ก้อนอารมณ์

ศิริพร ฉัตรหิรัญมงคล 10 กรกฎาคม 2004

มีบางเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราโดยที่เราไม่เคยได้คาดคิด คาดฝัน รวมทั้งบางเรื่องที่ทำให้เราเริ่มที่จะไม่ประมาทกับชีวิตมากขึ้น รวมถึงคนรอบข้างและเพื่อนๆ ของเราด้วย

ผู้หญิงเราจะรู้สึกอย่างไรกับการที่มีเพื่อนก้อนน้อยๆ ที่อาศัยอยู่กับเรามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เริ่มปรากฏอาการให้เราได้รับรู้ว่ามีเขาอยู่ด้วยนะ แต่ต้องเอาเขาออกไป เพราะไม่อย่างนั้นแล้วเขาจะกลายพันธุ์จากเพื่อนก้อนน้อยๆ เป็นเจ้าเนื้อร้าย ที่ไม่มีใครปรารถนาอยากให้อยู่ด้วย

และเจ้าก้อนนี้ได้บังเกิดขึ้นกับฉัน แต่โชคดีที่ยังเป็นเพื่อนก้อนน้อยอยู่ ยังไม่ได้กลายพันธุ์  เจ้าก้อนนี้อยู่กับฉันมานานเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ได้ แต่รู้ว่าก้อนมันพอตัวเลยล่ะ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางก็ 9-10 ซม.ได้ มาอาศัยอยู่ในมดลูกของฉัน  เนื้องอกนี้ไม่ได้มีอันตรายอะไรมากนัก (ตามที่หมอบอก) แต่ฉันจำเป็นจะต้องรีบผ่าตัดเอาออกไป เพราะเจ้าก้อนเนื้อไม่ได้มาอยู่ด้วยเฉยๆ แต่กลับไปเกะกะเกเรทับท่อปัสสาวะเสียนี่ และถ้าไม่รีบเอาเจ้านี้ออกก็จะไปส่งผลกับกระเพาะปัสสาวะของฉันอีก จึงต้องรีบนำเอาเจ้าก้อนเนื้อออกดูโลกภายนอกดีกว่า… แต่ถ้าเจ้าก้อนเนื้อรักที่จะอยู่กับฉันอย่างสันติ ฉันก็ยังคงให้อยู่ต่อไปได้นั่นแหละ

เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับฉัน ทำให้ฉันได้รับรู้ว่ายังมีเพื่อนและผู้หญิงอีกหลายต่อหลายคนก็เป็นเช่นเดียวกัน แต่อาจจะเกิดอยู่กันคนละที่บ้าง ต่างกันตรงวัยที่จะเป็นบ้าง และหมอก็บอกว่าผู้หญิง 50% มีสิทธิ์ที่จะเป็นเนื้องอก

และกับเจ้าก้อนนี้แหละที่ทำให้เพื่อนๆ ของฉันเริ่มระแวงระวังตัวเองกันมากขึ้น พร้อมกับสงสัยว่าจะมีเพื่อนก้อนน้อยอยู่ในตัวด้วยหรือเปล่า  คนใกล้ตัวได้ซักถามกับฉันว่า “มีอาการแสดงออกมาอย่างไรถึงรู้ว่ามีก้อนเนื้ออยู่” “ความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้างเมื่อรู้ว่ามี” และแต่ละคนเริ่มหันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น มีบ้างบางคนไปให้หมอตรวจเพื่อความไม่ประมาท พร้อมกับดูแลเรื่องอาหารการกิน เรื่องสุขภาพร่างกาย และที่สำคัญคือ เรื่องของภาวะอารมณ์ จิตใจ ควรที่จะดูแล ใส่ใจให้มากขึ้น

ในช่วงแรก ฉันรู้สึกไม่ชอบใจเลย คิดว่าทำไมต้องเป็นฉันด้วยที่มาเป็นแบบนี้ ต้องมานอนอยู่โรงพยาบาล ทำไม? ไม่เข้าใจเลย  แต่เมื่อหลังผ่าตัด ต้องมานอนพักอยู่เฉยๆ ทำให้ฉันได้เริ่มคิดถึงอะไรหลายๆ อย่าง  รวมถึงว่าก็ดีเหมือนกัน ที่ฉันมาเป็นแบบนี้ เพื่อจะได้มีเวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เพราะก่อนหน้านี้ ฉันตะลอนๆ ไปไหนต่อไหน ไม่ค่อยได้พักเลย ได้โอกาสซะเลยคราวนี้  พร้อมทั้งได้มีโอกาสในการภาวนา อยู่กับตัวเองได้มากขึ้น ดูความเปลี่ยนแปลงของจิตใจตัวเอง ดูอารมณ์ที่เข้ามา-ออกไป  และยังทำให้รู้ว่า มิตรภาพยังคงมีอยู่อย่างสม่ำเสมอ แม้ไม่ได้แสดงออกมาทางวาจา ก็ออกมาจากการกระทำ และมันทำให้ฉันรับรู้ว่า ยังมีคนที่รักและห่วงใยอยู่เสมอ ฉันมิได้อยู่ตัวคนเดียวอย่างที่เข้าใจมาโดยตลอด

