ในรอบ ๒ เดือนที่ผ่านมา จริยธรรมได้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองอย่างไม่เคยมีมาก่อน จนก่อให้เกิดวิกฤตในระดับประเทศ เพราะผู้ที่ถูกตั้งคำถามทางจริยธรรมมิใช่เป็นคนธรรมดา หากเป็นถึงผู้นำระดับนายกรัฐมนตรี ซึ่งแม้จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของประเทศ แต่กลับเกี่ยวข้องพัวพันกับการหลีกเลี่ยงภาษีจากการขายหุ้นจำนวนเงิน ๗๓,๐๐๐ ล้านบาท โดยอ้างว่ามีกฎหมายรองรับอย่างถูกต้อง
เหตุการณ์ดังกล่าวได้ปลุกให้คนไทยทั้งประเทศตระหนักว่าจริยธรรมนั้นมิอาจแยกจากการเมืองได้ การเมืองที่ปราศจากจริยธรรม ย่อมเป็นอันตราย และไม่อาจแลกกับความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจได้ ด้วยเหตุนี้เสียงเพรียกหาจริยธรรมจากนายกรัฐมนตรีจึงดังกระหึ่มอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมีจุดหมายคือการลาออกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จากตำแหน่งผู้นำประเทศ
จดหมายข่าวพุทธิกา ฉบับนี้เน้นประเด็นเรื่อง “จริยธรรมต้องนำการเมือง” เพราะเราเห็นว่าจริยธรรมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประเทศ ไม่ต่างจากอากาศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต พื้นที่ของจริยธรรมมิได้จำกัดอยู่แค่ในวัดหรือในโรงเรียนเท่านั้น หากยังควรครอบคลุมไปถึงระบอบการเมือง และเศรษฐกิจ รวมทั้งแวดวงธุรกิจด้วย
สังคมไทยกำลังเผชิญวิกฤตรอบด้าน รวมทั้งวิกฤตทางจริยธรรม จะว่าไปแล้ววิกฤตทั้งหลายล้วนมีรากเหง้ามาจากวิกฤตทางจริยธรรม ด้วยเหตุนี้ท่านอาจารย์พุทธทาสจึงกล่าวว่า “ถ้าศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ”
พุทธิกา ขอมีส่วนในการเรียกร้องและสนับสนุนให้ศีลธรรมกลับมาตั้งมั่นในใจคนและทั่วทั้งสังคมไทย
อ่านจดหมายข่าวพุทธิกาฉบับอื่นๆ ได้ ที่นี่