ปี ๒๕๕๘ แม้จะยาวนานเพียงใด ในที่สุดก็ต้องมีวันสิ้นสุด ในทำนองเดียวกัน แม้จดหมายข่าวพุทธิกา จะมีชีวิตที่ยาวนานกว่าสิบปี สักวันหนึ่งก็ต้องมีวันสิ้นสุด บัดนี้วันนั้นได้มาถึงแล้ว พร้อมๆ กับการจากไปของปี ๒๕๕๘ จดหมายข่าวพุทธิกา ก็จะอำลาผู้อ่านเช่นกัน
ดังได้แจ้งแก่ผู้อ่านในฉบับที่แล้ว จดหมายข่าวพุทธิกา ฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้าย เนื่องจากปัจจุบันทางเลือกในการรับข้อมูลข่าวสารมีมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายตัวอย่างกว้างขวางของสื่ออินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้อ่านสื่อสิ่งพิมพ์มีน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่นิตยสาร วารสาร หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จนหลายแห่งต้องปิดตัวเอง จดหมายข่าวพุทธิกา ซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์เล็กๆ ก็ยากที่จะทานกระแสดังกล่าวได้เช่นกัน ในที่สุดจำต้องจากไปด้วยเหตุผลเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เครือข่ายพุทธิกายังมีสื่อกลางที่ผู้อ่านและผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและข้อคิดความเห็นได้หลายช่องทาง เช่น เฟซบุ๊ค เว็บไซต์ ดังมีรายละเอียดในเล่มนี้แล้ว หวังว่าผู้อ่านจะให้การสนับสนุนกิจกรรมและผลงานของเครือข่ายพุทธิกาต่อไป
แม้ปีใหม่นี้จะไม่มีจดหมายข่าวพุทธิกาแล้ว แต่ก็หวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีสำหรับทุกคน ก่อให้เกิดความเจริญงอกงามแก่ชีวิต ไม่ว่ามีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น ขอให้วางใจรับมืออย่างถูกต้อง กล่าวคือเมื่อเจอความเปลี่ยนแปลงที่ดี ก็อย่าเพลิดเพลินหลงใหลจนลืมตัว ระลึกถึงคำตรัสของพระพุทธเจ้าว่า “ผลแห่งความดีนั้นย่อมเป็นพิษแก่ผู้ที่ไม่พิจารณา แล้วหลงใหลยึดอยู่ในสิ่งนั้น จนกลายเป็นประมาทมัวเมา”
ขณะเดียวกัน หากมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเมื่อเกิดขึ้น ก็ขอให้ตั้งสติ ยอมรับมันให้ได้ แทนที่จะตีโพยตีพายหรือบ่นโวยวาย ก็กลับมาอยู่กับปัจจุบัน แล้วทำปัจจุบันให้ดีที่สุด พยายามรักษาใจอย่าให้ความทุกข์ครอบงำ และพยายามหาประโยชน์จากมันให้ได้ ไม่มีอะไรที่เลวร้ายหมด ทุกอย่างล้วนมีข้อดี อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นหรือไม่ แม้ในยามทุกข์ ก็ยังโอกาสที่จะเป็นสุขได้ ดังพระพุทธองค์ตรัสว่า “ผู้มีปัญญา แม้ประสบทุกข์ ก็ยังหาสุขพบ” จะว่าไปแล้วสุขที่เราสามารถพบได้อย่างแน่นอน ก็คือสุขที่ใจ ข้อสำคัญก็คือวางใจให้ถูก มองให้เป็น ก็จะเห็นสุขได้ไม่ยาก
อ่านจดหมายข่าวพุทธิกาฉบับอื่นๆ ได้ ที่นี่