เปิดเล่ม: จดหมายข่าวพุทธิกา ฉบับที่ 24

พระไพศาล วิสาโล 1 กรกฎาคม 2006

เป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๒๐๐ ปีที่ทั่วโลกมีการทำสงครามรบพุ่งโดยมีสาเหตุจากลัทธิหรืออุดมการณ์ทางการเมือง  เช่น ระหว่างประชาธิปไตยกับราชาธิปไตย  ชาตินิยมกับจักรวรรดินิยม  เสรีนิยมกับนาซี  และเสรีนิยม-ทุนนิยมกับคอมมิวนิสต์  แต่ในปัจจุบันศาสนาและเชื้อชาติที่ต่างกันได้กลายเป็นสาเหตุสำคัญของสงครามไม่ว่าภายในประเทศ หรือระหว่างประเทศ  ปฏิเสธไม่ได้ว่าสงครามการก่อการร้ายที่แพร่ขยายไปทั่วโลกก็ได้รับอิทธิพลจากศาสนาอย่างสำคัญ

ความจริงแล้วความแตกต่างทางศาสนามิใช่สาเหตุของสงครามหรือความรุนแรงโดยตรง  สาเหตุที่สำคัญก็คือความอยุติธรรมหรือการรังเกียจเดียดฉันท์เนื่องจากความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ  แต่เนื่องจากเชื้อชาติมักจะผูกกับศาสนา  ความรังเกียจทางเชื้อชาติ จึงมักนำไปสู่ความรังเกียจทางศาสนา  ขณะเดียวกันเมื่อมีการต่อสู้เพื่อปลดแอกจากความอยุติธรรม ฝ่ายที่ลุกขึ้นสู้ก็มักจะอาศัยศาสนาเป็นข้ออ้างเพื่อปลุกเร้าให้คนอื่นลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วย  ดังเช่นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือในตะวันออกกลาง

อันที่จริงศาสนาแต่ละศาสนา (ที่เป็นศาสนาใหญ่ๆ ในปัจจุบัน) ไม่นิยมความรุนแรง  แต่บ่อยครั้งศาสนิกหรือแม้แต่ผู้นำศาสนิกเองก็ถลำเข้าไปในความขัดแย้งโดยเชื่อว่าเป็นเรื่องศาสนา  ผลก็คือมีการปลุกเร้าศรัทธาทางศาสนาเพื่อผลักดันให้ผู้คนไปทำร้ายผู้อื่น แม้จะต้องพลีชีพก็ตาม  กลายเป็นว่าปัจจุบันศาสนาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนยอมตายเพื่อฆ่าผู้อื่น  ทั้งๆ ที่ศาสนาควรจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนยอมตายเพื่อรักษาชีวิตผู้อื่นมากกว่า ดังที่ศาสดาทั้งหลายในอดีตได้แสดงตนเป็นแบบอย่าง

การที่ศาสนาถูกโยงให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับความรุนแรง  จึงเป็นความผิดพลาดของศาสนิกชนเอง ที่ยอมปล่อยให้ศาสนาถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้แก่ผู้ใช้ความรุนแรง (ถ้ามิใช่เป็นคนลงมือใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือเสียเอง)  ด้วยเหตุนี้ผู้ที่เชื่อว่าศาสนาคือสันติธรรม จึงไม่ควรนิ่งเฉย หากควรพยายามดึงศาสนาของตนออกมาจากความรุนแรง  มิใช่ด้วยการเทศนาสั่งสอนเท่านั้น แต่ควรรวมถึงการลงมือสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นด้วยตนเอง โดยอาศัยศาสนาเป็นแรงบันดาลใจ  โดยจะต้องเป็นปฏิบัติการที่อาศัยความกล้าและความเสียสละไม่น้อยว่าผู้ที่ใช้ความรุนแรงโดยได้แรงบันดาลใจจากศรัทธาทางศาสนา

พุทธิกา ฉบับนี้ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิมเพื่อสร้างสันติภาพและความยุติธรรม  ขณะเดียวกันก็นำเสนอกรณีตัวอย่างของผู้ที่สูญเสียคนรักแต่สามารถให้อภัยฆาตกรได้เพราะศรัทธาในศาสนา  อย่างน้อยก็ช่วยให้เห็นว่าชาวมุสลิมนั้นมิได้นิยมความรุนแรงเสมอไป  ผู้ที่พร้อมจะรักและให้อภัยก็มีอยู่ไม่น้อย

เดือนตุลาคมนี้ครบรอบ ๒ ปีกรณีตากใบซึ่งมีคนตายกว่า ๘๐ คน  แต่ที่สะเทือนใจยิ่งกว่าก็คือเหตุการณ์เมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว นั่นคือเหตุการณ์ ๖ ตุลา ๑๙   ทั้ง ๒ เหตุการณ์ควรเป็นโอกาสที่เราจะรำลึกและใคร่ครวญอย่างมีสติ เพื่อเห็นโทษของความรุนแรงและความโกรธเกลียด  ขณะเดียวกันก็ควรร่วมกันนำความรักและขันติธรรมออกมาจากจิตใจของแต่ละคน เพื่อขับไล่ความมืดมนอันเนื่องจากความโกรธเกลียดให้ออกไปจากสังคมไทย

ไม่มีอะไรที่สำคัญกว่านี้แล้วในยามที่บ้านเมืองกำลังลุกเป็นไฟที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และลุกเป็นไฟในจิตใจของผู้ที่ชอบและชังนายกฯ ทักษิณอยู่ในขณะนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง


อ่านจดหมายข่าวพุทธิกาฉบับอื่นๆ ได้ ที่นี่

พระไพศาล วิสาโล

ผู้เขียน: พระไพศาล วิสาโล

เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต และประธานมูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา