใกล้บ้านเรามาก เริ่มจากญี่ปุ่นแล้วก็พม่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้คนตื่นตระหนกกันมาก นั่นเป็นเพราะมีค
เช้าเมื่อวาน…. ท้องถนนยังคงพลุกพล่านเหมือนทุกวัน บนทางเท้าหน้าห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ย่านฝั่งธนฯ แห่งนั้น กลิ่นไก่ทอดคลุกเคล้าเขม่าควันพิษ โชยเข้ารูจมูกและเข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
คนเราจะสุขหรือทุกข์ ไม่ได้อยู่ที่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา แต่อยู่ที่ว่าเรารู้สึกหรือมีปฏิกิริยาอย่างไรกับมัน สิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นกับเรา เช่น เงินหาย เจ็บป่วย ตกงาน อกหัก อุบัติเหตุ สิ่งเหล่านี้ไม่สามา
ใครๆ ก็ต้องการความสุข และคิดว่าความสุขจะได้มาก็เมื่อมีทรัพย์ ได้โชค มีสุขภาพดี มีงานการดี หรือสมหวังในความรัก เป็นต้น แต่ความสุขที่แท้จริงและยั่งยืนนั้นมิได้อยู่ที่ว่ามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับเรามากมายเพ
ทุกวันนี้ข่าวสารจากสื่อต่างๆ ได้กลายเป็นสิ่งแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดของเรามาก เราจะสุขหรือทุกข์ แจ่มใสหรือหดหู่ ขึ้นอยู่กับข่าวสารที่ได้รับมิใช่น้อย โดยเฉพาะข่าวสารที่ถูกต่อเติมเสริมแต่
End of content
No more pages to load