ความรัก – ความเข้าใจ – ความห่วงใย ที่เพื่อนมีต่อฉัน คอยดูแล ดำเนินเรื่องต่างๆ ให้ คอยถามไถ่ห่วงใย แวะมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจทั้งก่อนผ่าตัด ช่วงพักฟื้น และหลังกลับมาอยู่ที่บ้าน แม้เมื่อเวลาจะผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่เพื่อนๆ ก็ยังคอยถามว่า “เป็นไงบ้าง? อาการดีขึ้นหรือยัง”, “พักผ่อนให้เต็มที่นะ”, “ดูแลตัวเองด้วยล่ะ” มันทำให้ฉันต้องคอยดูแลตัวเองให้ดี และเป็นห่วงตัวเองเพิ่มขึ้น ไม่ให้เพื่อนๆ ต้องคอยเป็นกังวลกับตัวฉัน

การป่วยไข้คราวนี้ ทำให้ฉันระมัดระวังกับเรื่องของอารมณ์ตัวเองมากขึ้น เพราะโดยปกติ ฉันจะเป็นคนที่มีอารมณ์โทสะ ความโกรธอยู่ พร้อมกับอารมณ์ร้อน เป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ฉันว่าเรื่องนี้อาจเป็นต้นเหตุสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้เซลล์ปกติในร่างกายของคนเราแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าก้อนเนื้อที่ผิดปกติได้ มันทำให้ฉันต้องลดความร้อนในตัวเองลง และคอยบรรเทาโทสะที่คุกรุ่นอยู่ในจิตใจ

ในเรื่องของภาวะอารมณ์ที่ส่งผลถึงจิตใจ และร่างกาย ไม่เพียงแต่เท่านี้ ยังส่งผลถึงผู้คนรอบข้างเรา มันทำให้เราไม่มีความสุขแล้ว ยังทำให้คนรอบข้างเราเป็นทุกข์ไปด้วย  การได้ตระหนักรู้ถึงอารมณ์นี้ของตัวเอง ส่งผลให้เราทำความรู้จัก ทำความเข้าใจได้มากขึ้น คอยดูแลอย่าให้โทสะเติบโตในจิตใจเราได้ง่ายเหมือนเมื่อก่อน

นอกจากภาวะอารมณ์จะส่งผลต่อจิตใจและร่างกายแล้ว มันยังทำให้คนรอบข้างเราเป็นทุกข์ไปด้วย

เมื่อร่างกายฟื้นตัวดีขึ้น และสามารถออกไปพบปะกับเพื่อนๆ ได้ เพื่อนๆ ที่เจอส่วนใหญ่จะบอกว่า ตัวฉันเปลี่ยนแปลงไป ดูนิ่งขึ้น เรียบร้อย ไม่ซ่าเหมือนเมื่อก่อน  ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะก้อนอารมณ์ก้อนนี้ที่สอนฉันในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการต้องดูแลอารมณ์ เรื่องของโทสะที่ต้องละวาง เรื่องความไม่แน่นอนของชีวิต โดยเฉพาะเรื่องหลังนี้ ฉันได้ตระหนักถึงกฎไตรลักษณ์ข้อแรก คือ “ความเป็นอนิจจัง” ได้มากขึ้น

ระยะเวลาของชีวิตไม่ยาวนานนัก และไม่รู้ว่าชีวิตคนเราจะมีการเปลี่ยนสถานะเมื่อใด (การเปลี่ยนสถานะหรือความตาย) การที่ฉันไม่เรียกว่า “ความตาย” เพราะพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เคยบอกไว้ว่า “ความตายไม่ใช่การสิ้นสุด แต่เป็นการเปลี่ยนสถานะ จากสถานะหนึ่งไปสู่อีกสถานะหนึ่ง เป็นกระบวนการต่อเนื่อง” อย่างเช่น ‘การเปลี่ยนแปลงของตัวดักแด้ไปเป็นผีเสื้อ’ คือการสิ้นสุดสถานะของตัวดักแด้ ไปเป็นสถานะของตัวผีเสื้อ เท่านั้นเอง

เมื่อรู้ว่าชีวิตมีความไม่แน่นอน หมั่นทำความดี และมอบความรัก-ความเข้าใจต่อกันไว้ดีกว่า…….


ภาพประกอบ

ศิริพร ฉัตรหิรัญมงคล

ผู้เขียน: ศิริพร ฉัตรหิรัญมงคล

ผู้หญิงตัวเล็ก รักการเดินทาง รักอิสระชอบที่จะอยู่คนเดียว ชอบกลิ่นกาแฟ