ธรรมานุรักษ์ ฉบับเดือนกรกฎาคม-ตุลาคมขาดหายไปนานหลายเดือน เนื่องจากสาราณียกรมีปัญหาด้านสุขภาพผนวกกับงานอื่นที่แทรกมากะทันหัน กว่าจะพร้อมทำต้นฉบับ ก็ล่วงเข้าเดือนธันวาคมแล้ว จึงขอรวบธรรมานุรักษ์ ฉบับเดือนกรกฎาคม-กันยายน และฉบับเดือนตุลาคม-ธันวาคม เข้าเป็นเล่มเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ ธรรมานุรักษ์ ฉบับนี้จึงหนากว่าปกติ
เมื่อมองในภาพรวมแล้ว ปี ๒๕๔๖ นี้ไม่สู้มีข่าวครึกโครมเกี่ยวกับพระสงฆ์หรือพระพุทธศาสนาเท่าใดนัก จะมีก็แต่กรณีเจ้าอาวาสวัดกู้เท่านั้น จึงนับว่าเป็นปีที่ “สงบ” พอสมควรโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีข่าวพระสงฆ์ ๒ กลุ่มขัดแย้งกันเรื่องร่างพ.ร.บ.สงฆ์ มิพักต้องกล่าวถึงการชุมนุมของพระสงฆ์เพื่อเรียกร้องกระทรวงพระพุทธศาสนา
อย่างไรก็ตามขณะที่กำลังเขียน “เปิดเล่ม” อยู่นี้ มีข่าวว่าบุคคลบางกลุ่มพยายามผลักดันให้มีพระสังฆราช ๒ พระองค์ โดยแบ่งแยกตามนิกาย แม้เป็นข่าวที่มาจากรองนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีการยืนยันจากแหล่งอื่น แต่ก็เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าวงการคณะสงฆ์ในปัจจุบันมี “คลื่นใต้น้ำ” อยู่ไม่น้อย คลื่นดังกล่าวอาจรอวันปะทุเป็นพายุที่บั่นทอนทั้งคณะสงฆ์และศรัทธาของชาวพุทธอยู่ก็ได้ ดังนั้นแม้ปีนี้วงการพุทธศาสนาจะดูราบเรียบ แต่ก็มิได้หมายความว่าปลอดจากปัญหา เป็นแต่ว่าปัญหานั้นยังไม่แสดงตัวออกมาให้เห็นโทนโท่ในปีนี้เท่านั้น แต่อาจจะปรากฏเป็นข่าวครึกโครมในปีต่อๆ ไป
ธรรมานุรักษ์ ฉบับนี้เนื้อหาหลักนำมาจากการสัมมนาเรื่อง “อนาคตของพุทธศาสนา : เราจะฝ่าวิกฤตไปได้อย่างไร” ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยศิลปากรเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในการสัมมนาครั้งนี้มีนักคิดสำคัญหลายท่านมาให้ความเห็นเกี่ยวกับรากเหง้าของวิกฤตและทางออกจากวิกฤต ทั้งหมดนี้น่านำมาเทียบเคียงกับแนวคิดของรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม ซึ่งได้เสนอนโยบาย ๒๑ ประการเพื่อพัฒนาพุทธศาสนา ดังปรากฏในธรรมานุรักษ์ ฉบับนี้ด้วยเช่นกัน
ปีใหม่นี้ขอให้ทุกท่านมีความสุขกายและใจ ชีวิตเจริญงอกงามด้วยสัมมาทัศนะและสัมมาปฏิบัติ สามารถก้าวล่วงอุปสรรคและทุกข์ภัยต่างๆ ได้ด้วยดี และเข้าถึงความสงบเย็นเกษมศานต์ยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเทอญ
อ่านจดหมายข่าวพุทธิกาฉบับอื่นๆ ได้ ที่นี่